เมื่อดูเฉพาะเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือน 16.15 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 66,400 ล้านบาท โดยปัจจัยสนับสนุน มีดังนี้

1.การเดินทางช่วงวันหยุดยาว (วันนวมินทรมหาราช และวันปิยมหาราช) กลุ่มครอบครัว Gen Y กลุ่มวัยทำงาน เน้นเที่ยวใกล้ ทำกิจกรรมร่วมกันได้

2.กระแสการท่องเที่ยว “เมืองโบราณศรีเทพ” ใน จ.เพชรบูรณ์ และกระแสเที่ยวตามรอยละครเรื่อง “พรหมลิขิต” ใน จ.พระนครศรีอยุธยา

3.การเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟ KIHA183 แบบพักค้างคืน และแบบไปเช้า-เย็นกลับ กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเดือน ต.ค. ในธีม “เที่ยวปลายฝน ต้นหนาว ดาวเกลื่อนฟ้า”

4.การจัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวของ ททท. งานประเพณีสำคัญของท้องถิ่น เช่น งานเทศกาลกินเจ งานประเพณีออกพรรษา งานประเพณีสารทเดือนสิบ รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยวตามความสนใจเฉพาะ เช่น งานเทศกาลโต้คลื่น เขาหลัก คลาสสิก อินเตอร์เนชันแนล เซิร์ฟ 2023 จ.พังงา, งานพัทยา อินเตอร์เนชันแนล บิกินี่ บีช เรซ 2023 จ.ชลบุรี, การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2023 จ.บุรีรัมย์ และงาน PT Maxnitron Racing Series 2023 จ.สงขลา

และจากบรรยากาศ (Sentiment) ของนักท่องเที่ยวคนไทยในช่วง 3 สัปดาห์แรกของเดือน ต.ค. พบว่า คำค้นหายอดนิยมจาก “กูเกิล เทรนด์ส” (Google Trends) ส่วนใหญ่เป็นการค้นหาที่เที่ยวและที่พักในพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เที่ยวได้ทั้งปี เหมาะกับคนทุกวัย เช่น บางแสน ระยอง เขาใหญ่ และกาญจนบุรี นอกจากนี้การท่องเที่ยวเมืองรองก็มีการค้นหามากขึ้น

ด้านแหล่งท่องเที่ยวสำหรับเด็กที่ได้รับความสนใจ มีชื่อของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว (ชลบุรี) ซาฟารีเวิลด์ (กรุงเทพฯ) และไร่ทองสมบูรณ์คลับ (นครราชสีมา) ขณะเดียวกันจังหวัดที่มีงานประเพณีเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ก็ได้รับความสนใจด้วย เช่น นครศรีธรรมราช และนครพนม