บางแสน ชลบุรี

566000009323601.jpg

ผู้ว่าฯชลสั่งสอบโครงการ Bike lane สัตหีบงบ 50 ล.เสร็จ 6ปีไม่เปิดใช้แถมตั้งงบซ่อมใหม่อีก 16ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวศรีราชา – พ่อเมืองชลบุรี สั่งตรวจสอบโครงการจักรยาน Bike lane รอบสวนป่าสิริเจริญวรรษฯ อ.สัตหีบ ทับที่ดินชาวบ้าน พบดำเนินการเสร็จนาน 6 ปีไม่เคยเปิดใช้ซ้ำยังมีการของบซ่อมแซมอีก 16 ล้านบาท
 
จากกรณีที่มีชาวบ้านในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และนักปั่นจักรยานได้พากันร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อให้ตรวจสอบความโปร่งใสในการใช้งบประมาณจำนวน 50 ล้านบาทจัดทำโครงการเส้นทางจักรยานหรือ Bike lane ในพื้นที่โดยรอบสวนป่าสิริเจริญวรรษ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 จังหวัดชลบุรี ระยะทางยาว 20 กิโลเมตร

โดย จ.ชลบุรี ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมพลศึกษา และผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีในขณะนั้นได้มอบหมายให้ นางอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างดำเนินโครงการ ซึ่งปรากฏว่า บริษัท บางแสนมหานคร จำกัด เป็นผู้ชนะงานประมูลในวงเงินกว่า 47 ล้านบาทและให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.2558 โดยมีระยะเวลาสิ้นสุดสัญญาจ้างในวันที่ 18 ก.ย. 2559

แต่สุดท้ายได้มีการขอรับการขยายเวลาออกไปอีก 180 วัน เพื่อปรับปรุงแบบจากเส้นทางเดิม 20 กิโลเมตรซึ่งทำได้เพียง 17.80 กิโลเมตรก็สิ้นสุดสัญญาจ้างเมื่อวันที่ 17 มี.ค.2560 และทางบริษัทฯ ได้ส่งมอบงานโดยพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาค้ำประกันงาน 2 ปี แต่ก็เกิดปัญหาไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ดูแลให้โครงการป่าสิริเจริญวรรษฯ ได้ เนื่องจากสภาพถนนถูกน้ำเซาะบางช่วงชำรุดจนหวั่นว่าอาจเกิดอันตรายต่อนักปั่นจักรยาน

และจะไม่เปิดให้ใช้งานจนกว่าจะได้รับอนุมัติเงินแผนพัฒนาจังหวัดอีกจำนวน 16 ล้านบาท นั้น


วันนี้ ( 11 ต.ค.) นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้สั่งการให้ นายสุนทร มูเนาวาเราะ นายอำเภอสัตหีบ เชิญหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลและความเป็นมาของโครงการฯ โดยเฉพาะเรื่องที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากเส้นทางจักรยานที่ตัดผ่านที่ดินซึ่งมีเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก ของชาวบ้านประมาณ 30 ไร่ และยังมีประชาชนอีกหลายรายที่ได้รับความเดือดร้อนในวาระเดียวกัน

นอกจากนั้นยังได้มอบหมายให้ นายประพันธ์ศักดิ์ ขวัญศรี นายช่างรังวัดชำนาญการ สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ ร่งตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

โดยในเบื้องต้นพบเอกสิทธิ์ น.ส.3 ก. จำนวน 2 แปลงคือ น.ส.3 ก เลขที่ 452 เนื้อที่ 33 ไร่ 1 งาน 26 ตารางวา และน.ส.3 ก. เลขที่ 453 เนื้อที่ 43 ไร่ 33 ตารางวา ได้มีการออกเอกสารสิทธิ์ไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2519 ก่อนจะเกิดโครงการเส้นทางจักรยานของ จ.ชลบุรี จนทำให้ผู้ครอบครองแจ้งว่า เส้นทางจักรยานซ้อนทับบนผืนที่ดินของตนเอง


ขณะที่ นายระพิพัฒน์ เกตุกวี อายุ 41 ปี ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจากเจ้าของที่ดินเอกสารสิทธิ์ทั้ง 2 แปลง เผยว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเจ้าของที่ดินและประชาชน ยังสับสนว่าโครงการเส้นทางจักรยานเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จึงไม่มีใครกล้าออกมาเรียกร้องสิทธิ์

“ แต่เมื่อทราบว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่มาขอใช้พื้นที่สวนป่าสิริเจริญวรรษ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยไม่ใช่โครงการพระราชดำริตามที่เข้าใจ จึงพากันออกมาขอเรียกร้องสิทธิ์ในที่ดินกลับคืน” ทนายความ กล่าว

ทั้งนี้ พื้นที่สวนป่าสิริเจริญวรรษ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อยู่ในพื้นที่ ม. 7 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีเนื้อที่รวมทั้งหมด 360 ไร่ซึ่งอยู่ติดกับเขตเขาชีโอน วัดญาณสังวรารามวรวิหาร ห่างจากเขาแกะพระใหญ่ประมาณ 1 กิโลเมตรโดยมีอาคารรกร้างขนาดใหญ่ที่สร้างไว้สำหรับเป็นอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและนักปั่นจักรยาน

ปัจจุบันโครงการดังกล่าวถูกปิดตายและไม่เคยเปิดใช้งานมานานถึง 6 ปีแล้ว

เรื่องล่าสุด