จบการแข่งขันไปเมื่อเช้านี้ การแข่งขัน บางแสน21 งานวิ่งระดับโลก World Athletics Elite (Gold) Label Road Race แห่งเดียวในไทย จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 โดยผลการแข่งขัน โจสพัส คิปแคมโบย จากเคนยา เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1:01:56 ชั่วโมง ทำลายสถิติสนามเดิม ครองแชมป์อันดับ 1 ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ แม็กซ์เวลล์ คลอทิสโรทิส จากยูกันดา เวลา 1:02:39 ชั่วโมง อันดับ 3 ได้แก่ ทาเดซซี่ ทาเคเล จากเอธิโอเปีย เวลา 1:03:05 ชั่วโมง ด้านแชมป์ฝ่ายหญิง เฮเลน โอบิริ เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกสองสมัย แชมป์กรีฑาชิงแชมป์โลกอีกสองสมัย นักวิ่งถนนอันดับ 2 ของโลก ก็ไม่ทำให้แฟนนักวิ่งผิดหวัง สามารถเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 พร้อมทำลายสถิติสนามด้วยเวลา 1:07:45 ชั่วโมง อันดับ 2 ได้แก่ แบล็กเคลิก ครูเกต้า โบเรชา จากเอธิโอเปีย เวลา 1:08:38 ชั่วโมง และอันดับ 3 ได้แก่ บีทริซ ชีเซเล็ก จากเคนยา เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1:09:18 ชั่วโมง โดยฝ่ายหญิงสามารถทำสถิติใหม่ของสนามทั้ง 3 คน
สำหรับแชมป์นักวิ่งชาวไทยชาย-หญิง ตกเป็นของ เจ้าบิ๊ก-ณัฐวุฒิ อินนุ่ม แชมป์เก่าสนามทำเวลาเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 1:08:59 ชั่วโมง ตามติดมาด้วยแฝดน้อง เบล-ณัฐวัฒน์ อินนุ่ม เวลา 1:09:56 ชั่วโมง และแชมป์ฝ่ายหญิงยังคงเป็นแชมป์เก่าสนาม ปลา-ลินดา จันทะชิต เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1:21:30 ชั่วโมง ที่ 2 ตกเป็นของ อรอนงค์ วงศร เวลา 1:25:00 ชั่วโมง
ด้านนายรัฐ จิโรจน์วณิชชากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด – Race Director งานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนบางแสน21 กล่าวว่า ผลการแข่งขันปีนี้นับเป็นปีที่มีการทำลายสถิติสนามเยอะมากทั้งในส่วนของแชมป์สนาม ด้านสถิติขาแรง Top100 ทั้งชาย-หญิงในปีนี้ ก็สามารถทำสถิติเร็วขึ้นกว่าการแข่งขันในปีที่ผ่านมา และในครั้งนี้มีนักวิ่งที่จบภายในเวลา 2 ชั่วโมง กว่า 2,200 คน มากที่สุดในประเทศไทย นับเป็นสถิติการวิ่งใหม่ของการแข่งขันฮาลฟ์มาราธอนในบ้านเรา ในส่วนของภาพรวมการจัดงานปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเราจะรักษามาตรฐานการจัดการแข่งขันให้ได้มาตรฐานที่ดีแบบนี้ต่อไป และจะอัพเกรดมาตรฐานสนามให้สูงขึ้น โดยตั้งเป้าว่างานวิ่งบางแสน21 จะขึ้นแท่นเป็นฮาล์ฟมาราธอนอันดับ 1 ของโลกให้ได้