นายกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า บริษัท ได้วางกลยุทธ์การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการมุ่งให้ความสำคัญการขยายตลาดในเซ็กเมนต์ Campus Condo ซึ่งโฟกัสทำเลศักยภาพใกล้กับสถานศึกษา โดยได้เปิดโครงการภายใต้แบรนด์เคฟมาแล้ว 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 14,500 ล้านบาท อาทิ โครงการเคฟ ซี้ด เกษตร ใกล้ ม.เกษตร มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท, โครงการ เคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน ใกล้ ม.บูรพา มูลค่าโครงการ 520 ล้านบาทที่เปิดตัวในช่วงไตรมาส 4/2565 ที่ผ่านมา สร้างปรากฎการณ์การตอบรับอย่างล้นหลามจากลูกค้าภายหลังการเปิดตัว โดยประกาศ SOLDOUT (ปิดการขาย) เป็นที่เรียบร้อย

ทั้งนี้ ปรากฎการณ์ดังกล่าวนับเป็นบทพิสูจน์แห่งความสำเร็จของ ASW โดยสามารถก้าวสู่ผู้นำตลาด Campus Condo ซึ่งแบรนด์ “เคฟ” ได้กลายเป็น Top of Mind สำหรับกลุ่มเจเนอเรชั่น Z อีกทั้งยังเป็นแบรนด์อสังหาฯ ที่นักลงทุนชื่นชอบ และไว้วางใจ เนื่องจากให้อัตราผลตอบแทนจากการเช่า (Yield) สูง และเป็นแบรนด์คอนโดฯ ที่มีอัตราการขาย (Take up sale) เฉลี่ยสูงกว่า 90% ซึ่งมาจากความมุ่งมั่นพัฒนาโครงการเคฟ คอนโด ที่สอดรับกับดีมานด์ของตลาด และการสร้างแบรนด์เคฟที่เข้าใจกลุ่มลูกค้าที่มีความโดดเด่นและมีสไตล์ที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ผ่านการจัดกิจกรรมทั้งสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง ตลอดจนการขับเคลื่อนไลฟ์สไตล์สู่สมาร์ทไลฟ์อย่างครบครัน

โดยในช่วงไตรมาส 1/2566  บริษัทวางแผนบุกตลาด Campus Condo ต่อเนื่อง โดยจะเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ บนทำเลศักยภาพ ใกล้กับมหาวิทยาลัยชั้นนำถึง 3 แห่ง มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,430 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) โครงการ เคฟ เอมบริโอ รังสิต  (KAVE Embryo Rangsit) จำนวน 514 ยูนิต มูลค่าโครงการ 780 ล้านบาท 2) โครงการเคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ (KAVE Town Island)  ใกล้ ม.กรุงเทพ จำนวน 1,770 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,150 ล้านบาท และ 3) โครงการเคฟ ป๊อป ศาลายา (KAVE Pop Salaya)  ใกล้ ม.มหิดล ศาลายา จำนวน 238 ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท

“บริษัทเตรียมเปิดแผนธุรกิจปี 2566 เพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างมั่นคงในเร็วๆ นี้ โดยมองว่าแนวโน้มภาพรวมตลาดอสังหาฯ ปี 2566 จะเห็นกำลังซื้อผู้บริโภคจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างโดดเด่นด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งนโยบายการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐยังคงดำเนินการต่อเนื่องในปี 2566 ด้วยการต่ออายุมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิจาก 2% เป็น 1% และลดหย่อนค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01 % สำหรับที่อยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท ไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566 จะส่งผลดีต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อบ้านในปีนี้ ซึ่งปัจจัยบวกดังกล่าวจะผลักดันให้ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง” นายกรมเชษฐ์ กล่าว

ทั้งนี้ ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 47 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA) และ แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมมูลค่าโครงการกว่า 49,900 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 34 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 13 โครงการ ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 12,935 ล้านบาท