ความสุขเรียบง่ายที่หลายคนฝันว่าจะมี คือ การตื่นเช้ามาแล้วมีความสุขที่จะได้เริ่มทำงานอันเป็นที่รัก มาเติมพลังบวกไปกับ Bicycle Boys Clubhouse คลับเฮ้าส์ของคนรักจักรยาน, Madi Café (มาดิ คาเฟ่) ครีเอเตอร์ฮับและคาเฟ่แสงสวย, Chutie is baking ห้องทำงานแสนสุขของชุติมา และ C43 : Fashion and Inspiration Space ห้องเสื้อของกุลยา ศูนย์รวมของความเป็นเจริญ 43
4 เรื่องราวที่จะช่วยเติมไฟเติมใจให้มีความสุขไปกับการทำงานในวันนี้
Bicycle Boys Clubhouse : คลับของคนรักจักรยาน
ความสุขของ กล้อง – ตุลลวัต เทศะแพทย์ คือ การได้ขี่จักรยานจากบ้านย่านเอกมัยลัดเลาะมาทำงานที่
Bicycle Boys Clubhouse คลับเฮ้าส์ของคนรักจักรยานที่มีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการควบคู่ไปกับการรับซ่อม จำหน่าย อุปกรณ์ และอะไหล่จักรยานไปพร้อมกัน
กล้อง – ตุลลวัต เทศะแพทย์ บาริสต้าและนักปั่นจักรยาน
“การมาของโควิดทำให้ผมตัดสินใจได้เร็วขึ้น” กล้องกล่าวถึงที่มาของการเปิดร้านตามความฝันที่หลอมรวมประสบการณ์ทั้งหมดที่มีในวัย 24 ไม่ว่าจะเป็นความรักในจักรยานและการเป็นบาริสต้าอาชีพ
“ผมปั่นจักรยานมาตั้งแต่เด็ก แข่งจักรยานเสือภูเขามาตั้งแต่ 9 ขวบ เพราะชอบจักรยานมากทำให้เราชอบที่จะศึกษาหาความรู้ แล้วลองซ่อมดู เก็บประสบการณ์มาเรื่อยๆ จนมีโอกาสได้มาทำงานเป็นบาริสต้าที่ร้าน Sweet Pista (สุขุมวิท 33) ซึ่งเป็นร้านที่ทุกคนรักในการปั่นจักรยานเหมือนๆกัน”
กล้องเล่าถึงชีวิตที่ผูกเรื่องราวของจักรยานกับกาแฟที่นำทางมาถึงวันนี้
ฮ็อทดอกโรยหอมเจียวและพริกดองรสเข้มข้น ข้าวเบคอนหั่นชิ้นหนาคั่วพริก และ Hash Browns เมนูสไตล์ Bicycle Boys
“ที่นี่เราใช้เมล็ดกาแฟไทยจากโรงคั่ว Ink & Lion เมนูกาแฟมีไม่มาก เอสเพรสโซ่ อเมริกาโน่ ลาเต้ เดอร์ตี้ ส่วนอาหารเป็นเมนูง่ายๆ ฝีมือของหุ้นส่วนที่เคยเป็นเชฟอยู่ที่ Sweet Pista มีแซนด์วิช อาหารจานเดียว สลัด และเนื้อย่างเตาถ่าน
บาริสต้าและพ่อครัวร้านเราคุยเรื่องจักรยานกันได้หมดทุกคนครับ แค่คุณรู้สึกว่าชอบจักรยาน แวะมาคุยกับเราได้ มาทำความรู้จักกันก่อนก็ได้ครับ ตอนนี้กำลังวางแผนว่าจะจัดนิทรรศการ หรืองานกิจกรรมเกี่ยวกับจักรยานมากขึ้น นอกเหนือไปจากการปั่นจักรยานสัปดาห์ละ 2 วัน คือ วันพุธสองทุ่มและวันอาทิตย์ห้าโมงเย็น
เป็นการปั่นไปแกลลอรี่บ้างไป ปั่นไปเที่ยวที่สวยๆ ในกรุงเทพฯ เปิดให้คนที่สนใจมาจอยไปด้วยกัน ได้สนุกกับการปั่นจักรยานโดยที่ไม่ได้มีขอบเขตว่าจะต้องใช้จักรยานประเภทไหน”
Bicycle Boys Clubhouse เปิดร้านเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีอายุไม่ครบขวบปีแต่เริ่มเป็นหมุดหมายที่นักปั่นทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ามาเยี่ยมเยียน นักปั่นชาวสเปนนำภาพวาดที่สะท้อนบรรยากาศกรุงเทพฯ มาจัดแสดงภายในร้าน บางคนมาพร้อมจักรยานแล้วชวนไปปั่นท่องย่านเก่าด้วยกัน
พื้นที่จักรยานบนชั้น 2
เร็วๆนี้ Bicycle Boys เตรียมเปิดแบรนด์เสื้อผ้าและของที่ระลึกสำหรับนักปั่น พร้อมแบ่งปันพื้นที่ชั้นบนของร้านเปิดทางให้ศิลปินที่ชอบปั่นจักรยานมาจัดกิจกรรมทางศิลปะ จะเป็นดนตรี จิตรกรรม ประติมากรรม หรืออื่นๆ ก็สามารถมาคุยกันได้
- สนใจกิจกรรมของชาว Bicycle Boys เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ก : Bicycle BOYS
- หรือแวะมาสนทนากันที่ร้าน Bicycle Boys Clubhouse เปิดทุกวัน 08.00 – 20.00 น.
Madi Café : คาเฟ่แสงสวย
มาดิ คาเฟ่ สีขาวดีไซน์สะดุดตาด้วยการเปิดรับแสงทำให้เรานั่งจิบกาแฟมองฟ้าสวยๆได้อย่างกว้างไกล จี๊ป-สาธิยา ศิริพจนากร อดีตบรรณาธิการบริหาร นิตยสารเอสไควร์ ประเทศไทย (Esquire Thailand) กล่าวถึงการเปิดคาเฟ่ร่วมกับเพื่อน เมย์ – เมธกานต์ ขวัญเมือง ในชื่อ มาดิ ว่ามีคอนเซปต์ที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนโดยแท้ หากกลับไปดูที่ป้ายชื่อร้านจะเห็นคำว่า The Circle of Friends ล้อมชื่อ Madi เป็นวงกลม
จี๊ป-สาธิยา ศิริพจนากร เจ้าของร้าน Madi Café
“ปกติเราจะ Say Hi ! หรือ Welcome แต่ที่นี่เราอยากจะพูดว่า Come on หรือ มาดิ แบบไทยๆ เราเชื่อในวงจรของเพื่อนที่ดึงดูดคนแบบเดียวกันให้มาเจอกัน ถ้าคนที่เข้ามาแล้วรู้สึกว่าที่นี่เป็นของเขาก็จะกลับมาอีก”
จี๊ปสร้างบรรยากาศในการดึงดูดเพื่อนด้วยสไตล์การตกแต่งร้านแบบ Minimal Nordic เปิดรับแสงธรรมชาติอย่างไม่กลัวแดด ทำให้สเปซภายในร้านดูสว่าง ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น สะอาดตา
ชั้นล่างจัดเป็นมุมกาแฟน่านั่งในอารมณ์ที่แตกต่างกัน หากคุณชอบความนิ่ง สงบ แนะนำให้เลือกโซนด้านหลัง ถ้าชอบความเคลื่อนไหวหน้าร้านเหมาะกับคุณ
ดีไซน์ที่เป็นมิตรกับแสงแดดภายใน Madi CaféCreator Hub พื้นที่เปิดกว้างสำหรับจินตนาการบนชั้น 2
เมนูกาแฟมีให้เลือกหลากหลาย หากคุณเป็นคอกาแฟดำจะมีทั้งกาแฟดริปและกาแฟจากเครื่องชงให้เลือก ส่วนถ้าเป็นคอกาแฟนม Madi Cuture Coffee ถือเป็นเมนูแนะนำที่หลายคนถูกใจ แต่ถ้าใครชอบกาแฟเย็น Yuzu Americano by MR.B คือเมนูเด่น
Belgian Choc Croffle,Truffle Mushroom Pie และ Madi Cuture Coffee
เมนูเบเกอรี่ มีให้เลือกชิมกันวันละ 5 ชนิด ได้แก่ Croissant, Croffle, Belgian Choc Croffle,Truffle Mushroom Pie และ Giant Sausage Pie
“กาแฟ เครื่องดื่ม ขนม จี๊ปเลือกเอง เทสต์เองทั้งหมด ไอเท็มที่หมดทุกวัน คือ Truffle Mushroom Pie ส่วน Belgian Choc Croffle เป็นขนมที่เหมาะกับกาแฟดำ รสหวานของขนมจะเข้ากับรสขมของกาแฟได้พอดี”
ส่วนพื้นที่ชั้นสองของมาดิ จัดเป็น Creator Hub พื้นที่สำหรับจัดแสดงผลงานศิลปะ เวิร์คช็อป รวมไปถึงมินิคอนเสิร์ต ปรับเปลี่ยนไปได้ตามความคิดสร้างสรรค์ น่าติดตามเพราะกิจกรรมจะเปลี่ยนไปทุกเดือน
ถ้าคุณชอบไลฟ์สไตล์คาเฟ่แนวนี้ เราอยากบอกว่า “มาดิ” ดีนะ
- Madi Café (มาดิ คาเฟ่) เปิดทุกวัน 10.00 – 17.00 น.
- เฟซบุ๊ก : Madi Bkk
Chutie is Baking : ห้องทำงานแสนสุข
ถ้าได้มานั่งทำงานในมุมเล็กๆ ภายในห้องนี้คงดีนะ เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาใน Chutie is Baking คงมีความคิดแบบนี้แว่บขึ้นมาในหัว
เปิดประตูสู่ห้องทำงานของ ชุติมา บวรรัตนโชติ
แม้ว่าที่นี่จะเป็นห้องครัวเบเกอรี่หลักของ เอ้-ชุติมา บวรรัตนโชติ สำหรับส่งไปขายยังร้าน Sweet Pista ที่ Warehouse 30 (เจริญกรุง 30) แต่ด้วยความที่พื้นที่ยังมีพอที่จะเปิดเป็นคาเฟ่ขนาดกะทัดรัด จึงตั้งชื่อใหม่ว่าเป็น Chutie is Baking แล้วขายขนมที่แตกต่างจาก Sweet Pista ส่วนเมนูเครื่องดื่มมีกาแฟและชาให้เลือกจับคู่กับขนม
มุมคาเฟ่ที่สามารถมองเห็นการทำงานของครัวขนมได้อย่างใกล้ชิด
เอ้ เล่าถึง Chutie ชื่อที่มาจาก ชุติมา ว่าเป็นชื่อที่เรียกขานกันมานานในหมู่คนใกล้ชิด ส่วนเมนูที่คิดเป็นการจับคู่เค้กกับผลไม้สดในรูปแบบของพาร์เฟ่ต์ (parfait)แทนที่ไอศกรีม
“ปกติพาร์เฟต์จะเป็นไอศกรีมหรือน้ำแข็งไสใส่ถ้วยวางเป็นเลเยอร์สลับกับผลไม้ เราก็เปลี่ยนมาใช้เค้กแทน ส่วนผลไม้จะมีกล้วย สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ เชอร์รี่ มะม่วง และองุ่น
ตอนนี้เราเพิ่ม ทาร์ตลูกฟิก และ Lemon Posset ที่เสิร์ฟในอยู่ในเปลือกเลมอน กินคู่กับ Short bread เป็นขนมอังกฤษโบราณที่เรามาหัดทำแล้วปรับสูตรนิดหน่อยค่ะ” เอ้เล่าถึงทาร์ตลูกฟิกและ Lemon Posset ที่ประดับด้วยดอกเดซี่จิ๋วที่วางอยู่ตรงหน้า
Lemon Posset เสิร์ฟมาพร้อม Short bread
หลังจากปล่อยให้เราได้ลิ้มรสกับทาร์ตลูกฟิกรสหวานบางๆ ที่โรยเกลือสีชมพูลงไปช่วยดึงรสชาติให้กลมกล่อมขึ้น ได้สัมผัสกับความเข้ากันของ Short bread กับเนื้อครีมของ Lemon Posset เจ้าของร้านก็มาพร้อมกับ Earl Grey Potion ไซรัปชาเอิร์ลเกรย์ในขวดแก้วที่ให้เราเทลงในโซดาเย็นจัด กลายเป็นเครื่องดื่มรสหวานสดชื่นที่มีกลิ่นหอมของชาที่แสนละมุน
ทาร์ตลูกฟิก Lemon Posset และ Earl Grey Potion
ไม่แปลกใจเลยที่ห้องทำงานใหม่ของ Chutie จะเป็นครัวที่สร้างสรรค์เมนูใหม่ๆออกมาได้เรื่อยๆ เพราะบรรยากาศของห้องที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้ กลิ่นหอมของขนม การตกแต่งที่ชวนให้รู้สึกสบายใจ ดีต่อการสร้างเสริมจินตนาการเป็นอย่างยิ่ง
- Chutie is baking เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ 10.00 – 18.00 น.
- เฟซบุ๊ก : Chutie is baking
C43 : Fashion and Inspiration Space
ศูนย์กลางของโครงการ Charoen 43 Art & Eatery ที่เป็นทั้งศูนย์รวบรวมสินค้าไลฟสไตล์จากไทย
ดีไซเนอร์ รวมถึงสินค้าวินเทจ ถ้วยชาม กระเป๋าและเครื่องประดับ แกลลอรี่ และออฟฟิศ ของ ยิ้ม-กุลยา กาศสกุล Project Manager ของ Charoen 43
ยิ้ม-กุลยา กาศสกุล Project Manager ของ Charoen 43
กว่าจะมาเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ที่ส่งต่อแรงบันดาลใจนี้ ยิ้มบอกว่าต้องใช้เวลาปรับปรุงตึกแถวที่อยู่ซ้อนกัน 10 คูหา ครึ่งหนึ่งอยู่ด้านติดถนน อีกครึ่งหนึ่งซ้อนอยู่ด้านหลัง แล้วปรับพื้นที่เป็นร้านค้า 8 ร้าน
“ตึกแถวชุดนี้ พี่โด่ง-ปรกฤษฏ์ สุดสัตย์ ได้รับมรดกตกทอดจากครอบครัว ยิ้มมาช่วยดูแลโครงการค่ะ แรกๆคิดว่าจะเปิดให้ร้านสะดวกซื้อ หรือร้านกาแฟแบรนด์ดังมาเช่า ช่วยกันคิด จนท้ายที่สุด พี่ป๊อบ – สมัชชา อภัยสุวรรณ (ช่างภาพและคู่คิดของยิ้ม) เสนอว่าน่าจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซน คือ ด้านในและริมถนน โดยมี courtyard ขนาดจิ๋วเชื่อมระหว่างพื้นที่ภายนอกสู่ภายใน ใช้คอนเซปต์ Art & Eatery มาจับเพื่อเติมสีสันให้กับเจริญกรุง”
courtyard ขนาดจิ๋วเชื่อมระหว่างพื้นที่ภายนอกสู่ภายใน
เมื่อความคิดตกผลึก ยิ้มโพสต์ความคืบหน้าของการรีโนเวทอาคารไปพร้อมกับแนวคิดผ่านเฟซบุ๊ก ทำให้มีคนทราบข่าวและมาจับจองเต็มทุกคูหาในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์
“โครงการเปิดตัวในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พร้อมกับเทศกาลบางกอกดีไซน์วีค ได้รับความสนใจเป็นอย่างดี ตอนนี้นอกจากร้านกาแฟ ร้านอาหาร คลับจักรยานแล้ว เรามีร้าน Bangkok MOJO และ Vinyl Record & Bar มาเติมสีสันทางเสียงเพลงให้สมบูรณ์ขึ้น”
มุมสินค้าวินเทจใน C43
ส่วน C43 : Fashion and Inspiration Space ร้านค้าและห้องทำงานของยิ้ม เปิดพื้นที่ชั้นบนเป็นแกลลอรี่ ที่สามารถใช้จัดเวิร์คช้อปวาดรูป ทำนายดวงชะตา หมุนเวียนเปลี่ยนไปได้ ในขณะที่ชั้นล่างเป็นร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นของไทยดีไซเนอร์
ถ้าคุณเป็นแฟนคลับของ โก้ – ชัยชน สวันตรัจฉ์ (เจ้าของแบรนด์ Good Mixer) เอก ทองประเสริฐ
(เจ้าของแบรนด์ Ek Thongprasert และ Curated by Ek Thongprasert), ศรัณญ อยู่คงดี (เจ้าของแบรนด์ ‘SARRAN’) แวะมาชมผลงานออกแบบของพวกเขาได้ที่นี่
ส่วนใครที่ชอบเสื้อผ้าแนววินเทจ เครื่องประดับ กระเป๋า และเครื่องถ้วยเซรามิค มีให้ชมช้อปกันได้เพลินใจ
ทางเดินที่นำไปสู่ร้านค้าในโครงการที่อยู่ด้านใน
“เราอยู่เจริญกรุงมานาน เรารู้ว่าสิ่งไหนที่แถวนี้ยังไม่มี หรือมีแล้วก็อยากให้มีเยอะขึ้น เช่น แกลลอรี่ หรือ บาร์แจ๊ส เพราะเราอยากให้ Charoen 43 เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างสีสันให้เจริญกรุงให้มีความน่าสนใจมากขึ้น”
ใครที่มองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆลองแวะไปเติมใจให้ฟูกันที่ Charoen 43 Art & Eatery ปากซอยเจริญกรุง 43 เยื้องไปรษณีย์กลาง บางรัก อิ่มท้อง อิ่มใจ ได้ช้อปปิงไปพร้อมกัน
- Charoen 43 Art & Eatery เปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ 10.00-19.30 น. เสาร์-อาทิตย์ 10.00-20.30 น.
- เฟซบุ๊ก : Charoen43
ภาพ : ศุกร์ภมร เฮงประภากร