1 โกรัน เคาซิช (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
บุรีรัมย์ คือสโมสรที่มีนักเตะชั้นนำย้ายเข้าสู่ ช้าง อารีน่า ในทุกๆ ฤดูกาล ทว่าซีซั่นนี้การได้ โกรัน เคาซิช มาจาก อาร์เซน่อล ทูล่า สโมสรในลีกสูงสุดรัสเซีย ถือเป็น ‘ดีลทรงคุณค่า’ เพราะประโยชน์ของมิดฟิลด์ชาวเซอร์เบีย นั้นคณานับ
เขาคือคนที่ทำให้เกมรับและรุกสมดุล, เขาคือคนที่ทำให้ ธีราทร บุญมาทัน เปล่งประกายในบทบาทกองกลางและที่สำคัญการทำไป 14 ประตู ทั้งๆ ที่เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์นั้นเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งจริงๆ
2 มะห์มู๊ด ดาฮัดดา (แบงค็อก ยูไนเต็ด)
จริงๆ แล้ว แบงค็อก มีแคนดิเดตอยู่ 2 คน คือ วิลเลน โมต้า ศูนย์หน้าบราซิล และ ดาฮัดดา โดยรายแรกนั้นซัดไป 11 ประตู ในลีก และอีก 6 ในฟุตบอลถ้วย กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดประจำทีมในฤดูกาล 2022-23
อย่างไรก็ตาม ดาฮัดดา ที่ย้ายมาจาก หนองบัว พิชญ เอฟซี ก็ทำผลงานได้เด่นไม่แพ้กัน แม้จะยิงในลีกไป 10 ลูก ซึ่งน้อยกว่า โมต้า ทว่าทุกประตูที่แนวรุกทีมชาติปาเลสไตน์ ทำได้นั้นมาจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงการเป็นดีลที่คุ้มค่าที่สุดของบียูด้วยประการนี้
3 โชคทวี พรหมรัตน์ และ สุรพงษ์ คงเทพ (การท่าเรือ เอฟซี)
การท่าเรือ มีผู้เล่นหน้าใหม่ย้ายเข้ามามากมาย ทว่าทั้งหมดทั้งมวลยังไม่สามารถสร้างผลงานได้ตามเป้าหมาย แถมยังฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ – อันดับในตารางคะแนนอยู่ระหว่าง 6-9 นานถึง 22 สัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่โสภาเอาเสียเลยสำหรับทีมที่อุดมไปด้วยทรัพยากรนักเตะชั้นนำของประเทศ
ทุกอย่างดูจะดิ่งเหว กระทั่งการมาของ ‘โค้ชคู่’ จาก กรุงเทพคริสเตียน คอนเนกชั่น โชคทวี พรหมรัตน์ และ สุรพงษ์ คงเทพ เท่านั้นแหละ ความเปลี่ยนแปลงก็มาถึงในทันที ทั้งสองคนค่อยๆ ปรับจูนทีมทีละนิด จนสามารถจบอันดับ 3 พร้อมกับคว้าโควตา เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-24 ได้สำเร็จ
4 วิลเลียน พ็อพพ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
แข้งใหม่ แต่หน้าเก่าที่ย้ายกลับมาโลดแล่นในรั้ว ธันเดอร์โดม ช่วงเลกที่สองของฤดูกาล และก็ทำสถิติสุดน่าทึ่งกับการซัดไป 14 ประตู จาก 14 เกม ในลีก พุ่งขึ้นมารั้งตำแหน่งดาวยิงสูงสุดของ ไทยลีก 2022-23 เป็นอันดับ 4 ทั้งๆ ที่เล่นแค่เลกเดียวเท่านั้น
พ็อพพ์ คือจุดประกายสำคัญของชัยชนะ 8 นัดติดต่อกันของ เมืองทอง อีกทั้งยังเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้กิเลนผยอง ซึ่งผลงานย่ำแย่ในเลกแรก กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง กระทั่งฟอร์มดีจัดจ้าน ทะยานจบอันดับ 4 เป็นซีซั่นที่สองติดต่อกัน
5 วิคตอร์ คาร์โดโซ่ (เชียงราย ยูไนเต็ด)
กองหลังผู้เป็นส่วนเกินของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แต่กลับกลายมาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของ เชียงราย ในฤดูกาล 2022-23 ด้วยจำนวน 11 ประตู อีกทั้งยังบัญชาการเกมรับร่วมกับ ดีเอโก้ แลนดิส, ธนะศักดิ์ ศรีใส, ชินภัทร ลีเอาะ และ บรรพกิจ พรหมณี ได้อย่างลงตัว ตามแต่ใครจะได้ลงเล่น – คาร์โดโซ่ ควบคุมสถานการณ์ได้หมด
เซนเตอร์ฮาล์ฟชาวบราซิล ที่กว่างโซ้งมหาภัยยืมตัวมาจากทีมกระต่ายแก้วคือคีย์แมนที่โดดเด่นในเกมรับกับการสกัดกั้นทั้งลูกกลางอากาศและภาคพื้น แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการสอดขึ้นไปทำประตูได้บ่อยครั้ง ในจังหวะลูกเซ็ตพีซที่นอกจากจะยิงเองก็ได้ หลายๆ หนเขาก็โหม่งชงให้เพื่อนเช่นกัน
6 ดานิโล้ อัลเวส (ชลบุรี เอฟซี)
แม้จะมาเล่นใน ไทยลีก ได้ไม่นาน แต่ผลงานของ ดานิโล่ ถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียว ซีซั่นแรก (2021-22) สังหารให้ สุพรรณบุรี เอฟซี ไป 11 ประตู ก่อนจะย้ายสู่ ชลบุรี และก็กดไปอีก 13 ประตู จาก 24 เกม รั้งอันดับ 5 ของดาวยิงสูงสุดในฤดูกาล 2022-23
อย่างไรก็ตาม มีโอกาสสูงที่ฉลามชลจะปรับเปลี่ยนโควตาต่างชาติ และนั่นอาจจะทำให้ ดานิโล่ ไม่ได้ไปต่อกับอดีตแชมป์ ไทยลีก 2007 ทว่าด้วยมาตรฐานการเล่นที่อยู่ในระดับสูง เชื่อได้เลยว่ายังมีอีกหลายสโมสรที่ต้องการหัวหอกวัย 32 ปี ผู้นี้ไปร่วมทัพ
7 มาร์ค แลนดรี้ บาโบ้ (โปลิศ เทโร เอฟซี)
แนวรุกชาวไอวอรี่โคสต์ เจนจัดลีกไทย มากๆ กับการค้าแข้งที่นี่มาตั้งแต่ปี 2013 และย้ายมาแล้ว 10 สโมสร ซึ่งเขาเองก็เคยเล่นให้ โปลิศ เทโร มาแล้วเมื่อปี 2020 ก่อนจะไปต่อที่ ศรีสะเกษ เอฟซี ตามด้วย ตราด เอฟซี กระทั่งหวนคืนรังมังกรโล่เงินในซีซั่น 2022-23
บาโบ้ ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังในการกลับมาคำรบสอง เพราะเจ้าตัวซุดไป 7 ประตู เป็นดาวซัลโวของทีมร่วมกับ เชือง อู-กึน แต่เหนือกว่ากองหน้าเกาหลีใต้ ตรงที่เขาทำไปอีก 4 แอสซิสต์ อันเป็นตัวเลขที่มากที่สุดของทีม
8 จักรพันธ์ แก้วพรม (ราชบุรี เอฟซี)
แม้จะถูกค่อนขอดก่อนย้ายจาก บุรีรัมย์ มาอยู่กับ ราชบุรี ว่าหมดสภาพไปแล้ว แต่สิ่งที่ จักรพันธ์ พิสูจน์ให้เห็นคือผลงานในสนามที่ยังคงยอดเยี่ยมเสมอ โดยฤดูกาล 2022-23 เขาทำไป 2 ประตู และอีก 7 แอสซิสต์ จนพาทัพราชันมังกรลอยติดลมบนในเลกแรก
อย่างไรก็ตาม นอกจากกัปตันทีมวัย 34 ปี ราชบุรี ยังมี พัก ชุน-เฮือง ปราการหลังชาวเกาหลีใต้ที่ฟอร์มเด่นไม่แพ้กัน และอาจจะรวมไปถึง อัลวิน ฟอร์เตส ปีกตัวจี๊ดที่ถูกปล่อยไปให้ หนองบัว พิชญ แบบสุดเซอร์ไพรส์ด้วยอีกคน
9 พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
นี่คือฤดูกาลสุดแสนจะย่ำแย่ของ บีจี ปทุม กับการจบอันดับ 9 ของตาราง ซึ่งแน่นอนว่าแทบไม่มีนักเตะคนใดที่ผลงานเข้าตาเลย โดยเฉพาะก๊วนที่ย้ายเข้ามาใหม่ ที่มีเพียง พิธิวัตต์ คนเดียวเท่านั้นที่ได้เล่นสม่ำเสมอ นอกนั้น ไม่ว่าจะเป็น กาซิโอ ไชด์, เจสซี่ คูร์แรน, ลิดอร์ โคเฮน, เปาโล คอนราโด้, สเตนิโอ จูเนียร์ หรือ เบน อาซูเบิ้ล ที่ต่างก็ ‘สอบตก’ ล้วนๆ
มิดฟิลด์ชาวระยอง เล่นให้กระต่ายแก้วในลีกไป 24 นัด ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในจำนวนแข้งป้ายแดงของทีม แต่ก็มีถึง 7 เกม ที่อยู่ไม่ครบ 90 นาที ซึ่งตรงจุดนี้บ่งบอกได้ชัดเจนเลยว่าเขายังคงต้องใช้เวลาอีกพอสมควรเพื่อปรับตัวให้เข้ากับต้นสังกัดใหม่
10 อเล็กซานเดร กามา (ลำพูน วอร์ริเออร์ส)
ก่อนการมาของ กามา – ลำพูน จมอยู่ในโซนสีแดงกว่า 18 สัปดาห์ จนใครๆ ต่างก็คิดว่าซีซั่นหน้า ราชันโคขาวคงจะต้องกลับสู่ ไทยลีก 2 เป็นแน่ ทว่าพวกเขาเดิมพันแก้เกมด้วยการดึงกุนซือชาวบราซิล ผู้มากประสบการณ์ในเมืองไทย ซึ่งนับตั้งแต่นั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
กามา ค่อยๆ ปรับแต่งทีมให้เล่นอย่างมีระบบ เน้นผลการแข่งขัน และกลายเป็นทีมที่แพ้ยากในทันที มีสถิติหนึ่งที่น่าเหลือเชื่อกับการที่ ลำพูน เสียประตูน้อยเป็นอันดับ 4 ของลีก ทั้งๆ ที่อยู่โซนท้ายตาราง ทว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการเก็บแต้มจากกลุ่มหนีตกชั้นด้วยกันได้แทบจะทั้งหมด มีเพียง ขอนแก่น เท่านั้นที่พวกเขาปราชัย แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาไปต่อในฤดูกาล 2023-24
11 ซามูเอล โรซา (ประจวบ เอฟซี)
การที่ ประจวบ อยู่รอดปลอดภัยใน ไทยลีก ได้สำเร็จ ต้องยกความดีความชอบส่วนใหญ่ให้กับ โรซา ผู้สังหารไป 18 ประตู จนกลายเป็นรองดาวซัลโวของลีก
หัวหอกชาวบราซิล ย้ายมาจาก บุรีรัมย์ ก่อนจะระเบิดฟอร์มสุดยอดออกมา เพราะเขาไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับทัพต่อพิฆาตในเรื่องของการทำสกอร์ หากแต่เจ้าตัวยังทำไปอีก 7 แอสซิสต์ มากที่สุดในทีม ดังนั้นจึงบอกได้เลยว่า โรซา คือทุกสิ่งทุกอย่างของ ประจวบ จริงๆ
12 ศฤงคาร พรมสุภะ (สุโขทัย เอฟซี)
กิตติพันธ์ แสนสุข อาจจะเป็นนักเตะที่น่าชื่นชมมากที่สุดของ สุโขทัย กับการทำไปถึง 10 คลีนชีต ซึ่งเป็นตัวเลขอันดับ 2 ของลีก แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าการที่ไม่เสียประตูถึง 10 นัด นั้นมาจากการที่พวกเขามี ศฤงคาร ยืนปักหลักในแนวรับ
อดีตกัปตันทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ยังคงเป็นนักเตะที่มุ่งมั่นและทุ่มเทเพื่อต้นสังกัดแบบสุดตัว ปราการหลังวัย 26 พร้อมปะทะ พร้อมบวกทุกจังหวะ ขอเพียงทีมได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ และด้วยฟอร์มการเล่นเช่นนี้ บางทีประตูของทัพช้างศึกชุดใหญ่ คงจะเปิดรอเขาอยู่ไม่ไกลนี้แล้ว
13 ชอง ฮัน-โชล (ขอนแก่น ยูไนเต็ด)
หากว่า ฮัน-โชล ไม่บาดเจ็บจนหายหน้าไปพักใหญ่ บางที ขอนแก่น อาจจะไม่ต้องดิ้นรนหนีตายยันท้ายฤดูกาลเช่นนี้ เพราะเมื่อใดที่มีเซนเตอร์ฮาล์ฟชาวเกาหลีใต้ อยู่ในทีม รับประกันได้เลยว่าพวกเขาจะไม่ถูกเจาะตาข่ายง่ายๆ แน่
นอกจากเรื่องของเกมรับที่เหนียวแน่น เขายังมีส่วนสำคัญที่ช่วยเซฟแต้มให้จงอางผยองได้ถึง 5 เกม เพราะทั้ง 5 ประตู ที่เจ้าตัวทำได้ในฤดูกาล 2022-23 นั้นส่งผลถึงปลายซีซั่น เพราะแต่ละลูกนั้นคือการตีเสมอคู่แข่งทั้งหมด ดังนั้น ขอนแก่น ต้องขอบคุณ สุพรรณบุรี ที่ปล่อยแข้งของดีคนนี้มาให้จริงๆ
14 ทีรอนน์ เดล ปีโน่ (นครราชสีมา เอฟซี)
แม้ว่าสุดท้าย นครราชสีมา จะต้องหล่นสู่ ไทยลีก 2 เป็นหนแรกในรอบกว่า 8 ฤดูกาล ทว่าผลงานของ ทีรอนน์ เดล ปีโน่ เพลย์เมเกอร์ชาวสเปน ที่ย้ายจาก ลาเมีย สโมสรในลีกกรีซ เข้ามาเล่นบนแผ่นดินขวานทองนั้นถือว่าน่าดูชมทีเดียว
7 ประตู กับขวบปีแรกใน ไทยลีก ถือเป็นตัวเลขที่พอใช้ได้ และด้วยฟอร์มการเล่นเช่นนี้ บางทีเขาอาจจะได้รับการทาบทามจากทีมในลีกสูงสุดก็เป็นได้
15 ลีออน เจมส์ (หนองบัว พิชญ เอฟซี)
อดีตเยาวชน เลสเตอร์ ที่ย้ายมาเมืองไทย ตั้งแต่ปี 2019 แต่มาแจ้งเกิดหลังย้ายจาก สุโขทัย สู่ หนองบัว พิชญ ในซีซั่น 2022-23 กับบทบาทมิดฟิลด์ตัวกลางที่เปี่ยมไปด้วยพละกำลังและอยู่แทบทุกหนแห่งในสนามแข่งขัน
แม้ว่าเจ้าตัวไม่สามารถช่วยให้ต้นสังกัดรอดพ้นการหล่นชั้น แต่ฟอร์มอันสุดสะเด่านั้นทำให้ตกเป็นข่าวกับ บุรีรัมย์ แบบหนาหู และเป็นที่คาดกันว่า เจมส์ น่าจะได้เซ็นสัญญากับแชมป์ ไทยลีก 8 สมัย ในเร็ววันนี้แน่
16 มอสกีโต้ (ลำปาง เอฟซี)
เพื่อนร่วมรุ่นของ เอแดร์ซอน ผู้รักษาประตู แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชุดแชมป์ ตูลง คัพ ในนามทีมชาติบราซิล ชุดยู-20 เมื่อปี 2014 ย้ายจาก วิลลา โนว่า ลีกบ้านเกิดมาร่วมทัพ ลำปาง ในซีซั่น 2022-23 และก็ฝากความประทับใจไว้ไม่น้อยทีเดียว
มอสกีโต้ มีส่วนร่วมกับทัพรถม้ามรกต 23 เกม และทำไปได้ 5 ประตู โดยแต่ละลูกที่เขาส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้นั้นถูกชื่นชมว่าเปี่ยมไปด้วยเทคนิคล้วนๆ