และถ้าให้นึกถึงของดีของเด็ดบางแสน หลายคนคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ข้าวหลามหนองมน” แต่มีของดีอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ “ไก่เหลือง” ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อเหมือนกัน ไก่ชิ้นใหญ่ๆ เครื่องเทศหอมๆ ย่างร้อนๆ ยั่วยวนใจ เคล้าบรรยากาศริมหาดบางแสนก็คงจะดีไม่น้อย แต่รู้หรือไม่ จุดเริ่มต้นของไก่เหลืองไม่ได้มาจากบางแสน แต่มาจากนครปฐมต่างหาก
“ไก่เหลือง” ชื่อนี้มาได้อย่างไร
ด้วยความสงสัยของ “นักล่าฝัน” จึงไปถามคนขายอยู่หลายเจ้าเกี่ยวกับที่มาของไก่เหลือง ได้ความว่า เดิมทีไก่เหลืองบางแสน มีต้นตำรับจากคน อ.บางเลน จ.นครปฐม โดยมีไก่ย่างบางตาล จากราชบุรี เป็นโมเดล คนนครปฐมมาตั้งรกรากทำไก่ย่างที่บางแสน ทำเยอะจนกลายเป็นเอกลักษณ์ และเป็นเมนูขึ้นชื่อของที่นี่
ส่วนชื่อของ ไก่เหลือง มาจากสีของ “ขมิ้น” พระเอกของเมนูนี้ แต่ขมิ้นมีกลิ่นแรง หลายร้านหน้าหาดจึงปรับมาใช้สีผสมอาหารแทน เลือกไก่สดไซส์ใหญ่หมักกับสามเกลอ คือ รากผักชี กระเทียม พริกไทย ให้เข้าเนื้อ เตรียมย่างส่งกลิ่นหอมฟุ้ง และสูตรไก่เหลืองบางแสน จะแตกต่างกับที่อื่น ตรงที่ใช้เกลือแทนน้ำปลา เพื่อเพิ่มรสชาติให้ไก่และไม่มีกลิ่นแรงจนเสียรสชาติ
นุชนาถ พุทธศรี หรือคุณเนย เจ้าของร้านไก่ย่างนายทวน ไก่เหลืองบางแสน บอกว่า สำหรับร้านเราทำมาตั้งแต่รุ่นปู่-รุ่นย่า หากนับเวลาก็ราวๆ 40-50 ปีแล้ว ราคาขายไก่ย่างอยู่ที่ 80-90 บาทต่อชิ้น แต่หากชิ้นใหญ่กว่านั้นก็อยู่ที่ลูกค้าจะตกลงกับคนขายว่าราคาเท่าไร ปกติหน้าร้านจะขายเป็นไม้ ส่วนที่เตียงผ้าใบจะขายเป็นจานเล็ก 150 บาท จานใหญ่ 200 บาท มีน้ำจิ้มแจ่วกับน้ำจิ้มไก่ ลูกค้าจะรู้สึกคุ้มกว่าซื้อเป็นชิ้น
เริ่มพรีออเดอร์ซีลสุญญากาศเจ้าแรกของบางแสน
แต่ช่วงโควิดมา หน้าหาดยังไม่ปิด บางวันขายไก่ได้ประมาณหลักร้อยบาทเท่านั้น พอมาช่วงมกราคม 64 หน้าร้านเปิดไม่ได้ เพราะทางจังหวัดสั่งปิดหาด จึงต้องหันมาขายทางออนไลน์แทน และเราเป็นร้านไก่เหลืองเจ้าแรกที่คิดทำออนไลน์ พรีออเดอร์ซีลสุญญากาศขายเป็นชุด เปิดโอกาสให้คนต่างถิ่นลิ้มลองความอร่อย โดยแบ่งเป็น 2 ชุด
– ชุดเล็ก มีอกไก่ 1 ชิ้น น่องติดสะโพก 1 ชิ้น และปีก 1 ชิ้น ราคา 240 บาท
– ชุดใหญ่ ภายใน 1 ชุด มี 6 ชิ้น ประกอบด้วย ส่วนอก 2 ชิ้น น่องติดสะโพก 2 ชิ้น และปีก 2 ชิ้น ราคา 480 บาท
โดยทั้ง 2 ชุดจะแพ็กส่งทั่วประเทศ ค่าขนส่งคิดตามระยะทางและน้ำหนัก โดยมีไก่ย่างบางตาลเป็นโมเดลทำออนไลน์ ผลตอบรับถือว่าค่อนข้างดี ช่วงแรกเปิด Line OA ลูกค้าเริ่มสั่ง พอในไลน์ขายดี ช่วงหลังลูกค้าก็มาสั่งในแฟนเพจเฟซบุ๊ก มีลูกค้าสั่งเยอะพอกัน ลูกค้าบางรายถึงกับจะตามมาซื้อถึงหน้าหาดเลยก็มี
สำหรับลูกค้าที่ซื้อทางออนไลน์ ส่วนใหญ่จะเป็นคนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พ่วงด้วยภาคใต้ อย่างสงขลาและภูเก็ต เคยได้ออเดอร์ใหญ่สุด อยู่ที่ 60 ชิ้น ใช้ไก่ถึง 10 ตัว น้ำหนักรวมๆ แล้วประมาณ 40 กิโลกรัมได้
ขายออนไลน์รายได้ตกไปอยู่ที่แพ็กเกจ-ค่าส่ง เน้นหน้าร้านดีกว่า
โดยออเดอร์ใหญ่นั้น ได้รายได้ที่ 5,000 บาท หักลบต้นทุนแล้วได้กำไร 2,000 บาท แต่ไม่ใช่จะได้กำไรทุกครั้ง เพราะทำออนไลน์รายได้จะหนักที่ค่าขนส่ง ค่าบรรจุภัณฑ์ อย่างค่าถุงซีลตกใบละ 3-7 บาท และเครื่องซีลเล็กราคาหลักร้อยบาท แต่หากมีออเดอร์ใหญ่อยากลงทุนซื้อเครื่องซีลขนาดใหญ่เพิ่ม
ช่วงก่อนมีโควิด วันจันทร์-ศุกร์ จะขายได้ 1,500-2,000 บาท ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ จะขายได้ 3,000-4,000 บาท และตามเทศกาล เช่น ปีใหม่ จะได้รายได้ราวๆ 7,000-8,000 บาท หากเป็นช่วงโลว์ซีซั่น เสาร์-อาทิตย์ จะขายได้ประมาณ 1,500-2,000 บาท แต่พอโควิดมา เลือกขายแค่ช่วงศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ได้รายได้ประมาณ 2,000-3,000 บาท แล้ววันธรรมดาไปลุยออเดอร์ออนไลน์ แต่ช่วงนี้หาดบางแสนเปิด เน้นขายหน้าร้านมากกว่า
ทั้งนี้คาดหวังว่ายอดขายหน้าร้านจะดีเหมือนเดิม ประกอบกับทำออนไลน์ควบคู่ไปด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่คิดกลยุทธ์อื่นเสริม จะรักษาคุณภาพอาหารไว้ ให้ลูกค้าได้รับประทานเวลามาถึงบางแสน
อมรรัตน์ รัตนทารส หรือคุณพลอย แม่ค้าร้านไก่เหลืองบางแสนแม่พลอย บอกว่า ที่ร้านจะคัดไก่สดไซส์ใหญ่ไว้บริการลูกค้า ส่วนราคาขายจะเป็นราคากลาง หน้าหาดไม่เกิน 90 บาท ตามที่เทศบาลกำหนดไว้ แต่หากชิ้นใหญ่กว่านั้น แต่ละร้านจะตกลงราคากับลูกค้า
ช่วงก่อนโควิด ถ้าขายหน้าหาด วันธรรมดาจะขายได้วันละ 1,000 บาท ส่วนวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ขายได้วันละ 3,000-4,000 บาท และช่วงเทศกาล อย่างเทศกาลปีใหม่ จะได้สูงสุด 2 หมื่นบาทต่อวัน ส่วนช่วงโควิด หาดเปิดแล้ว ได้รายได้ราวๆ 4,000-5,000 บาทต่อวัน ขายหมดทุกสัปดาห์
ที่ผ่านมา ทางร้านคิดทำเพจเฟซบุ๊ก ขายออนไลน์ตั้งแต่ 4-5 ปีที่แล้ว ย่างไก่ใส่กล่องส่งตามออเดอร์ แต่เมื่อโควิดคืบคลานเข้ามา ทำให้เทศบาลสั่งปิดหาด ปี 64 จึงปรับตัวทำแบบซีลสุญญากาศส่งทั่วประเทศ ที่ร้านเพิ่งเริ่มทำได้ประมาณ 2 เดือน ได้รายได้เฉลี่ยเดือนละ 1 หมื่นบาท
ออนไลน์ถูกกว่าหน้าร้าน แต่ลูกค้าต้องเสียค่าส่งเอง
คุณพลอย บอกอีกว่า หากลูกค้าสั่งทางออนไลน์ ราคาจะถูกกว่าหน้าหาดเท่าตัว เพราะคิดราคาส่ง ไม่มีราคากลาง โดยที่ร้านจะทำเป็นชิ้น ไม่ได้เป็นแบบชุด พร้อมเพิ่มส่วนลดพิเศษให้ลูกค้าที่สั่งจำนวนมาก
แต่ค่าใช้จ่ายจะไปหนักอยู่ที่ค่าขนส่ง ซึ่งส่วนนี้ลูกค้าออกเอง จึงมีออเดอร์ทีละมากๆ เพราะลูกค้าจะคิดถึงความคุ้มค่า และช่วงที่ทำเป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่ Work from Home ไว้ประกอบอาหารรับประทานเอง จึงนิยมสั่งแบบสด หมักแล้วซีลมากกว่าย่างสำเร็จ ส่วนใหญ่ลูกค้าของร้านเราจะเป็นชาวฉะเชิงเทรา รองลงมาก็คนกรุงเทพฯ
ส่วนในอนาคตมีกลยุทธ์จะขยายร้านเป็นตึกแถว เพราะมั่นคงกว่าเข็นรถขายหน้าหาด นอกจากนี้หากเป็นตึกแถวสามารถรองรับลูกค้าได้มากกว่า พร้อมรับไรเดอร์จากฟู้ดเดลิเวอรี่ชื่อดัง ส่งอาหารภายในจังหวัดอีกด้วย
ทั้งนี้แม่ค้าร้านไก่เหลืองทั้ง 2 เจ้า บอกตรงกันว่า เริ่มมีคนไทยในสิงคโปร์มาสั่งไก่เหลืองไปขาย แต่อยู่ในช่วงเจรจา จึงส่งชุดทดลองไปขายก่อน หากได้ผลตอบรับดีคงคิดทำส่งออกไปขายต่างประเทศแบบจริงจัง
ติดใจไก่เหลืองจนอยากมาซ้ำ
วรกมล วิทยารัมภะ หรือคุณมิ้นต์ ผู้เคยรับประทานไก่เหลือง กล่าวว่า ตนเองเป็นคน จ.ชลบุรี เคยรับประทานไก่เหลือง รวมถึงหาดบางแสนเป็นแหล่งท่องเที่ยว จึงทำให้ไก่เหลืองเป็นจุดเด่นแตกต่างจากไก่ย่างที่อื่น รวมถึงวิธีการย่างที่เคยพบ มีทั้งแบบย่างแห้ง และย่างแบบเนื้อชุ่มฉ่ำ ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน
คุณมิ้นต์ กล่าวอีกว่า ไก่เหลืองที่เคยรับประทาน รสชาติจะออกเค็มๆ ตัดรสกับน้ำจิ้มแจ่วที่หวานและเปรี้ยว แต่ส่วนตัวแล้วชอบไก่ย่างแบบเนื้อชุ่มฉ่ำไม่แห้ง หากพูดถึงราคาหลายปีที่แล้ว ไก่เหลืองที่เคยซื้อจะอยู่ที่ไม้ละ 60 มีไก่หลายส่วน ทั้งอกไก่ ปีกไก่ และสะโพกไก่ แต่ปัจจุบันซื้อไม้ละ 80 บาทตามสภาพเศรษฐกิจ ย้ำถ้ามีโอกาสกลับไปที่บางแสนอีกครั้ง ก็อยากกลับไปตามรับประทานอีก คิดถึงบรรยากาศริมชายหาดและของกินอร่อยๆ
ช่วงนี้คลายล็อกดาวน์ หาดบางแสนเปิดแล้ว นักท่องเที่ยวเริ่มมีมากขึ้น บรรยากาศการท่องเที่ยวก็คึกคักขึ้น หากผู้อ่านท่านใดอ่านจบแล้วเริ่มอยากทานไก่เหลือง ก็แวะมาที่บางแสนได้เลย “นักล่าฝัน” ก็อยากตามไปเหมือนกัน.
กราฟิก : Varanya Phae-araya