พนักงานโรงแรมดังในพื้นที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต ประท้วงเชิงสัญลักษณ์หลังจาก “ทนายษิทรา” บุกพิสูจน์ตอนตี 2 อ้างชาวบ้านร้องเรียนเปิดเพลงดัง เปิดเกินเวลายันเช้า ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และกลุ่มพนักงานห่วงผลกระทบตกงาน
วานนี้ (16 เม.ย.2565) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์เฟซ บุ๊กษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ระบุว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวภูเก็ตว่าได้รับความเดือดร้อนจากโรงแรมแห่งหนึ่ง มีการเปิดสถานบันเทิงเกินเวลา มั่วสุม เสียงดังก่อความรำคาญและมีสิ่งผิดกฎหมายมาเป็นปีๆ แจ้งเจ้าหน้าที่ก็นิ่งเฉย จึงขอมาดูด้วยตาตัวเอง ปรากฎว่าสถานบันเทิงนี้เปิดยันเช้าจริง และคนเยอะขนาดนี้ หากเกิดคลัสเตอร์ใหม่อีกจะทำอย่างไร
ทั้งนี้คลิปความยาว 3 นาทีที่นายษิทรา นำมาเผยแพร่ เป็นภาพบรรยากาศในระหว่างเดินเข้าบริเวณสระน้ำ มีดีเจเปิดเพลง ท่ามกลางนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่กำลังเดินเที่ยวอยู่ภายในซอยบางลา
ต่อมาเวลา 23.15 น.นายศิวัชฐ์ ระวังกุล นายอำเภอกะทู้ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ปลัดอำเภอ สมาชิก อส.อ.กะทู้ ที่ 2 ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบโรงแรมดังกล่าวเพื่อแจ้งเตือน และกำชับให้ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวได้เข้าใจให้ปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 1403/2565 เรื่องผ่อนคลายมาตรการปิดสถานที่และกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค (สั่ง ณ วันที่ 25 ก.พ.65) และมาตรการความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2565 อย่างต่อเนื่อง
พนักงานประท้วงเชิงสัญลักษณ์-ห่วงตกงาน
ขณะที่บริเวณซอยบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้จ.ภูเก็ต พนักงานชายหญิงของโรงแรม ประมาณ 50 คน ต่างออกมายืนชูป้ายข้อความต่างๆ เช่น พี่หิวแสงเราหิวข้าว พวกเราหิวข้าวไม่ได้หิวแสง ไม่อยากตกงาน เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์กรณีดังกล่าว
หนึ่งในหุ้นส่วนของโรงแรมดังกล่าว ระบุว่า กรณีทนายความคนดัง มาไลฟ์บรรยากาศต่างๆภายในโรงแรมป่าตองเบย์ฮิลล์ เกิดขึ้นในช่วงเวลา 02.00 น.วันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้พนักงานของโรงแรมต้องตกงาน ผู้ประกอบการอาจต้องปิดกิจการชั่วคราว พนักงานต่างออกมารวมตัวแสดงจุดยืนกันอย่างสงบเรียบร้อยเป็นการแสดงออกเชิงสัญญลักษณ์ว่าไม่เห็นด้วยกั
ช่วงโควิด-19 ภูเก็ตได้รับผลกระทบมากว่า 2 ปี ไม่มีมีใครมาดูแล แต่พอที่จะลืมตาอ้าปากก็มาแสดงอำนาจแบบนี้ ทำให้สถานประกอบการได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ได้รับความเสียหาย
