บางแสน ชลบุรี

53106579276_d635775874_o.jpg

ฟังเสียงผู้ได้รับผลกระทบ 'เทศกาลแข่งรถบางแสน' หวังเปิดประชาพิจารณ์-ชดเชยรายได้ ใช้ถนนอย่างมีส่วนร่วม

ฟังเสียงผู้ได้รับผลกระทบจาก ‘เทศกาลแข่งรถแข่งประจำปีบางแสน’ สะท้อนปัญหา เสียง แรงสั่นสะเทือนขณะแข่งและแบริเออร์ป้องกันอุบัติเหตุจากการแข่ง แต่ระหว่างเตรียมการประชาชนในพื้นที่กลับประสบอุบัติเหตุเสียเอง โดยพวกเขาหวังเปิดประชาพิจารณ์ ชดเชยรายได้ การแก้ปัญหาโดยใช้พื้นที่สาธารณะที่ใกล้แหลมแท่นเปิดการออกแบบงานอย่างมีส่วนร่วม

การแข่งรถแข่งประจำปีของบางแสน หรือ bangsaen Grand Prix ที่เพิ่งจบไปเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเทศกาลประจำปีที่ 17 ที่มีผู้เข้าร่วมและเข้ารับชมเป็นจำนวนมากมีผู้ติดตามตลอดการแข่งขัน โดยมีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)สนับสนุนการโปรโมทการท่องเที่ยวในพื้นที่บางแสน ชลบุรี ยังเป็นการร่วมมือกันจังหวัดและเทศบาลเพื่อจัดงานแข่งครั้งนี้ยังเกิดการร่วมมือจากหลายภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนในการจัดเทศกาลประจำปีและสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในจังหวัดนั้น

แต่การท่องเที่ยวที่ถูกนำเสนอและพยายามจะสนับสนุนจากหลายภาคส่วน กลับส่งผลกระทบต่อประชาชนในบริเวณที่จัดการแข่งรถโดยเฉพาะ แหลมแท่น เป็นบริเวณหลักที่ใช้ในการเป็นสนามแข่ง 

เสียง แรงสั่นสะเทือนขณะแข่งและแบริเออร์ กับความหวังดูแลชดเชยรายได้

ภาพปฏิกิริยาของเยาวชนซึ่งเข้ารับชมการแข่งขัน

“สิ่งที่พี่ต้องอดทนกับการแข่งรถบางแสนในทุกๆ ปี ก็คือเสียง เสียงและแรงสั่นสะเทือนจากการแข่งรถเพราะว่าบ้านพี่อยู่ริมถนนตรงที่เขาใช้ในการขับรถแข่งเลย ดังนั้นมันจะมีทั้งเสียงและแรงสั่นสะเทือนจากการแข่งรถที่ส่งผลกระทบต่อทั้งคนในบ้านและตัวบ้านด้วย” เอ (นามสมมติ)อาชีพนักดนตรี หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากการจะแข่งรถดังกล่าว อธิบายว่าเสียงและแรงสั่นสะเทือนจากความเร็วของรถทำให้ตนจะต้องออกจากพื้นที่เพื่อไปพักเพราะไม่สามารถอดทนกับเสียงและแรงสั่นสะเทือนจากการแข่งรถได้

ภาพแบริเออร์หนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งถูกติดตั้งล่วงหน้าการแข่งประมาณครึ่งเดือน เพื่อเตรียมการจัดแข่งรถ 

“คือพี่ไม่ได้มีปัญหากับการแข่งรถนะ แต่ว่าการที่แข่งแล้วมันทำให้ประชาชนแหลมแท่น-อ่างศิลาขาดรายได้ไป อันนี้คือปัญหา”เอ อธิบายว่าตลอดการแข่งรถในหลายปีมานี้ ไม่เคยมีการเยียวยาจากหน่วยงานภาครัฐเลย เพราะการแข่งรถนี้จะต้องปิดถนนและทำให้หลายชุมชนเช่นชุมชนแหลมแท่นไม่สามารถสัญจรได้ปกติ

ภาพแบริเออร์ที่ถูกติดตั้งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต

“เราไม่ได้มีปัญหากับการที่เขาจัดรถแข่งถึงจะเสียงดังแสบแก้วหูเราก็ไปซื้อที่อุดหูมาดูแลตัวเองเอา ก็ไม่เป็นไรยังพอไหว แต่ว่าอยากให้ชดเชยรายได้ที่หายไปตั้งแต่ช่วงที่เริ่มติดตั้งแบรีเออร์เพราะมันทำให้ลูกค้าเดินเข้าร้านเราไม่สะดวกรายได้เราก็หายตามไปด้วย” เจ้าของร้านค้าริมถนนถนนริมหาดบางแสนอธิบายว่าการติดตั้งแบริเออร์เพื่อความปลอดภัยในการแข่งรถเพื่อลดอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ดีและการแข่งรถก็เป็นสิ่งที่เขายอมรับได้ แต่ว่าอยากให้มีการดูแลชดเชยรายได้ของร้านค้าที่อยู่ในเขตสนามแข่ง และสะดวกปลอดภัยต่อลูกค้าที่จะเข้ามาซื้อของ

“จริงๆ มันควรมีเงินชดเชยการขาดรายได้เพราะว่าเขาปิดถนนตั้งแต่ต้นเดือนเพื่อจัดเตรียมสถานที่ กันแบริเออร์ให้เป็นสนามแข่งรถและพอหลังแข่งก็ต้องใช้เวลาอีกจนถึงสิ้นเดือนเพื่อเคลียร์ถนนเคลียร์อุปกรณ์ต่างๆ ของ เขาออกไป ดังนั้นประชาชนในบริเวณที่อยู่รอบเส้นทางต้องขาดรายได้ไปเป็นเวลาหนึ่งเดือนด้วยเช่นกันดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่รัฐจะต้องรับผิดชอบต่อรายได้ที่ขาดหายไป” เอ กล่าวเสริมถึงปัญหาการขาดรายได้ หากมองจากแผนที่การแข่ง เส้นทางจะวนรอบชุมชนแหลมแท่น ทำให้ขาดรายได้ การสัญจรไม่ปกติ เสียงและแรงสะเทือนจากการแข่งขัน และแบริเออร์ที่ติดตั้งและนำออกก็ใช้เวลานาน ทำให้เอและหลายๆ คนในชุมชนตั้งคำถามต่อเทศการแข่งรถ

“เขาไม่เคยมาถามเรานะ แค่มาแจ้งช่วงเวลาเปิดปิดถนน ซึ่งก็ต้องรีบออกกันทุกบ้าน ไม่มีใครอยากใช้สะพานชั่วคราวของเขาหรอก ชีวิตมันวุ่นวายมากนะ” เอ กล่าว

โรงเรียนแหลมแท่นต้องหยุดการเรียนการสอนในช่วงที่มีการแข่งรถเพราะเสียงดังเกินกว่าจะจัดการเรียนการสอนได้ หรือร้านอาหารที่ไม่มีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้จอดรถ เพราะว่าหน้าร้านถูกใช้เป็นเส้นทางในการแข่งรถไปแล้ว ก็ต้องปิดร้านไปทำให้ขาดรายได้ 

แบริเออร์ป้องกันอุบัติเหตุจากการแข่ง แต่ระหว่างเตรียมการประชาชนในพื้นที่กลับประสบอุบัติเหตุ

ในช่วงระหว่างการติดตั้งแบริเออร์ ถนนในพื้นที่ใกล้เคียงรอบบริเวณเส้นทางการแข่งตั้งแต่เขาสามมุก อ่างศิลา แหลมแท่น จนถึงบางแสน มีการนำแบริเออร์มาติดล่วงหน้าก่อนการแข่งขันรถ โดยต้องเจาะถนนและนำแบริเออร์เข้าไปติดตั้ง ทำให้เส้นทางถนนที่คนในพื้นที่ใช้ในการสัญจรไม่เหมือนเดิม ทำให้ไหล่ทางรอบเส้นทางการแข่งหายไป

แม้จะเป็นการจัดเตรียมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการแข่งขัน สิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่กลับเป็นอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดจากการติดตั้งแบริเออร์ ช่วงเตรียมก่อนการแข่งแต่ใช้เวลาตลอดเดทอนมิถุนายนจึงจะเสร็จสมบูรณ์ เพื่อให้พร้อมต่อเทศการแข่งรถประจำปี 7 วัน ส่งผลให้ถนนขาดไหล่ทาง และหลังจากแข่งเสร็จใช้เวลาอีกหนึ่งเดือนเพื่อปรับปรุงถนนและนำแบริเออร์ที่ติดตั้งสำหรับการแข่งออก จึงมักเกิดอุบัติเหตุบนถนนอยู่เสมอ เพราะคนในท้องถิ่นคุ้นชินกับถนนปกติ เมื่อมีการติดตั้งแบริเออร์นอกจากไหล่ทางหายไป เส้นทางจราจรก็เปลี่ยนไปด้วย

หนึ่งในอุบัติเหตุจากการเตรียมสนามแข่งครั้งนี้ เกิดเหตุรถมอเตอร์ไซค์ชนท้ายรถยนต์ที่บริเวณถนนริมหาดแหลมแท่น ช่วงกลางเดือนมิถุนายน ใกล้วงเวียนแหลมแท่นซึ่งถูกเปลี่ยนให้รถเวียนไม่ได้ และกลายเป็นทางตรง เนื่องจากรถกระบะจอดกินเลนถนนหนึ่งเลน เพราะแบริเออร์กินไหล่ทาง จึงไม่สามารถจอดชิดไหล่ทางระหว่างจอดรดเพื่อกดเงินจากตู้ ATM ได้ โดยที่คู่กรณีทั้งคู่เป็นผู้อยู่อาศัยในบริเวณชุมชนแหลมแท่น แม้จะคุ้นชินกับถนนแต่มีการติดแบริเออร์ ประกอบกับไม่ได้เปิดไฟให้สัญญาณขณะจอดรถกินถนนหนึ่งเลนขณะที่มอเตอร์ไซค์ที่ขับตามมาไม่ได้ชะลอความเร็วส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ โดยทางตำรวจได้ไกล่เกลี่ยให้เป็นประมาถร่วม ชดใช้เยียวยากันเอง

ด้านผู้ขับรถกระบะไม่ได้มีบาดแผลใดๆ มีเพียงส่วนท้ายของรถที่ยุบเสียหาย ขณะที่ผู้ขับมอเตอร์ไซค์บาดเจ็บสาหัสที่เข่าเป็นแผลเปิด และมีแผลที่ใบหน้าบริเวณขอบตา รอยถลอกที่จมูก และที่ปาก มอเตอร์ไซค์เสียหายหนัก และประเมินราคาเสียหายกับอู่ซ่อมรถในการซ่อมซึ่งไม่คุ้ม จึงไม่สามารถใช้งานมอเตอร์ไซค์คันเดิมได้ 

ผู้ขับมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับบาดเจ็บเล่าว่าตนได้ขับรถมอเตอร์ไซค์สัญจรบนถนนตามปกติ และชนกับรถยนต์ที่จอดบนถนนหนึ่งเลน เพราะแบริเออร์กินไหล่ทางหายไป ทำให้รถยนต์ไม่สามารถนำรถไปจอดชิดไหล่ทางได้ กลายเป็นการจอดกินเลนถนนและนำไปสู่อุบัติเหตุครั้งนี้

“พี่โดนค่าปรับโดนดำเนินคดีเพราะพี่ขับรถไปแล้วเจอรถจอดกินถนนเพื่อกดตังค์ริมถนนโดยที่ไม่เปิดไฟกระพริบ จอดบนถนนไปเลยหนึ่งเลนเพราะไหล่ทางหายไป” ผู้ขับรถกระบะกล่าว

ขณะที่ผู้ขับมอเตอร์ไซค์เล่าต่อว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความผิดของคนที่จอดรถกินเลนไปหนึ่งเลนถนน หรือตัวเขาที่ขับมาแล้วไม่ได้สังเกตว่ามีรถจอดอยู่ แต่เป็นความผิดของการจัดแข่งรถแข่งบางแสนที่ไม่ได้คำนึงถึงผู้ใช้ถนนในชีวิตประจำวัน ว่าการติดตั้งแบริเออร์ล่วงหน้าเป็นระยะเวลานานเกินไปและทำให้เนื้อพื้นที่ถนนหายไปจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

ผู้ประสบอุบัติเหตุเล่าว่าหลายปีที่แข่งมาด้วยปีนี้เป็นการแข่งปีที่ 17 แล้วนั้นเทศบาล ตัวจังหวัดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องไม่เคยชดเชยรายได้ แม้จะใช้ถนนซึ่งเป็นสาธารณะของประชาชนทุกคนในการแข่งรถ แต่ผู้ได้รับผลกระทบก็มีเป็นจำนวนมาก ทั้งเรื่องเสียง เส้นทางจราจรที่เปลี่ยนไปเพราะการปิดถนนแข่งรถและที่สำคัญยังทำให้ไม่สามารถขายของขาดรายได้ตามปกติได้

เคยมีคนร้องเรียนแล้ว แต่กลับถูกปิดแผงร้าน ทำให้ไม่มีใครกล้า

แพรว (นามสมุตติ) หนึ่งในประชาชนที่อยู่ชุมชนแหลมแท่นตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน อายุ 30 ปี กล่าวว่า มันเป็นเรื่องใหญ่การที่ประชาชนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขนี่ โดยที่ใครก็ไม่รู้มาจัดการแข่งรถและไม่เคยถามพวกตนเลยว่าเราได้รับผลกระทบหรือไม่ ต้องการการเยียวยาหรือไม่ โดยเฉพาะรัฐที่จะต้องเยียวยาในฐานะที่เราเสียสละพื้นที่หน้าบ้านพื้นที่บ้านเราให้เกิดการแข่งรถ ขาดรายได้และเสียเวลา

ขณะที่ผู้สูงอายุในชุมชนแหลมแท่น ไม่ประสงค์ออกนามอายุราว 60 ปี ประกอบอาชีพอิสระเล่าว่า เคยมีเจ้าของร้านค้า ไปร้องเรียนกับจังหวัด แต่กลับถูกปิดแผงไม่ให้ขายไปหลังจากที่ไปร้องเรียนเรื่องผลกระทบจากการแข่งรถมันเลยทำให้ทุกคนกลัวที่จะไปร้องเรียน

ผู้สูงอายุดังกล่าวได้ขยายความถึงความกลัวของผู้คนที่ได้รับผลกระทบ และต้องอดทนมาตลอด 17 ปีของการแข่งรถบางแสนว่า ประชาชนที่ได้รับผลกระทบเกิดความกลัวที่จะร้องเรียนเพราะหลังจากการร้องเรียนแล้วไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขแต่กลับถูกกลุ่มอิทธิพลตามมาคุกคามหรือถูกกลั่นแกล้งด้วยการปิดหน้าแผงร้านทำให้ขาดรายได้ จึงทำให้การยื่นหนังสือร้องเรียนต่อเทศบาลแสนสุขกลายเป็นเรื่องยาก แม้จะเป็นปัญหาของประชาชนที่ราชการท้องถิ่นที่จะต้องดูแล

นอกจากนี้ เอ ยังเล่าให้เราฟังว่าเคยร้องเรียนไปทาง ส.ส.ก้าวไกลเขต 1 จังหวัดชลบุรีว่ามีปัญหาเรื่องการแข่งรถโดยเฉพาะปัญหาเรื่องเสียงเสียงที่ดังเกินกว่ากำหนด เสียงที่ดังจะไม่สามารถทำให้ประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างปกติได้ แม้แต่ตนเองช่วงแข่งรถของทุกปีจะต้องย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดเพื่อหลบหนีความดังจากการแข่งรถเนื่องจากการฟังเสียงรถและแรงสั่นสะเทือนเหล่านี้ทำให้เกิดความเครียดจนไม่สามารถอยู่บ้านของตัวเองได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังคงไม่ได้รับการตอบรับใดๆ เพิ่มเติม และยังคงต้องหลบลี้หนีมลภาวะทางเสียงจากการแข่งรถด้วยการไปอยู่จังหวัดอื่นเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา

“เราคิดว่าเราทนมาทั้งชีวิตแล้วตอนนี้มันถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงแล้วจริงๆ มันไม่ใช่แค่เรื่องการแข่งรถมันมีปัญหาเรื่องอื่นด้วย ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้มีปัญหากับการแข่งรถแต่เวลาจะจัดนี่ได้ถามใครบ้างหรือยังว่าเค้าต้องการไหม แล้วเค้าต้องการแบบไหนหรือมันเป็นแค่ความต้องการส่วนบุคคลของคนใดคนหนึ่ง”

ผู้ประสบอุบัติเหตุขับมอเตอร์ไซค์ชนท้ายรถยนต์เล่าว่า เทศบาล จังหวัดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องไม่เคยชดเชยรายได้ แม้จะใช้ถนนซึ่งเป็นสาธารณะของประชาชนทุกคนในการแข่งรถ แต่ผู้ได้รับผลกระทบก็มีเป็นจำนวนมาก ทั้งเรื่องเสียง เส้นทางจราจรที่เปลี่ยนไปเพราะการปิดถนนแข่งรถและที่สำคัญยังทำให้ไม่สามารถขายของขาดรายได้ตามปกติได้

“บ้านพี่ก็อยู่ในโซนที่เขากั้นให้เกิดเป็นสนามแข่งรถ (ตรงกลางเส้นทางสีฟ้าที่เป็นทางสำหรับแข่งรถ) ซึ่งมันล้อมทั้งเกาะลอง ทำให้ชุมชนที่เราอยู่ต้องเจอกับการติตั้งแบริเออร์ตั้งแต่ต้นเดือน” ผู้ประสบอุบัติเหตุฯ กล่าว พร้อมอธิบายว่า การจัดสนามแข่งในแต่ละปีจะใช้เวลาช่วงต้นเดือนเคลียร์ผิวถนน เจาะพื้นถนนเพื่อติดตั้งแบริเออร์สำหรับทำเป็นเส้นทางการแข่ง และหลังจากแข่งขันเสร็จก็จะต้องถอดแบริเออร์ ถอดสะพานชั่วคราว ซึ่งจะติดตั้งจากถนนสีเขียวในแผนที่ข้ามเข้ามาในเกาะที่เส้นทางรถแข่งวิ่ง หรือบริเวณโรเรียนแหลมแท่น

“โรงเรียนโดนปิดสะพานชั่วคราวก็ถอดเข้าไปในโรงเรียนเลยเสียงก็ดังโรงเรียนทำการเรียนการสอนไม่ได้ หยุดไปเลยช่วงการแข่ง”

ทั้งนี้การจัดเตรียมต้องใช้เวลานานส่งผลให้ผู้คนในบริเวณแหลมแท่นและใกล้เคียงต้องอดทนกับเสียงเจาะถนน การราดยาง ส่วนช่วงวันแข่งก็ต้องหยุดร้าน บางบ้านมีรถยนต์หรือต้องออกไปข้างนอกเพื่อทำธุระจะต้องรีบออกแต่เช้าก่อนที่จะมีการปิดถนนเพื่อการแข่งรถ เนื่องจากคนในชุมชนแหลมแท่นจะต้องใช้สะพานชั่วคราวหากจะออกไปข้างช่วงเวลาแข่งจะยิ่งทำให้เวลาการเดินทางช้าลง เพราะรถติดในชุมชนและสะพานชั่วคราวสามารถนำรถยนต์ขึ้นได้เพียงครั้งละ 1 คัน ความสูงไม่เกิน 2.6 เมตร ทำให้ประชาชนต้องเร่งออกจากบ้านก่อนการแข่งและออกมาเจอแบริเออร์ที่กินไหล่ทางอีกก็ทำให้การจราจรผิดไปจากปกติ 

ประชาชนในพื้นที่ยังสะท้อนด้วยว่าเมื่อถนนในบางแสนถูกปรับเปลี่ยนการจราจรส่งผลทำให้ประชาชนในพื้นที่เองก็เดินทางลำบากมีเวลาเปิด-ปิดถนน หรือแม้แต่ลูกค้าหรือคนที่มาเที่ยวบางแสนก็จะไม่สามารถใช้ Google Maps ได้ เพราะเส้นทางถูกจัดการใหม่กระทบต่อคนที่เดินทางเนื่องจากรถติด

ทั้งนี้เทศบาลจะมีประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้าเป็นใบปลิวว่าจะมีการเปิดปิดถนนให้ประชาชนได้ใช้ช่วงเวลาใดบ้างในช่วงวันแข่งรถแข่งแต่ก็ไม่ได้สะดวกต่อประชาชนมากนักสะพานดังกล่าวก็สามารถขึ้นได้ทีละคันเท่านั้นไม่สามารถวิ่งไปได้พร้อมพร้อมกันเหมือนถนนปกติ

แม้แต่ในเว็บไซต์ของเทศบาลเมืองแสนสุข เมื่อ 26 ก.พ.2560 มีผู้เข้าโพสต์ร้องเรียน ผ่าน ห้องร้องเรียน ทั้งปัญหาผลกระทบจากการปิดถนน โดยมีผู้เข้ามาตอบถึงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องจัดกิจกรรมนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ สนองนโยบายในการส่งเสริมให้เป็นเมืองท่องเที่ยวด้านกีฬา โดยเทศบาลได้ประสานงานกับทางผู้จัดการแข่งขันในการจัดทำสะพานลอยให้รถยนต์สามารถข้ามไปมาได้ตลอดเวลา แม้จะอยู่ในช่วงเวลาของการแข่งขัน เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในการสัญจรไปมา และในครั้งต่อไปหากมีการแข่งขันเทศบาลจะดำเนินการจัดทำโปรแกรมการแข่งขันเพื่อแจ้งถึงกำหนดการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ทราบล่วงหน้าหากต้องมีการปิดถนน และกรณีที่หากมีการเจ็บป่วยเกิดขึ้น จะดำเนินการช่วยเหลือให้อย่างรวดเร็วที่สุด

โดยมีรายละเอียดของกระทู้ในเว็บไซต์ของเทศบาลเมืองแสนสุข ดังนี้

หวังเปิดประชาพิจารณ์ ชดเชยรายได้ และแก้ปัญหาใช้พื้นที่สาธารณะอย่างมีส่วนร่วม

นอกจากนี้ตัวแทนจากชุมชนแหลมแท่นยังย้ำถึงเสียงเรียกร้องของพวกเขาว่ามันไม่เคยถูกขยับ

“อยากร้องเรียนนะ อยากทำหลายอย่างเลย เพราะเราเสียสลละวันทำงาน รายได้ ถนน มันกระทบไปหมด พี่อยากให้เกิดประชาพิจารณ์ว่าประชาชนคิดเห็นอย่างไร เกิดการออกแบบร่วมกับประชาชนคนพื้นที่” ประชาชนในพื้นที่กล่าว พร้อมเสนอและอยากบอกสู่ผู้จัดงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดว่า หากมีเงินขนาดนั้น ควรนำมาเยียวยาชดเชยรายได้ประชาชนแหลมแท่นและประชาชนที่ขายของไม่สะดวกจากที่ต้องโดนรั้วกั้นทำให้ขาดรายได้กันถ้วนหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ผู้ให้สัมภาษณ์ซึ่งเป็นประชาชนในพื้นที่แหลมแท่นยังแสดงความกังวล พร้อมขอกับผู้สื่อข่าวหลายครั้งว่า “ปกปิดตัวตนพี่ทุกคนด้วยนะ เพราะ “เขา” รู้หมดว่าบ้านใครอยู่ที่ไหน 

“หวังว่าคะแนนเสียงที่เทไปให้พรรคก้าวไกล จะทำให้เขารู้ตัวว่าต้องทำงานพื้นที่ ตรงนี้ ที่นี่ และเดี๋ยวนี้ด้วย” หนึ่งในผู้ให้สัมภาษณ์ย้ำว่าต้องเป็น ส.ส.เขตไปคุยกับเทศบาลแสนสุข โดยข้อเรียกร้องของประชาชนแหลมแท่นตอนนี้คือ 1. เปิดประชาพิจารณ์ 2. ข้อเสนอชดเชยรายได้ และ 3. การแก้ปัญหาในการจัดงาน โดยใช้พื้นที่สาธารณะที่ใกล้แหลมแท่นเปิดการออกแบบงานอย่างมีส่วนร่วม

เรื่องล่าสุด