Editor’s Picks, ข่าวหุ้น, คลิปวิดีโอ
นายกฤษณ์ เตชะสัมมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออริจิ้น เนชั่นวายด์ จำกัด ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมในหัวเมืองสำคัญทั่วประเทศ ในเครือบมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) กล่าวว่า “ออริจิ้น เนชั่นวายด์” เดินหน้ารุกตลาดต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง หลังจาก 2 คอนโดมิเนียมที่เปิดในหัวเมืองหลัก ทั้ง The Origin Centre ภูเก็ต และ The Origin Campus ขอนแก่น กวาดยอดขายหมดเกลี้ยงภายใน 6 สัปดาห์ สะท้อนภาพความแข็งแกร่งของดีมานด์ต่างจังหวัด ผลักดันสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์ต่างจังหวัดของกลุ่ม ORI เพิ่มแตะ 35%
การเติบโตของตลาดต่างจังหวัดในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากปัจจัยของพฤติกรรมการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ขยับขยายจากการอยู่บ้านมาสู่คอนโดมิเนียมเพื่อการเดินทางสะดวกสบาย ใกล้สถานที่ทำงานหรือสถานศึกษามากขึ้น รวมถึงมีประชากรแฝงที่ย้ายเข้ามาเรียนหรือทำงานจากต่างเมือง และกลุ่มนักลงทุนในกรุงเทพฯที่ต้องการกระจายพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ไปในหลายจังหวัด โดยเฉพาะหัวเมืองท่องเที่ยวและเมืองอุตสาหกรรมหลัก อย่าง ชลบุรี ทั้งบางแสน ศรีราชา และพัทยา รวมถึงภูเก็ต อีกทั้งศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาค อย่าง ขอนแก่น ที่มีอัตราการเช่าไม่ต่ำกว่า 80% ให้ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าเฉลี่ย 6-8% เป็นปัจจัยกระตุ้นตลาดคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดเป็นอย่างดี
นายกฤษณ์ กล่าวว่า ผลตอบรับที่ดีในการเปิดขายคอนโดมิเนียมในหัวเมืองหลักที่อยู่ในต่างจังหวัดของ “ออริจิ้น เนชั่นวายด์” มาจากรูปแบบธุรกิจในกลุ่ม ORI ที่เป็น Multiverse Business ที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันในการสร้างคอมมูนิตี้ และการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย ทั้งในการบริหารจัดการโครงการ บริการหลังการขาย และบริการด้านโปรแกรมการลงทุน (Investment Property) ที่มีมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาดูแล ทำให้ลูกค้าที่ซื้อโครงการในเครือ ORI เกิดความมั่นใจ
ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี “ออริจิ้น เนชั่นวายด์” วางแผนเปิดโครงการใหม่อีก 4-5 โครงการ จากปีนี้ที่เปิดไปแล้ว 5-7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท โดยโครงการใหม่จะเจาะทำเลในพื้นที่ที่มีดีมานด์สูง ได้แก่ ภูเก็ต ทำเลหาดบางเทา ชลบุรี ทำเลบางแสน ศรีราชา และพัทยา ต่อยอดความสำเร็จที่โครงการที่เปิดตัวไปสามารถทำยอดขายได้อย่างรวดเร็ว พร้อมโปรแกรมการลงทุน (Investment Property) ที่ดึงดูดกลุ่มนักลงทุนที่สนใจลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัด
ขณะที่การขยายไปพื้นที่หัวเมืองในจังหวัดอื่นๆ ยังคงมีต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ที่บริษัทมีที่ดินในมือรองรับไว้แล้ว และเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพของทำเล โดยเฉพาะหัวเมืองอีสานตอนบน อย่างจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงโครงการในเขาใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในภาคอีสาน โดยเป็นการร่วมทุนกัยพันธมิตรระดับโลก
ด้านพื้นที่หัวเมืองหลักในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ยังคงมีการพัฒนาต่อเนื่องเพื่อรองรับมาตรการของภาครัฐกระตุ้นการลงทุนและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามา โดยเฉพาะกลุ่มยานนยต์ไฟฟ้า ทำให้มีโรงงานมาตั้งใน EEC เพิ่มขึ้น เกิดการจ้างงานจำนวนมาก รวมถึงมีนักธุรกิจต่างชาติเข้ามาทำงาน โดยเฉพาะระดับผู้บริหาร ส่งผลบวกต่อดีมานด์ที่อยู่อาศัยใน EEC และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่สนใจเข้ามาลงทุนคอนโดมิเนียมใน EEC มากขึ้น
ปัจจุบันกลุ่ม ORI มีการพัฒนา Smart City ใน EEC อยู่ 2 แห่ง ได้แก่ ระยอง และศรีราชา ซึ่งเตรียมต่อยอดการพัฒนา Smart City ในพัทยา เพิ่มเติม
“อสังหาต่างจัวหวัดยังดีต่อเนื่องในปี 67 แต่ในบางพื้นที่คู่แข่งเล็งเห็นโอกาสและผลตอบรับที่ดีของโครงการที่เปิดไปก่อนหน้า ก็มีการพัฒนาโครงการแข่งขันในตลาดมากขึ้นตาม ซึ่งสิ่งที่บริษัทยังยึดหลักให้ความสำคัญ คือ การสร้างคอมมูนิตี้ การสร้างคุณภาพชีวิต บริการหลังการขาย และความเป็นมืออาชีพที่เข้ามาบริหารโครงการ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าของกลุ่มออริจิ้น”นายกฤษณ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 66)
Tags: INTERVIEW, ORI, SCOOP, กฤษณ์ เตชะสัมมา, คอนโดมิเนียม, ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้, ออริจิ้น เนชั่นวายด์