หนุ่ม ปวช.ปี 1 ถูกกลุ่มวัยรุ่นขี่จยย.กว่า 10 คัน ตามไล่ยิงบาดเจ็บสาหัส เพื่อนๆรีบหามส่งโรงพยาบาล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวจนเสียชีวิต พี่สาววอนตำรวจเร่งตามจับกลุ่มวัยรุ่นมาดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ต.ท.ธวัชชัย มานันตพงศ์ สารวัตร(สอบสวน) สน.บางชัน รับแจ้งความว่ามีวัยรุ่นถูกอาวุธปืนยิงมาเสียชีวิต ที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี แขวงและเขตคันนายาว กทม. เมื่อเวลา 0.57 น. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่ห้องฉุกเฉินพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อนายตังค์ โพธิ์มณี อายุ 20 ปีสภาพตามร่างกายพบมีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าบริเวณหัวไหล่ขวา และลำตัวข้างขวารวมกว่า 10 แผล จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ต่อไป

จากการสอบถาม น.ส.ตา ซึ่งเกี่ยวข้องเป็นพี่สาวผู้เสียชีวิต ให้การว่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา น้องชายซึ่งเป็นนักเรียนช่างไฟฟ้า ปวช.ปี 1 สถาบันชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านคลองสามวา หลังเลิกเรียนภาคค่ำพร้อมเพื่อนๆได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ 5-6 คัน เพื่อกลับบ้านพัก ย่านรามอินทรา โดยระหว่างทางได้มีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจยย.กว่า 10 คัน ลักษณะการแต่งกายใส่เสื้อผ้ามิดชิด สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ ก่อนใช้อาวุธปืนไล่ยิงน้องชาย บริเวณแยกวัดแสนสุข ถนนสุวินทวงศ์ เขตมีนบุรี

จากนั้นกลุ่มเพื่อนๆและน้องชายได้ขับรถจยย.หลบหนี แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยังขับขี่รถตามไล่ยิงต่อเนื่องมาจนถึง บริเวณหน้าห้างโลตัส สาขามีนบุรี ก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุจะแยกย้ายกันหลบหนี เมื่อมาถึงช่วงปากซอยรามอินทรา 109 น้องชายตนได้หมดสติเนื่องจากถูกอาวุธปืนยิง และยังมีเพื่อนๆได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน จึงพากันไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี แต่พบว่าน้องชายทนพิษบาดแผลไม่ไหว เนื่องจากถูกยิงกว่า 10 แผลทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

น.ส.ตา ให้การอีกว่า น้องชายไม่เคยมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง ทะเลาะวิวาทกับใคร เพราะช่วงกลางวันต้องทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนหนังสือ ซึ่งส่วนใหญ่หลังเลิกเรียนก็จะไปเล่นเกมออนไลน์ตามบ้านเพื่อน ที่ผ่านมาก็พยายามพูดตักเตือนอยู่ตลอดว่าเรียนอาชีวะต้องระวังตัวให้ดี เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากคู่อริต่างสถาบัน แต่สุดท้ายก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับน้องชายตนเอง

ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นการก่อเหตุของคู่อริต่างสถาบันหรือไม่ ต้องสอบถามจากกลุ่มเพื่อนๆของน้องชายที่อยู่ในเหตุการณ์อีกครั้ง เพื่อนำข้อมูลไปแจ้งความกับตำรวจ สน.มีนบุรี ให้ติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป