24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 18 มีนาคม 2565 

>> นายกฯ ยังไม่อนุญาตให้ถอดหน้ากากอนามัย-ยังไม่ปรับโควิดเป็นโรคประจำถิ่น

09.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.ได้พิจารณาปรับมาตรการ ปรับสีพื้นที่ และหาแนวทางเปิดการท่องเที่ยวแบบปลอดภัยรองรับการเปิดประเทศ รวมถึงปรับปรุงอีกหลายมาตรการ ซึ่งสิ่งสำคัญคือเป็นห่วงสถานการณ์ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงได้กำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดหลายอย่าง และย้ำว่าทุกพื้นที่ที่จัดงานต้องปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุข หากพบไม่ปฏิบัติตามจะถูกสั่งปิดการจัดงานทันที ขณะเดียวกันขอให้ระมัดระวังการทำกิจกรรมต่างๆ และขอให้ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค.อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่มากขึ้น 

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในต่างประเทศมีการระบาดมากกว่าไทย แต่มาตรการดูแลรักษาของไทยก็ทำได้ดีกว่า ยาและวัคซีนก็มีเพียงพอ ซึ่งปัจจุบันเตรียมวัคซีนไว้กว่า 3 ล้านโดส จึงขอรณรงค์ให้มาฉีดวัคซีนเข็ม 3 มากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการจัดงาน ตนเองได้สั่งการให้ฉีดวัคซีนแก่ประชาชนให้มากที่สุด พร้อมขอให้ระมัดระวังผู้ที่มีโรคประจำตัว ซึ่งล่าสุด คือผู้ป่วยโรคไต ที่มีความเสี่ยงสูง

ส่วนการปรับโรคโควิด-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่น ขณะนี้ยังเป็นเพียงแผนงาน หากสถานการณ์ดีขึ้น จึงจะสามารถดำเนินการได้ แต่ยังไม่ใช่ว่าต้องทำทันทีในช่วงเวลานี้ เพราะต้องมีขั้นตอนต่างๆ พร้อมกันนี้เตือนให้ประชาชนระมัดระวังตนเองในการใช้ชีวิต และต้องสวมหน้ากากอนามัย โดยยืนยันว่า ศบค.ยังไม่อนุญาตให้ถอดหน้ากากอนามัย ตามที่มีกระแสข่าว ส่วนเรื่องการจัดคอนเสิร์ตนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องขออนุญาต และกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมงานที่เหมาะสม รวมถึงต้องจัดในที่โล่งแจ้ง หรือ ร้านอาหาร ไม่อนุญาตให้จัดในสถานที่ปิด ยืนยันไม่ได้ห้ามการแสดงดนตรี แต่หากพบว่าจัดแสดงดนตรีในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ก็จะมีตรวจสอบ ซึ่งวันนี้ตรวจเจอหลายพื้นที่ จึงได้กำชับว่าหากไม่ปฏิบัติตามมาตรการให้สั่งปิดทันที เพราะถือว่ามีความผิดและต้องรับผิดชอบตามกฏหมาย 

>> อาการ “พยาบาล น้องอุ้ม” ลืมตาเองได้ – หายใจเองได้ไม่ต้องใช้ออกซิเจน 

10.00 น. โรงพยาบาลราชวิถี ออกประกาศ เรื่อง รายงานความคืบหน้าอาการ “น้องอุ้ม” พยาบาล รพ.อุ้มผางมารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลราชวิถี (ฉบับที่ 9) 

ความคืบหน้าอาการผู้ป่วยในขณะนี้ พบว่า ผู้ป่วยสามารถลืมตาตื่นเองได้ดี แต่ยังไม่ทำตามสั่ง ไม่มีอาการเหนื่อย สามารถหายใจได้เองโดยไม่ต้องใช้ออกซิเจนผ่านทางท่อเจาะคอ ไม่มีอาการชักเกร็ง สามารถรับอาหารได้ดีทางสายยาง แขนและขาทั้งสองข้างมีแรงขยับตามแนวราบ ยังคงมีนักกายภาพบำบัดเข้ามาดูแล เพื่อช่วยฟื้นฟูกำลังกล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่อง 
โดยแพทย์ผู้ดูแลให้ความเห็นว่า ผู้ป่วยมีการฟื้นตัวในระดับที่น่าพอใจ และหากมีอาการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ จะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบในลำดับถัดไป 

>> แม่สั่งพักงาน!! ทนายกฤษณะ ตั้งทนายเดชา ดูแลคดีแตงโมแทน 

11.00 น. ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของคุณแตงโม นิดา สั่งปลด นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความ ออกจากคดีแตงโมนั้น ระบุว่า 
แม่แตงโมได้สั่งให้ทนายกฤษณะให้หยุดพักจากการทำหน้าที่ก่อน แต่ยืนยันไม่ได้มีการปลดออกจากการเป็นทนายส่วนตัวของแม่แตงโม ซึ่งสาเหตุมาจากที่ ทนายกฤษณะไม่เชื่อฟัง ในการไปให้สัมภาษณ์ออกสื่อและแสดงความคิดเห็นขัดแย้งกับตำรวจ จนทำให้รูปคดีเสียหาย ทำให้แม่ไม่พอใจมาก เนื่องจากคุณแม่เตือนหลายครั้งแล้ว

อีกทั้ง ทนายกฤษณะไปสงสัยตำรวจ ทั้งที่คุณแม่ไม่สงสัยอะไรเลย ทำให้ตำรวจเขาก็เครียดคนไปต่อว่าเขา จึงเป็นเหตุทำให้คุณแม่สั่งทนายกฤษณะพักก่อน โดยจะมีการเรียกทนายกฤษณะเข้ามาทำความเข้าใจอีกครั้ง โดยหลังจากนี้จะเป็นทนายเดชาคนเดียวที่จะทำหน้าที่ดูแลคดีแตงโม 

>> ปคบ. บุกทลายโกดังเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ ปลอม 

12.00 น. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา รวมถึง ผู้บริโภคจำนวนมาก ว่า ได้ซื้อเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ดัง ราคาถูก แต่เมื่อใช้แล้วผลปรากฏว่าเป็นผลิตภัณฑ์ปลอมและด้อยคุณภาพ 

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้นำหมายค้นของศาลอาญาพระโขนง เข้าค้นสถานที่เก็บสินค้า ในพื้นที่แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร โดยพบหญิงสาวชาวเวียดนาม ( สงวนชื่อและนามสกุล ) แสดงตนเป็นผู้ดูแลโกดัง จากการตรวจสอบภายในสถานที่ พบว่า มีการเก็บสินค้าเคาน์เตอร์แบรนด์ดัง รวมกว่า 18 ยี่ห้อแบรนด์ดัง มูลค่าโดยรวมมากกว่า 70,000,000 บาท ซึ่งขณะนี้ ได้ดำเนินคดีตามความผิด พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2534 ฐานขายเครื่องสำอางที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี 

>> ยอดผู้ติดเชื้อโควิด ประจำวัน 

12.30 น. ศบค. รายงาน ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2565 จำนวนรวม 27,071 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 27,022 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 49 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 80 ราย 

>> จับจริง!! ก.พาณิชย์ ชี้ ผู้ผลิตไม่มีสิทธิ์ปรับขึ้นราคาสินค้า-ค้ากำไรเกินควร 

13.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งให้พาณิชย์จังหวัดลงพื้นที่ตรวจตลาดทุกระดับ พร้อมรายงานถึงตนทุกวัน โดยเฉพาะสินค้าหมวดสำคัญ 18 หมวด ที่สำคัญต่อชีวิตประจำวัน ซึ่งราคายังไม่มีการปรับขึ้น แต่หลายรายการปรับลดลงและมีการจัดโปรโมชั่นในห้างสรรพสินค้าใหญ่หลายรายการ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า 

ขณะเดียวกันสินค้าประเภทอื่น ยังไม่อนุญาตให้ขึ้นราคา บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยังให้จำหน่ายที่ซองละ 6 บาท และที่แมคโครขายส่ง ซองละ 5.10 บาท น้ำมันพืช น้ำมันปาล์ม ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศขวดละ 62.84 บาท น้ำมันถั่วเหลือง เฉลี่ยอยู่ที่ขวดละ 61.19 บาท ที่โลตัส 55-60 บาท แต่หลังจากนี้ไปต้องยอมรับความจริงว่าต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น “ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเกรงว่า ช่วงสงกรานต์นี้จะมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้านั้น ขณะนี้ผู้ผลิตไม่มีสิทธิ์ที่อยู่ๆ จะมาขึ้นราคา ถ้าขึ้นราคาจนกลายเป็นการค้ากำไรเกินควร ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย” 

>> รอง ผบ.ตร. ชี้แจง!! ปมหลวงพี่อุเทน แถลงข่าว อ้างถูกตำรวจ ตชด. คุกคาม 

16.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ในฐานะกำกับดูแลกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กล่าวถึงกรณี หลวงพี่อุเทน พร้อมปอ-โรเบิร์ต ออกมาแถลง อ้างถูกตำรวจ ตชด. คุกคาม ระบุว่า 
จากที่ได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด. ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้เกี่ยวข้องกับการไปธุดงค์แต่อย่างใด เพียงแต่ ตชด. ไม่อยากให้ข้ามผ่านจุดตรวจ ซึ่งเป็นแนวชายแดนด้านความมั่นคง โดยเจ้าหน้าที่ต้องดูแลไม่ให้มีการกระทำความผิดต่างๆ ทั้งการลักลอบแรงงานต่างด้าว สินค้าหรือของผิดกฎหมาย ยาเสพติด ฯลฯ และอีกอย่างเป็นยุทธการของทหารอีกด้วย

เพื่อความปลอดภัย จึงไม่อยากให้คนทั่วไป หรือการไปธุดงค์เป็นความเสี่ยง อาจจะดูแลไม่ไหว ไม่ใช้กรณีของการไปเกี่ยวข้องหรือติดตาม เป็นการทำงานปกติของหน่วย ตชด. เท่านั้น 

>> คุมเข้มส่งออกผลไม้ต้อง Zero COVID เท่านั้น

17.00 น. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในช่วงระหว่างนี้ เรื่อยไปจนถึงประมาณเดือนกันยายน เป็นช่วงที่ผลไม้ภาคตะวันออกให้ผลผลิต ผลไม้สำคัญหลายชนิด โดยเฉพาะ ทุเรียน มังคุด และเงาะ ปีนี้ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา คาดว่า ผลผลิตทุเรียนปีนี้อยู่ที่ประมาณ 744,549 ตัน มังคุด 210,864 ตัน และเงาะ 210,646 ตัน และเพื่อเป็นการรักษาคุณภาพมาตรฐานของผลผลิตไม้ผลภาคตะวันออกตลอดทั้งฤดูกาล 

ในปี 2565 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้กำหนดเป้าหมายในการส่งออกผลไม้ภาคตะวันออก เพื่อเพิ่มศักยภาพการส่งออก สร้างความเชื่อมั่นสู่ผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศและการส่งออกผลไม้ต้อง Zero COVID เท่านั้น 

>> ไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน 

18.00 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รับแจ้งเหตุ เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ อาคารพจน์พัฒนา คอนโดมิเนียม เลขที่ 151/1 ซอยรามคําแหง 187 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร 

ลักษณะที่เกิดเหตุ เป็นอาคาร 5 ชั้น ใช้สำหรับพักอาศัย ต้นเพลงเกิดขึ้นที่ชั้น 3 ภายในห้อง A100 เพลิงลุกไหม้ เครื่องรับโทรทัศน์ ตู้ ที่นอน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 25 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟต่อพ่วง ไม่มีผู้ได้รับบาดหรือเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางชัน 

>> สาวขี่จยย. ชนกับรถกระบะ เสียชีวิต 

19.30 น. สภ.วารินชำราบ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิต บริเวณจุดกลับรถ ถนนวารินชำราบ – กันทรลักษ์ ฝั่งขาเข้า ช่วง ก.ม.ที่ 6 บ้านคอนสาย ต.โนนโหนน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี 

โดยที่เกิดเหตุเป็น รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 สีขาว-น้ำเงิน ทะเบียน 1 กค-738 อุบลราชธานี เฉี่ยวชนกับรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา ทะเบียน ผธ-8291 อุบลราชธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อ นางสาว พิศมัย อายุ 19 ปี ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน 

  เรือหาปูชนซากโป๊ะเก่า ล่มกลางทะเลบางแสน เสียชีวิต 1 สูญหาย 1 ราย 

 22.00 น.  สภ.แสนสุข รับแจ้งว่าจากชาวประมงว่า มีเรือชนกับซากโป๊ะเก่ากลางทะเล ทำให้มีผู้เสียชีวิตและหายไปบริเวณชายหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงได้ประสานงานกับทางอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ และกู้ภัยชมรมกู้ชีพทางทะเลฉลามขาวออกค้นหา และสามารถค้นหาร่างผู้เสียชีวิตได้ 1 คนคือ น.ส.น้ำผึ้ง อายุประมาณ 30 ปี จึงได้นำร่างมาขึ้นฝั่งที่บริเวณชายหาดแหลมแท่น ส่วนสามีคือนายสมพร ได้สูญหายไปในทะเล กู้ภัยพยายามค้นหาแต่ไม่เจอร่างแต่อย่างใด 

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายสมพรกับ น.ส.น้ำผึ้ง ได้ขับเรือมาจาก ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มาหาปูบริเวณทะเลหน้าชายหาดบางแสน ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งพลบค่ำ คาดว่าขณะที่กำลังขับเรือหาปูได้ไปชนกันซากโป๊ะเก่ากลางทะเลทำให้เรือล่ม ทำให้ น.ส.น้ำผึ้งเสียชีวิตและลอยน้ำขึ้นมา เนื่องจากรูปร่างอ้วน ส่วนสามีได้หายไปในทะเล คาดว่าประมาณ 2 วัน ศพอาจจะลอยขึ้นมาในทะเล 
จากการสอบถามเพื่อนบ้านกล่าวว่า ปกติครอบครัวของผู้เสียชีวิตนั้น จะออกมาหาปูพร้อมกับลูกอีก 2 คน แต่จากการตรวจสอบพบว่าลูกทั้ง 2 คนยังอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ออกมาหาปูแต่อย่างใด ทำให้รอดตายอย่างหวุดหวิด  

>> แผ่นดินไหวที่เมียนมา แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึง อ.แม่สาย 

  00.52 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.8 แมกนิจูด ความลึก 4 กม. ภายในพื้นที่ประเทศเมียนมา   ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 23 กม. แรงสั่นสะเทือน สามารถรับรู้ได้ในหลายพื้นที่ของ อ.แม่สาย  

>> ไฟไหม้รถจยย. เสียหายวอดทั้งคัน 

23.00 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รับแจ้งเหตุไฟไหม้รถจักรยานยนต์ สถานที่เกิดเหตุ โครงการบ้านเอื้ออาทรลาดกระบัง 2 ถนนประชาพัฒนา แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 

ลักษณะที่เกิดเหตุ รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ไม่ทราบสี เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งคัน รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากอุบัติเหตุลื่นล้ม มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย เพศชาย ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของ สน.ลาดกระบัง 

>> ไฟไหม้ร้านจำหน่ายยาง โชคดีไม่ลุกลาม 

02.28 น.  ม.ร่วมกตัญญู แจ้งเหตุ พบแสงเพลิง และกลุ่มควัน จำนวนมาก ออกมาจากร้านขายยาง บริษัท หมูหวานช็อป จำกัด ริมถนนราชพฤกษ์ ฝั่งมาจากถนนสาย 345 ก่อนถึงสะพานข้ามคลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขณะนี้รถดับเพลิง กำลังเดินทางไปที่เกิดเหตุ 

ม.ร่วมกตัญญู คืบหน้า ขณะนี้รถดับเพลิงคลองข่อย เร่งระดมหัวฉีดน้ำ จนสามารถควบคุม และล่าสุดเพลิงเริ่มลดลง ยังไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของ สภ.ชัยพฤกษ์  

>> สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 19 มีนาคม 2565 เวลา 05.00 น. 

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจำนวน 467,389,047 ราย รักษาอาการดีขึ้น 398,800,067 ราย เเละเสียชีวิตสะสม 6,091,145 ราย 

1. ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 81,363,966 ราย เสียชีวิต 996,487 คน (เพิ่มขึ้น 328 คน) 
2. ประเทศ อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 43,005,914 ราย เสียชีวิต 516,381 คน (เพิ่มขึ้น 59 คน) 
3. ประเทศ บราซิล ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 29,527,640 ราย เสียชีวิต 656,487 คน (เพิ่มขึ้น 62 คน) 
4. ประเทศ ฝรั่งเศส ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 23,957,773 ราย เสียชีวิต 140,841 คน (เพิ่มขึ้น 112 คน) 
5. ประเทศ อังกฤษ ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 20,093,762 ราย เสียชีวิต 163,511 คน (เพิ่มขึ้น 125 คน) 

ประเทศไทยอยู่อันดับ 34 ของโลก ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,303,169 ราย (เพิ่มขึ้น 27,071 ราย) เสียชีวิต 24,078 คน (เพิ่มขึ้น 80 คน)  

Share this: