เกิดกรณีดราม่าก่อนหน้านี้ที่ แร็ปเปอร์ หนุ่มชื่อดัง ILLSLICK ( อิลสลิก ) หรือ ทิฆัมพร เวชไทยสงค์ ได้มีการยกเลิกการแสดงคอนเสิร์ตที่ร้านดังย่านนนทบุรี แบบกระทันหัน โดยเจ้าตัวก็ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่า ทางร้านไม่มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งเจ้าหน้าที่บางคนยังไม่ให้เกียรติตน และทีมงาน รวมไปถึงเรื่องเครื่องเสียง และอุปกรณ์ต่างๆ ในการแสดงที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่เคยตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้นตนจึงตัดสินใจยกเลิกการแสดง เพราะอยากให้แฟนๆ ได้ชมการแสดงที่ดีที่สุด ไม่ใช่การแสดงที่ไม่มีคุณภาพ พร้อมขอโทษแฟนๆ ที่ตั้งใจมาดูการแสดงของตนด้วย

ต่อมา ทางร้านก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจเช่นกัน โดยทางร้านได้ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง ตามที่เพจของ ILLSLICK ออกมาชี้แจง ทางร้านจะน้อมรับความผิดทุกประการ โดยจะรับผิดชอบด้วยการคืนเงินค่าบัตรคอนเสิร์ตให้กับทุกคน และจะโอนเงินค่าเปิดโต๊ะคืนทุกโต๊ะ โดยทุกโต๊ะสามารถกินฟรี พร้อมกับสัญญาว่าจะแก้ไข้ ปรับปรุงทุกอจ่างให้ดีขึ้น จะอบรบพนักงาน และจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก

ล่าสุด ดราม่า เก่าเพิ่งจบไป ดราม่า ใหม่ก็ตามมาติดๆ เมื่ออยู่ๆ หนุ่ม ILLSLICK ( อิลสลิก ) ก็ได้พูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าว กลางเวที ในขณะที่กำลังทำการแสดงอยู่ โดยมีการกล่าวพาดพิงถึง ศิลปินร็อกสตาร์ ที่ออกมาวิ่งเพื่อการกุศลท่านหนึ่ง งานนี้หลายคนคาดว่าคนที่หนุ่ม ILLSLICK ( อิลสลิก ) กล่าวถึงน่าจะเป็นหนุ่ม ตูน บอดี้แสลม ทำให้แฟนๆ ของหนุ่ม ตูน ต่างก็ไม่พอใจกันยกใหญ่

ตนเลยถามกลับไปว่า “ควายที่ไหนเปรียบเทียบนักดนตรีที่ยืนอยู่ตรงนี้กับนักวิ่ง กูแต่งเพลงเองเป็นร้อยเพลง เอ็มวีก็ทำด้วยเงินของกูเอง ไม่เคยไปกราบตีนให้ค่ายเพลงเป็นชีวิตกู อย่าเอาคนอย่างกูไปเปรียบเทียบกับคนแบบนั้น แล้วท่าน ถ้าท่านมั่นใจว่าซูเปอร์สตาร์ยอดนักวิ่งของท่านยอดเยี่ยมกว่าผม เรียกขึ้นมาประชันกับผมตรงนี้เดี๋ยวนี้เลย แล้วใครที่ยอมเล่นในสถานการณ์แบบนั้น ถือว่าคุณทรยศต่ออาชีพของคุณเอง และคุณทรยศกับแฟนเพลงของคุณ เพราะคุณไม่เคยคิดถึงใครนอกจากเงิน และตัวของมึงเอง กูมาตรงนี้เพื่อร้องเพลงไปพร้อมๆ กับพวกมึง และมองเข้าไปในตาของพวกมึง มาเพื่อพวกมึง กูไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ร็อกอะไร กูไม่ใช่ยอดนักวิ่ง กูคือ อิลสลิก ของพวกมึงทุกคน และที่กูพูด ถ้าแน่ขึ้นมาตรงนี้ตัวตัวกับกู กู แชมป์ Battle Audio”

ส่วนทางด้านของหนุ่ม ตูน บอดี้แสลม เองก็ยังไม่ได้มีการออกมาเคลื่อนไหวใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ งานนี้เราคงต้องรอติดตามกันต่อไป