บางแสน ชลบุรี

1-148.jpg

คิงคองที่แก่ที่สุด! 'เฮียหมู-พิชัย'วัย58ปีโชว์อึดสับเข้ากลุ่มท็อปบางแสน42 | เดลินิวส์

งานวิ่งรายการใหญ่ของไทย “บางแสน 42 ชลบุรี มาราธอน” ที่เพิ่งผ่านพ้นไป นักวิ่งเหมือนอัดอั้นจากยุคเก็บตัวหลบโควิด-19 มาปล่อยพลังกันเต็มคาราเบล

นอกจากระดับอีลิต หวังแชมป์ เป้าหมายต่อมาของขาแรงคือ การติดท็อป 100 ทั้งชายและหญิง เพื่อคว้าตุ๊กตาคิงคองในตำนาน ที่ถือเป็นเกียรติยศของนักวิ่งก็ว่าได้ เพราะด้วยความใหญ่ของรายการ จะบอกว่าท็อป 100 ของบางแสน42 ก็คือ ท็อป100 ของประเทศก็คงไม่ผิดนัก

อย่างที่บอก ปีนี้กดสถิติโหด สำหรับประเภทชาย นักวิ่งที่เข้าเส้นชัยคนที่ 100 หรือเจ้าของคิงคองตัวสุดท้าย ทำเวลา 3 ชั่วโมง 4 นาที 49 วินาที เร็วกว่าท็อป 100 ปีที่แล้วถึง 7 นาที

และน่าสนใจว่า เจ้าของคิงคองตัวสุดท้าย เป็นคิงคองที่อาวุโสที่สุดซะด้วย ผู้ที่คว้าไปอายุถึง 58 ปี มากที่สุดในบรรดาท็อป 100

“เฮียหมู” พิชัย ปิ่นรัตน์ คือรุ่นเก๋า จอมอึดที่กดสถิติฟูลมาราธอน 42.195 กม. ได้อย่างสวยงาม ชนิดนับหัวคนเข้าเส้นชัยลุ้นกันสนุก

ด้วยอันดับที่หมิ่นเหม่ คนเชียร์ข้างสนามอาจลุ้นจัด แต่คนวิ่งไม่สามารถตามเช็กผลขนาดนั้น

“ผมกะไว้ว่าจะใช้เวลา 3 ชั่วโมง 5 นาที จะมาเอาคิงคองตัวแรกให้ได้ เวลานี้คิดว่าไม่น่าพลาด เพราะปีที่แล้ว 3 ชั่วโมง 11 นาทีกว่าๆ” เฮียหมู กล่าว

“วิ่งไปตามแผนทุกอย่าง ทุกๆ 5 กิโลเมตร จะมีเวลาที่คาดไว้ ก็เป็นไปตามสเต็ป แต่พอถึงช่วง 2 กิโลเมตร สุดท้าย ลงเขามา มีสัญญาณบอกว่า เพิ่งผ่านไป 93 คน ผมก็คิดว่าข้างหลังก็ไม่มีแล้ว ก็จะไปเรื่อยๆ ป้องกันเจ็บ แต่ไม่ประมาท กลัวพลาด ไปไล่แซงอีก 3 คน แต่ปรากฏพอเข้าเส้นชัย ได้อันดับที่ 100 พอดิบพอดี เกือบชวดตุ๊กตา แล้วข้างหลังตามมาติดๆเลย ถ้าผ่อนก็อด”

ทำไมถึงหล่นไปที่ 93 นั่นเพราะว่า มีนักวิ่งที่อยู่ด้านหลัง แม้เข้าเส้นชัยช้ากว่า แต่ตามกติกาการนับท็อป 100 คือ นับ “ชิพไทม์” นั่นหมายถึง เริ่มตั้งแต่นักวิ่งคนนั้นปล่อยตัว จึงเริ่มกดเวลา แล้วสำหรับบางแสน42 มีนักวิ่งเกือบ 1.2 หมื่นคน จึงปล่อยตัวเป็นกลุ่ม จึงเป็นไปได้ที่นักวิ่งกลุ่มหลัง จะทำเวลาดีกว่ากลุ่มแรก แม้เข้าเส้นชัยช้ากว่า

“ภูมิใจ ดีใจ เพราะเราตั้งเป้าไว้ว่าต้องได้ หลังจากหาก่อนมาบางแสน42 พลาดไปนิดเดียว เลยแค้น”

เวลา 3.04.49 ชั่วโมง ของ “เฮียหมู” พิชัย ปิ่นรัตน์ วัยใกล้ 60 ปี เป็นเวลาที่ดีสุดในชีวิตของเขาซะด้วย จากการลงวิ่งระยะฟูลมาราธอน รายการที่ 4 และแน่นอนได้แชมป์ในรุ่นอายุ 55-59 ปี

“ผมวิ่งฟูลมาราธอนครั้งแรกก็บางแสน42 นี่แหละ เมื่อปี 2020 ตอนนั้นทำได้ 3.11 ชั่วโมง พลาดท็อป 100 ไปนิดเดียว ก็เลยแค้นที่พลาดนิดเดียว ตอนนั้นไม่มีประสบการณ์ด้วย แล้วก็วิ่งแบบเกร็งๆ กลัวเจ็บ กลัวตะคริว ทั้งที่จริงๆ กดเวลาลงได้อีก รู้พลาดนิดเดียว เลยตั้งใจว่า ยังไงต้องแก้มือ”

“ยิ่งเห็นสถิติปีก่อน คนที่ 100 อยู่ที่ 3.11 ชั่วโมง เทียบเวลาตัวเองยังไงก็ได้ แต่พอมาแข่งจริง ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าสถิติจะกดกันลึกขนาดนี้ เกือบหลุด ถ้าวิ่งขนาดนี้ แล้วยังไม่ติด(ท็อป 100) ก็คงยากแล้ว แต่จริงๆ เข้ามาก็ยังเหลือนะ”

“มีประสบการณ์มากขึ้น วิ่งบางแสนสนามท้าทาย ทั้งเขา เนิน ทั้งมีถนนเอียง เทคนิคขึ้นเขาสำคัญ ต้องรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา ไม่งั้นเร่งมากตะคริวขึ้นนี่จบเลย ตอนขึ้นเขาบางคนเดินเร็ว แต่ผมจะจ็อกเบาๆ ให้ขาขยับๆ ไม่นิ่งไป แล้วมาอัดตอนลง”

ก่อนลงฟูลมาราธอนแรกในชีวิต พิชัย ปิ่นรัตน์ วิ่งมา 10 กว่าปีแล้ว แต่ลงระยะ 10 กม., 21 กม. เคยทำเวลาฮาล์ฟมาราธอน ดีสุดที่ 1.21 ชั่วโมง แต่อยากลงมาราธอน อยากวิ่งยาวๆ เลยเข้าทีม LU1salaya ของ “โค้ชโอ” อรรถพล เคี่ยมพันธ์ เตรียมตัวอยู่ราว 4 เดือน จึงลงบางแสน 42 ปี 2020

“ก่อนหน้านี้ผมวิ่งเอง อะไรเอง สะเปะสะปะ อยากลงฟูล เลยมาเข้าทีม ทีนี้ได้รู้ตารางซ้อม ตารางแข่ง ที่ช่วยเราได้เยอะ เวลาดีขึ้น วิ่งดีขึ้น”

ถัดจากบางแสน42 เมื่อปี 2020 ก็มาลง บุรีรัมย์ มาราธอน แบบไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว แต่ก็ยังอัดเวลาซะ 3.15 ชั่วโมง จากนั้นพายุโควิดเข้า ส่งผลกระทบชิ่งให้เจออาการบาดเจ็บซะงั้น

“พอโควิดมา เราก็ซ้อมเอง ไม่ได้ไปร่วมทีม แล้วซ้อมไม่ถูกหลัก น้องพาลงคอร์ท(วิ่งทำความเร็วกว่าปกติแต่ละคน) แล้วสนามทางโค้งไม่ดี โค้งไม่รับเหมือนลู่วิ่ง วิ่งนานๆ เข้าสะสม เจ็บเข่า ทีแรกหมอบอกอาการเข่าเสื่อม น้ำในข้อแห้งหมด ผมก็ใจหาย”

เฮียหมู ต้องพักไป 4-5 เดือน จังหวะเริ่มกลับมาซ้อมได้ ก็ซ้อมอย่างถูกวิธี อาการเจ็บกลับหายไปดื้อๆ จนพอดีขึ้นเมื่อต้นปีก็ลงฟูลที่อุทัยธานี ซัดไป 3.10 ชั่วโมง ก่อนจะค่อยๆ เตรียมตัว มาอัดเต็มข้อ คว้าคิงคองที่บางแสนสมใจหมาย และปีนี้จะทิ้งท้ายที่หนองคาย ช่วงคริสมาสต์

นักวิ่งวัยเก๋า ติดใจการวิ่งไกล บอกเหนื่อยน้อยกว่า ทรมานน้อยกว่า 10 กับ 21 กม. เน้นลงฟูลตลอด นับตั้งแต่วิ่งมา สุขภาพไม่ต้องพูดถึง แข็งแรง ฟิตปั๋ง ไม่เคยหาหมอ(นอกจากเจ็บเข่า)

“ได้สุขภาพ ได้มิตรภาพด้วย การวิ่งก็แล้วแต่คน ถ้าวิ่งแบบสบายๆ ก็สนุกไปอีกแบบ บางกลุ่มมีเป้าหมาย อย่างผมก็มีเป้าหมายด้านเวลา มันก็สนุกนะ แต่หนัก หนักกับการซ้อม การแข่ง เหนื่อย เพราะมีเป้าหมาย”

“แบบไหนก็ได้ ความสุขของการวิ่งแต่ละคนไม่เหมือนกัน จะวิ่งช้า วิ่งเร็ว ได้สุขภาพหมด”

“อายุผมก็จะ 60 แล้ว มีความสุขกับการวิ่ง มันได้อะไรหลายๆ อย่าง ก็จะวิ่งไปเรื่อยๆ มีเป้าหมายไปเรื่อยๆ” เฮียหมู พิชัย ปิ่นรัตน์ ทิ้งท้าย

สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง ออกกำลังกายกันตามกำลัง จะเน้นจริงจัง วิ่งเอาโล่แบบ เฮียหมู หรือชิลๆ ก็แล้วแต่

หาจุดพอดี หาความสุขของตัวเองให้เจอ เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตหรือไม่ ไม่รู้ แต่สภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นแน่นอน.

*** วุฒินล บุญวานิช ***

เรื่องล่าสุด