เช้านี้ที่หมอชิต – สำหรับความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ ผับเมาท์เทน บี เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่จากวิศวกรรมสถาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความผิดปกติของโครงสร้าง และระบบต่าง ๆ เพื่อทำรายงานส่งให้ตำรวจประกอบสำนวนคดี เบื้องต้นพบว่ามีการก่อสร้างผิดหลักวิศวกรรมหลายอย่าง และระบบไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐานด้วย

เมื่อวานนี้ นางสาวบุษกร แสนสุข ประธานคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมป้องกันอัคคีภัย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมไฟฟ้า ป้องกันอัคคีภัย และโยธา ร่วมตรวจสอบโครงสร้างด้านวิศวกรรมรวมถึงข้อมูลระบบความปลอดภัยทั้งหมด ของผับเมาท์เทน บี ร่วมกับตำรวจ สภ.พลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อเปรียบเทียบแปลนอาคารที่ขออนุญาต

โดยพบว่าตำแหน่งอาคาร ขออนุญาตอีกจุดหนึ่งของพื้นที่ ส่วนภายในจากแผนผังไม่ตรงกับแบบแปลนที่ขออนุญาต รวมถึงความปลอดภัยของทางเข้าออกพบประตูด้านหลังล็อก และขนาดประตูด้านหน้าไม่ได้มาตราฐาน ส่วนระบบไฟฟ้ายังไม่ได้มาตรฐานตามหลักวิศวกรรมไฟฟ้า โดยคาดว่า1-2 สัปดาห์ จะสรุปข้อมูลก่อนรวบรวมเอกสารหลักฐานให้ตำรวจใช้ประกอบสำนวนคดีต่อไป

ด้านคดี เมื่อวานนี้ตำรวจส่งตัว นายสมยศ ปั้นประสงค์ หรือ เสี่ยยศ อายุ 55 ปี พ่อของเสี่ยบีฝากขังต่อศาลจังหวัดพัทยา ในข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัส และร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย

แต่ต่อมาทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวในวงเงิน 1 ล้านบาท และศาลจังหวัดพัทยา ได้พิจารณาโดยมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวและปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมทั้งติดกำไล EM โดยกำหนดเงื่อนไขไว้ คือ ห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือ ก่อเหตุร้ายประการอื่น และให้มารายงานตัวเมื่อครบฝากขังครั้งที่ 2 ครั้งที่ 4 และครั้งที่ 7 ส่วนที่มีการยื่นหลักประกันสูงถึง 1 ล้านบาท เนื่องจากมีการคัดค้านการประกันตัว จากทั้งผู้เสียหายและพนักงานสอบสวน

ขณะเดียวกัน ญาติคนเจ็บ และคนเสียชีวิต จากเหตุการณ์ เม้าท์เทน บี ที่เดินทางมาคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาล โดยญาติรายหนึ่งเปิดเผยว่า ระหว่างรอคำสั่งศาล ได้มีโทรศัพท์จากตัวแทนของร้าน โทรมาขอเจรจาค่าเยียวยาต่าง ๆ  ซึ่งทางญาติบอกตัวเลขที่ต้องการไปบ้างแล้ว แต่อยู่ที่การพิจารณาเจ้าของผับ โดย 1 ในญาติของผู้เสียชีวิต ได้เรียกร้องการเยียวยาการตายของลูกชายไว้สูงถึง 6 ล้านบาท

นางสาวรำไพ ชิงชาติ อายุ 37 ปี มารดาของ นายกรวิทย์ เม็งคำมี อายุ 17 ปี หรือ น้องกั๊ก 1 ในเหยื่อที่เสียชีวิต เปิดเผยว่ายังเชื่อมั่นใจกระบวนการยุติธรรม และมั่นใจจะได้รับความเป็นธรรม ส่วนการช่วยเหลือเยียวยานั้น ตอนนี้มีแค่เงินช่วยงานศพ 50,000 บาทเท่านั้น ซึ่งมองว่าน้อยเกินไป หากเทียบกับความสูญเสียที่ตนและครอบครัวได้รับ

โดยด้านการดำเนินคดีนั้น ในส่วนของตนเอง มอบหมายให้ นายเชาว์ มีขวด เป็นทนายความดูแลช่วยเหลือในเรื่องของคดี ยอมรับว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะที่ ทนายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ที่นำญาติผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ไปรวมตัวกันยื่นคัดค้านการประกันตัว “เสี่ยยศ” เปิดเผยหลังนายสมยศได้ประกันตัว โดยหวังว่า นายสมยศ จะทำตามที่ประกาศไว้ว่าจะหาเงินมาเยียวยาผู้สูญเสีย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ตนจะรวบรวมค่าเสียหายทั้งหมดของทั้ง 29 ครอบครัว คาดว่าแต่ละครอบครัวความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท