24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 21 กันยายน 2566
>> รถ จยย.คว่ำข้างทาง พบร่างผู้เสียชีวิตน้ำคว่ำหน้ากลางทุ่งนา
06.30น. รับแจ้งจาก สภ.หันคา มีอุบัติเหตุบนถนนกลางทุ่งนา ในพื้นที่ บ้านยางเดียว ม.5 ต.หันคา อ.หันคา จ.ชัยนาท
ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ซูซุกิ สีน้ำเงิน ไมทราบทะเบียน ลักษณพลิกคว่ำลงข้างทาง สภาพรถตกลงไปในร่องน้ำ ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบร่างผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าอยู่ในทุ่งนา จากการตรวจสอบ ผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ 42 ปี
อาสาสมัครสมาคมร่วมกตัญญูชัยนาทจึงได้ทำการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หันคา มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และมีคำสั่งให้ส่งมอบญาติดำเนินการตามพิธีศาสนา
>> แนวร่วมองค์กรพิทักษ์สิทธิ์ผู้ค้าสลาก ยื่น 3 ข้อ ช่วยเหลือผู้พิการ จากรัฐบาลชุดใหม่
09.00 น. กันยายน 2566 ตัวแทนกลุ่มแนวร่วมองค์กรพิทักษ์สิทธิ์ผู้ค้าสลาก อ้างถึงประกาศสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เรื่องการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก โดยกำหนดวิถีการจำหน่ายเป็นแบบใบ และแบบดิจิทัล หรือวิธีการจำหน่ายอื่นตามที่คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลกำหนด รวมถึงนโยบายนายกรัฐมนตรีเรื่องการออกสลากการกุศล ที่ปรากฏตามสื่อ ในกรณีเพิ่มในระบบดิจิทัล ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคม จากการรวมชุดได้เป็นจำนวนมาก เป็นการกระตุ้นด้วยเงินรางวัลที่สูง ตลอดจนความเหลื่อมล้ำในการบังคับใช้ข้อกำหนดการรวมชุดของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ปฏิบัติต่อผู้ค้าสลากใบทั่วไป แนวร่วมองค์กรพิทักษ์สิทธิ์ผู้ค้าสลากใบ กลุ่มขององค์กรการค้าสลากของคนพิการและผู้ด้อยโอกาส รวมถึงองค์กรผู้ค้าสลากใบทั่วไป กว่า 30 องค์กร ซึ่งเคยถูกตัดโควต้า จาก 10 เล่ม เหลือ 5 เล่ม และสลากซื้อจอง จาก 5 เล่ม เหลือ 3 เล่ม ซึ่งเกิดขึ้นในยุคการปกครองแบบเผด็จการ ปัจจุบันในโอกาสที่ประเทศเข้าสู่ยุคประชาธิปไตยปกติ พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากรัฐบาลประชาธิปไตย
ดังนั้นแนวร่วมองค์กรพิทักษ์สิทธิ์ผู้ค้าสลากใบ จึงมีความประสงค์ขอความอนุเคราะห์ได้โปรดพิจารณาข้อเรียกร้อง รวม 3 ข้อ 1.ทบทวนการเพิ่มสลากเข้าสู่ระบบดิจิทัลและลดจำนวนการจัดชุดในระบบดิจิทัล 2.พิจารณาคืนโควต้าให้กับผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์จาก 10 เล่ม เหลือ 5 เล่ม และสลากซื้อจอง จาก 5 เล่ม เหลือ 5 เล่ม ให้ได้รับสิทธิ์เหมือนเดิม และ 3.จัดสรรสลากฯให้กับผู้ที่ยังไม่มีโควต้า โดยทั่วถึง
>> ตร.ทางหลวง ยึดตับไก่เถื่อน ซุกซ่อนในรถเทรลเลอร์ จำนวน 20 ตัน
10.00 น. สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล.) ร่วมกันตรวจยึดรถบรรทุกเทรลเลอร์กึ่งพ่วงบรรทุกตับไก่ ปลอมเอกสารใบส่งของและเอกสารเคลื่อนย้ายซากสัตว์ จำนวน 20 ตัน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบเอกสารใบส่งของ และเอกสารเคลื่อนย้ายซากสัตว์กรมปศุสัตว์ จากรถบรรทุกตับไก่สดแช่แข็งคันดังกล่าวปรากฏว่า ทางบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นต้นทางขายสินค้าจากเอกสาร แจ้งว่าไม่ได้ออกเอกสารใบขนส่งสินค้านี้ และไม่ได้ขายตับไก่ให้ บริษัท เอ (ชื่อสมมติ) แต่อย่างใด จึงเชื่อว่ามีการปลอมเอกสารขึ้นมา และยืนยันว่าตับไก่จำนวน 20 ตันนี้ ไม่ได้เป็นสินค้าของบริษัท เชื่อว่านำสินค้าที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรืออาจลักลอบนำเข้ามา สวมใช้กับเอกสารที่ขออนุญาตปศุสัตว์
ส่วนทางบริษัทเอ แจ้งว่ามี นายไก่ ไม่ทราบชื่อจริง แอบอ้างเป็นคนดำเนินการจัดหาสินค้า และนัดหมายคนขับไปรับสินค้าและเอกสารดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ทล.จะเร่งประสานบริษัทฯ เพื่อดำเนินคดีกับนายไก่ ผู้ที่แอบอ้างและปลอมเอกสารของบริษัท มาดำเนินคดีต่อไป
>> 2 แม่ลูก ชาวศรีสะเกษ ร้องกองปราบฯ โดนธนาคารยึดที่นา เหตุค้ำประกันรถให้ดาบตำรวจ
10.30 น. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พาแม่ลูกชาวศรีสะเกษ ร้องขอความเป็นธรรม หลังโดนธนาคารยึดที่นาไปแล้ว กำลังจะยึดบ้านอีก สาเหตุมาจากเพื่อนที่เป็นเมียนายดาบตำรวจ สภ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ขอให้ไปค้ำประกันรถยนต์กับไฟแนนซ์ หลังถอนรถออกมา นายดาบไม่ยอมผ่อนค่างวดและไฟแนนซ์ตามรถคืนไม่ได้ จึงมาบังคับเอากับคนค้ำประกัน เข้าร้องเรียนผู้บังคับบัญชาของนายดาบก็ไม่มีความคืบหน้า ร้องขอความช่วยเหลือไปที่ศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัด ทนายให้คำแนะนำว่าให้ไปไกล่เกลี่ยกันเอง โดยไม่มีการช่วยเหลือแต่อย่างใด จนกระทั่งที่นาถูกยึดเพราะไม่มีเงินไปไถ่ถอน
ด้าน นางสมหญิง นามสมมุติ วัย 70 ปี ผู้เป็นแม่เผยว่า เมื่อปี 2557 ตนได้ไปค้ำประกับรถให้นายดาบตำรวจประจำ สภ.กันทรารมย์ ซึ่งเป็นสามีของเพื่อน แต่ไม่ยอมผ่อนค่างวดรถ ทางไฟแนนซ์จึงเริ่มตามหารถ แต่ก็ไม่เจอ นอกจากนั้นมีการไปสอบถามที่สำนักงานขนส่งจังหวัดศรีษะเกษ ได้คำตอบมาว่ารถคันนั้นไม่ได้มีการต่ออายุภาษีรถมา 5-6 ปี หลังจากนั้นทางไฟแนนซ์ก็ได้ยึดที่ดินของตนจำนวน 5 ไร่ แต่เงินก็ยังไม่พอกับค่ารถที่ค้างไว้ จึงจะยึดบ้านของตนต่อ ถ้าบ้านโดนยึดตนกับลูกจะไม่มีที่อยู่ ตนหมดหนทาง ลูกสาวก็ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ระยะสุดท้าย ตนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงมาขอความช่วยเหลือจากจ่าคิงส์
ด้าน จ่าคิงส์ กล่าวว่า เบื้องต้นที่มาร้องกองปราบฯต้องการให้ทางกองปราบดำเนินการสอบสวนและประสานงานไปยัง จ.ศรีสะเกษ ให้เรียกนายดาบมารับผิดชอบกับสิ่งที่กระทำลงไปด้วย
>> พบเรือลอยลำอยู่กลางทะเล ตร.ตรวจสอบในเรือพบยาบ้า 500 กว่าเม็ด
11.30 น. สภ.ลำปำ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบเรือของ นายสมคัด อายุ 44ปี ชาวบ้าน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ลอยลำอยู่กลางทะเลสาบพัทลุง -สงขลา ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งหาดแสนสุขลำปำ ออกไปประมาณ 7 กิโลเมตร แต่ไม่พบตัวบุคคลคนพายเรือ
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นภายในเรือลำดังกล่าวพบยาบ้า จำนวน 504 เม็ด อยู่ภายในกล่องพลาสติกสีขาว บรรจุอยู่ภายในถุงซิบล็อคสีน้ำเงินจำนวน 3 ถุง แยกได้ถุงละร้อยกว่าเม็ด ตั้งอยู่บริเวณกลางเรือจึงนำมาตรวจสอบ
ทางนักประดาน้ำของ อบจ. พัทลุงและหน่วยกู้ภัยพัทลุงกว่า 10 นาย นำเรือออกค้นหาที่เขตรอยต่อระหว่าง พัทลุง-สงขลา จุดที่คาดว่าน่าจะจมน้ำสูญหาย แต่ด้วยสภาพอากาที่มีท้องฟ้ามืดครึ้มมีทั้งลมและฝนกำลังจะตกลงมา ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องยุติการค้นหาแล้ววางแผนใหม่อีกรอบ
>> รถเทรลเลอร์ เสียหลักชนเสาไฟข้างทางแล้วเกิดเพลิงไหม้ คนขับเสียชีวิต
13.10 น. หน่วยกู้ภัยสยามเชียงของ ได้รับการประสานร้องขอสนับสนุนเครื่องมือตัด-ถ่าง มีรถเทลเลอร์ประสบอุบัติเหตุลงข้างทางมีไฟลุกไหม้และมีผู้ติดอยู่ในรถ บนถนนเส้นเชียงของ-เทิง ในพื้นที่บ้านต้า อำเภอขุนตาล จังหวัดลำปาง
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบรถเทรลเลอร์ สีขาว ป้ายทะเบียน ปทุมธานี ลักษณะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ทำให้ห้องโดยสารถูกอัดกับเสาไฟและมีเพิงลุกไหม้ มีคนติดอยู่ในรถ ทางเจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงของเทศบาลหน่วยงานต่างๆ ที่ใกล้เคียง ออกปฏิบัติการร่วมระดมหัวฉีดน้ำ พอเพลิงสงบเจ้าหน้าที่ทำการตวรจสอบ พบร่างของผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นชายอายุประมาณ 40 ปีซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำเครื่องตัด-ถ่างนำศพผู้เสียชีวิตออกมาจากรถ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนตาล ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนจะทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุต่อไป
>> ฟ้าผ่าชาวบ้านชีวิตขณะขึ้นต้นลองกอง
14.45 น. ตำรวจ สภ.บางแก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยจังหวัดพัทลุง เข้าตรวจสอบในสวนผลไม้ บ้านคอแห้ง หมู่ 10 ต.โคกสัก อ.บางแก้ว จ.พัทลุง หลังรับแจ้งมีคนถูกฟ้าผ่าเสียชีวิต ทราบชื่อ คือ นายสมคิด สังข์สิงค์ อายุ 45 ปี นอนเสียชีวิตใต้โคนต้นลองกอง ในสภาพเสื้อและกางเกงฉีกขาด ใบหน้าและลำตัวมีรอยดำไหม้ ข้างศพมีบันไดอะลูมิเนียม 1 อัน
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายสมคิดฯ ได้ใช้บันไดอะลูมิเนียม ความสูงประมาณ 3 เมตร ปีนขึ้นไปนั่งบนบันไดขั้นสูงสุด เพื่อเก็บผลลองกอง ช่วงที่นายสมคิดฯ เก็บผลลองกองอยู่นั้นในพื้นที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม มีฟ้าร้องและฟ้าแลบ แต่ยังไม่มีฝนตก ทำให้นายสมคิด ฯ ยังคงเก็บผลลองกองต่อ ช่วงจังหวะนั้น ได้เกิดฟ้าผ่าลงมาทำให้นายสมคิด ร่วงลงที่พื้นเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมอบหมายให้กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปชันสูตรพลิกศพเพิ่มเติมที่ รพ.บางแก้ว และมอบศพให้ญาติๆนำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป
>> พฐ. ลงพื้นที่หาหลักฐานจุดที่ภรรยา นายเอ็ม สารภาพนำศพเด็กมาทิ้ง
17.00 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อม พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง และ พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม นำกําลังชุดสืบสวนและตำรวจ พฐ. พร้อมรถแบ็คโฮขุดหน้าดินริม ถ.พหลโยธิน กม.25 ซึ่งเป็นจุดที่ น.ส.เจษฎา ภรรยาคนที่ 2 ของ นายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหาคดีฆ่าโบกปูนลูกวัย 2 ขวบ ในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตํารวจว่านำทารกมาทิ้งอีก 2 ศพ บริเวณจุดดังกล่าว
โดย พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า จากคำให้การของ นายส่องศักดิ์ และ น.ส.เจษฎา ถือว่าทั้งคู่ให้การที่เป็นประโยชน์อย่างมากจนนำมาสู่การตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในวันนี้ ต่างกับ นางสุนัน ที่ให้การเป็นประโยชน์น้อยที่สุด ส่วนกระดูกที่พบในวันนี้ ตรงกับข้อมูลที่ได้รับมา โดยการค้นหาวานนี้ (20 ก.ย.) ตำรวจพบถุงดำ ถุงขาว และกระดูก 2 ชิ้น ซึ่ง นายส่องศักดิ์ เห็นแล้วก็ยอมจำนนต่อหลักฐานหรือเรียกได้ว่ายอมรับว่าลงมือฆ่าเด็กจริง ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่า “ไม่ชอบเด็กผู้ชายและไม่ชอบเสียงเด็กร้อง” ทั้งนี้ น.ส.เจษฎา บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ที่ต้องทำร้ายลูกเพราะตัวเองถูกบังคับและถูกทำร้ายร่างกายด้วยมีดลนไฟจี้ตามตัว ส่วนผลการตรวจสุขภาพจิตของ นายส่องศักดิ์ แพทย์ยืนยันเบื้องต้นว่าปกติทุกประการ สามารถพูดคุยตอบโต้ได้เหมือนคนปกติทั่วไป
ด้าน พล.ต.ต.วาที กล่าวว่า กระดูก 2 ชิ้น ที่เจอเมื่อวานนั้น เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นกระดูกต้นแขนและต้นขา ก่อนที่แพทย์ รพ.ภูมิพล จะยืนยันเป็นชิ้นส่วนกระดูกของเด็ก โดยสามารถระบุอายุได้ และวันนี้จากการระดมกําลังค้นหาชิ้นส่วนกระดูกเพิ่มพบมากกว่า 10 ชิ้น แต่ยังไม่พบกะโหลกศีรษะ อย่างไรก็ตามต้องรอแพทย์ยืนยันอีกครั้งว่าเป็นกระดูกของมนุษย์ทั้งหมดหรือไม่
>> ไฟไหม้อาคารพาณิชย์ที่ใช้เป็นโกดังเก็บแผงอิเล็กทรอนิกส์เก่า
19.00 น. ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บของที่อาคารพาณิชย์ในพื้นที่ตำบลดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
ทางเจ้าหน้าที่ พร้อมรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลดอนไก่ดี ตลอดจนรถน้ำดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 10 คัน เข้าระงับเหตุ โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ตั้งอยู่เลขที่ 89/19 และ 89/20 หมู่ที่ 5 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
พบกลุ่มควันสีดำจำนวนมากพวยพุ่งออกมาตามช่องลมชั้นบนสุด ซึ่งเป็นฝ้าเพดาน กระจายไปทั่วบริเวณ ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ส่วนบริเวณต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นล่างของตัวอาคาร ซึ่งภายในมีวัตถุจำพวกชิ้นส่วนแผงอิเล็กทรอนิกส์เก่าของโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ อะไหล่และแบตเตอรี่เก่าๆ ของโทรศัพท์มือถือ เก็บกองไว้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้น้ำฉีดสกัดนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงจะสามารถทำให้เพลิงสงบและกลุ่มควันเบาบางลงได้ในที่สุด
เบื้องต้นพบความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวอาคารที่ถูกไฟไหม้จนมีรอยร้าว รถยกขนาดเล็ก 1 คัน ถูกไฟไหม้บางส่วน และวัตถุที่เก็บกองไว้ภายในเสียหาย ขณะเกิดเหตุไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน จะได้เรียกผู้เช่ามาทำการสอบปากคำ พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการจากกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป ส่วนมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบ คาดหลายแสนบาท
>> แม่ค้าขายไอศครีมขี่จยย.พ่วงข้างหนีฝน เสียหลักชนเกาะกลางขึ้นสะพานเสียชีวิต
20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถ จักรยานยนต์ขายไอศกรีม พ่วงข้างชนเกาะกลางถนนมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดเชิงทางขึ้นสะพานข้ามแยกไทรน้อย ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี br> ที่เกิดเหตุพบร่างของนางนัดดา อายุ 54 ปีเป็นแม่ค้าขายไอศกรีมนอนเสียชีวิตอยู่บนถนนท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้างขายไอศกรีม ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน กทม จอดอยู่บริเวณมุมซ้ายของตู้เก็บไอศกรีม มีร่องรอยความเสียหายไฟเลี้ยวแตก ขณะเดียวกันยังพบร่องรอยที่เสาป้ายที่เกาะกลางถนนลักษณะถูกชนด้วย
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบถามคนที่พบเห็นไว้ โดยสันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตน่าจะพยายามขี่เร่งเครื่องขึ้นสะพานโดยพยายามหักเบี่ยงหลบหัวเกาะคอสะพานที่เป็นเกาะกลางถนนแต่ด้วยขณะเกิดเหตุมีฝนตกหนักทำให้เกิดเสียหลักพุ่งชนอย่างแรงทำให้นางนัดดา เสียชีวิต แต่อย่างไรก็ตามจะต้องตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงอีกครั้งว่ามีรถอื่นเฉี่ยวหรือเบียดหรือไม่ ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตร ต่อไป
>> แผ่นดินไหว ที่อินโดนีเซีย
02.58 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 4.5 ความลึก 10 กม. บริเวณทางตอนเหนือของหมู่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 482 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> แผ่นดินไหว ที่เมียนมา
03.33 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.2 ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 82 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 22 กันยายน 2566 เวลา 05.00 น.
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจำนวน 695,582,302 ราย รักษาอาการดีขึ้น 667,643,517ราย เเละเสียชีวิตสะสม 6,918,251 ราย
1. ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 108,530,796 ราย เสียชีวิต 1,175,495 คน (เพิ่มขึ้น 100 คน)
2. ประเทศ อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 44,998,294 ราย เสียชีวิต 531,930 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด)
3. ประเทศ ฝรั่งเศส ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 40,138,560 ราย เสียชีวิต 167,642 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด)
4. ประเทศ เยอรมนี ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 38,479,487 ราย เสียชีวิต 175,892 คน (เพิ่มขึ้น 1,540 คน)
5. ประเทศ บราซิล ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 37,789,040 ราย เสียชีวิต 705,313 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด)