รายการ “ถอนหมุดข่าว”เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 21 ก.พ.65 นำเสนอรายงานพิเศษ อิทธิพลมืด-การเมือง จากยุคเป๊าะถึงรุ่นลูก บ้านใหญ่ชลบุรีใกล้สนธยา?
การเปรียบเปรยลูกน้องเก่าเป็น “หมา” ของนายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำกลุ่มพลังชล พุ่งเป้าไปที่ “เสี่ยเฮ้ง” นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน
สะท้อนอุณหภูมิความแค้นที่นายสนธยามีต่อนายสุชาติ ร้อนแรงพอๆกับ “โทนี่ วู้ดซัม” หรือนายทักษิณ ชินวัตร ที่ด่า “แรมโบ้อีสาน” ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ เป็น “หมา” เช่นกัน
การตอกกลับอย่างดุเดือดของนายสุชาติ ชมกลิ่น ที่ตั้งฉายานายสนธยา คุณปลื้มเป็น “แม่ทัพอัลไซเมอร์” ก็สะท้อนความหมดสิ้นแล้วซึ่งความนับถือยำเกรง ที่เคยมีให้กับพ่ออย่าง “กำนันเป๊าะ” นายสมชาย คุณปลื้ม
จนน่าสงสัยว่า สนธยากาล กำลังจะมาเยือนชีวิตทางการเมืองของนายสนธยา หรือไม่?
กำนันเป๊าะ จากไปได้ไม่ถึง 3 ปี อาการแข็งข้อ กระด้างกระเดื่อง จากเด็กในบ้าน ก็สำแดงออกมา หากเป็นยุคกำนันเป๊าะยังมีอำนาจบารมี สิ่งนี้จะไม่มีวันผุดออกมาให้เห็นเป็นดราม่า
พูดกันแบบไม่ต้องอ้อมค้อม กำนันเป๊าะ คือเจ้าพ่อมาเฟียตัวจริงเสียงจริง คดีบงการฆ่า “กำนันยูร” นายประยูร สิทธิโชติ ซึ่งคดีสิ้นสุด ศาลพิพากษาจำคุกกำนันเป๊าะ 25 ปี เป็นหลักฐานที่จับต้องได้ ไม่แค่เรื่องที่ผู้คนแค่ร่ำลือกันไป
องค์กรของกำนันเป๊าะ หากเทียบกับเจ้าพ่อยุคเดียวกันอย่าง “เฮียเหลา” แคล้ว ธนิกุล มาเฟียเบอร์หนึ่งของเมืองหลวง ต้องบอกว่า กำนันเป๊าะสร้างองค์กรเป็นระบบกว่าเฮียเหลา ราวฟ้ากับเหว
เพราะกำนันเป๊าะแผ่อิทธิพลมืดไปสร้างอิทธิพลทางการเมือง แล้วก็ใช้อิทธิทางการเมือง คุ้มครองอิทธิพลมืดของตัวไปด้วย
เขาเป็นนักปั้นนักการเมืองระดับชาติมายาวนาน ส่งไกลไปถึงเก้าอี้รัฐมนตรีก็หลายคน ขณะเดียวกัน ก็กระจายระบบอุปถัมภ์ไปสู่การปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ
ทั้งที่ตัวเอง มีชื่อนำหน้าแค่กำนัน ตำแหน่งทางการเมืองใหญ่สุดก็แค่ “นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข” ดูแลหาดบางแสนแถวบ้าน แต่กำนันเป๊าะเป็นเจ้านายของรัฐมนตรีอีกที
การเมืองระดับชาติพุ่งเข้าหากำนันเป๊าะ ตั้งแต่ยุคที่เจ้าพ่อเมืองชลหมายเลข 1 ยังชื่อ “เสี่ยจิว” นายจุมพล สุขภารังษี
เสี่ยจิวเอง เริ่มงานการเมืองด้วยการเป็นหัวคะแนนให้กับนายธรรมนูญ เทียนเงิน ต่อมาดันนักการเมืองหน้าใหม่ นายบุญชู โรจนเสถียร ให้เป็น ส.ส.สมัยแรก ที่จ.ชลบุรี โดยหนึ่งในหัวคะแนนที่เทเสียงจากบางแสนให้นายบุญชู ก็คือกำนันเป๊าะ
แชมป์เก่าที่พ่ายแพ้ให้แก่นายบุญชู อย่าง พล.ต.ศิริ ศิริโยธิน ยังต้องยอมเข้าหาเสี่ยจิว แล้วยอมย้ายเขตเลือกตั้ง จึงได้กลับมาเป็น ส.ส.
อีกคนคือ นายสมพงศ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็แจ้งเกิด โดยให้กำนันเป๊าะอุ้มเข้าสภา
เมื่อเสี่ยจิวโดนปลิดชีพด้วยอาวุธสงคราม เมื่อปี 2524 ก็เกิดฆ่ากันตามมาอีกหลายศพ ในช่วงเวลาของสูญญากาศอำนาจ แต่ในที่สุด คนที่ผงาดขึ้นมาแทนเสี่ยจิวอย่างแท้จริง ก็คือกำนันเป๊าะนี่เอง
การแข่งขันในสนามเลือกตั้ง ส.ส.เมืองชล แม้เต็มไปด้วยความรุนแรง แต่ก็ไม่ถึงกับฆ่าผู้สมัคร ส.ส.ทิ้ง
หวยไปออกที่บรรดาหัวคะแนน พอใกล้เลือกตั้งก็เหมือนเป็นฤดูใบไม้ร่วงของเหล่าหัวคะแนน เพราะระบบการซื้อเสียงผ่านหัวคะแนน เป็นเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพ สำหรับการเลือกตั้งในยุคนั้น
คนละอย่างกับสมัยนี้ แค่หาเสียงผ่านโซเชียลมีเดีย ก็สามารถชนะเลือกตั้งได้
อีกทีที่จะมีหัวคะแนนเมืองชลตายกันเป็นใบไม้ร่วง ก็ตอนเสร็จศึกเลือกตั้ง หัวคะแนนคนไหนมีพฤติกรรม อม “กระสุน” ซึ่งก็คือเงินซื้อเสียง จนได้คะแนนห่างไกลจากเป้าที่รับปากไว้ ก็จะได้กิน “กระสุน” ของจริง
ว่ากันว่า หัวคะแนนขาใหญ่ที่สังเวยชีวิตหลังเลือกตั้ง
ก็คือ “ชัยขาว” นายสุชัย ธนาวรรณ นายกเทศมนตรีบ้านบึง เจอกระสุนสงครามถล่มเละคารถหรูที่เพิ่งถอยมาขับ
เมื่อวิธีการนี้ ถูกทำซ้ำๆ หลายๆ ปี ในที่สุดก็ไม่มีหัวคะแนนรายไหนกล้าตุกติกเจ้าของเงิน นักการเมืองซุ้มบ้านใหญ่ จึงผงาดเหนือคู่แข่งทุกพรรค
อย่างไรก็ตาม ผู้สมัคร ส.ส.บางคน “ไม่ถูกแตะต้อง” อย่างนายอุทัย พิมพ์ใจชน ซึ่งฉายเดี่ยวไปผงาดเป็น ส.ส.กลางดงเจ้าพ่อได้ ทั้งที่นายอุทัยเอง ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลอะไร
ไม่ต้องพูดถึงคนที่มีอิทธิพลในตัวอยู่แล้ว อย่าง “เฮียซุ้ย” นายดรงค์ สิงห์โตทอง สามารถบดบี้เป็นคู่แข่งกับฝ่ายกำนันเป๊าะ จนกระทั่งวางมือไปเอง
งานวิจัยเรื่อง “กลุ่มบ้านใหญ่บางแสน (ตระกูลคุณปลื้ม) กับการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562” โดย โอฬาร ถิ่นบางเตียว ระบุว่า แม้สะสมต้นทุนมานานกว่า 4 ทศวรรษแล้ว แต่ตระกูลคุณปลื้ม ก็เจอคนแสดงความไม่พอใจอย่างออกหน้า หลังการเลือกตั้งปี 2562
คนๆ นั้นก็คือ “สุชาติ ชมกลิ่น” นี่เอง
โปรดติดตามต่อ ep.2