แซนดี้ ขอบคุณทุกแรงผลักดัน หนุนคว้าแชมป์ บางแสน กรังด์ปรีซ์ 2024 

แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค นักแข่งไทย ดีกรีแชมป์ซูเปอร์คาร์ 3 สมัย (2019, 2020, 2022) เปิดใจสุดปลื้ม และขอบคุณทุกเสียงเชียร์ติดขอบสนาม และทุกการสนับสนุนที่ช่วยผลักดันให้สร้างผลงานขึ้นแท่นแชมป์อันดับที่ 1 ในเรซวันเสาร์อย่างสง่างาม ในรายการ บางแสน กรังด์ปรีซ์ 2024 ที่สนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต จ.ชลบุรี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาช่วงวันที่ 5-7 กรกฎาคม พร้อมเก็บคะแนนสะสมเพิ่มขึ้น มีโอกาสลุ้นแชมป์ประจำปี

แซนดี้ กล่าวว่า ชัยชนะที่สนามบางแสน เป็นภาพในฝันที่คาดหวังไว้ แล้ววันนี้ภาพนั้นมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ทีมงานทำงานอย่างหนัก และทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม แซนดี้ภูมิใจกับผลงานความสำเร็จในครั้งนี้ที่เราทุกคนมีร่วมกัน การที่ได้พบทุกคนที่มาเชียร์ถึงขอบสนามเป็นกำลังใจที่ดีมาก เหมือนมีแรงผลักดันให้ต่อสู้เพิ่มขึ้นเยอะมาก ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุน และตอนนี้พร้อมลุยต่อสนามต่อไปที่สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซียแล้ว

สำหรับสนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต เป็นสนามแข่งรถบนถนนเลียบชายหาดบางแสนที่ท้าทาย และสวยงามติดอันดับโลก โดย แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค และทีมเมทชาวจีน เดิ้ง ยี่ (Deng Yi) ในรถอาวดี้ อาร์ 8 จีที 3 อีโว 2 (Audi R8 GT3 Evo II) หมายเลข 37 สังกัดทีมบี-ควิก แอบโซลูต เรซซิ่ง (B-Quik Absolute Racing) ภายใต้ชื่อ วินเฮียร์ บาย บี-ควิก แอบโซลูต เรซซิ่ง (Winhere by B-Quik Absolute Racing) แสดงความสามารถในการควบคุมรถและมีกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างไร้ที่ติตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในรอบควอลิฟาย แซนดี้ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมด้วยการคว้าตำแหน่ง โพล โพซิชั่น (อันดับที่ 1) สำหรับการแข่งขันในวันเสาร์ และทีมเมทชาวจีน เดิ้ง คว้าอันดับที่ 2 สำหรับการแข่งขันในวันอาทิตย์ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันที่ดีมาก

เรซที่ 3 ในช่วงบ่ายวันเสาร์ แซนดี้ลงแข่งขันเป็นคนแรก โดยออกจากกริดสตาร์ทที่ 1 และครองตำแหน่งผู้นำตั้งแต่สตาร์ทจนถึงช่วงเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนให้เดิ้ง ขับต่อ เดิ้ง ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างไร้ที่ติเช่นกัน ในที่สุดทั้งคู่ ขึ้นแท่นแชมป์ครั้งแรกของฤดูกาลแข่งขัน 2024 เก็บคะแนนเต็ม ในเรซวันเสาร์

เรซที่ 4 ในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ เดิ้ง ลงแข่งขันเป็นคนแรก โดยออกจากริดสตาร์ทที่ 2 ในช่วงออกสตาร์ทแอนดี้หล่นไปอยู่อันดับที่ 3 และรักษาอันดับที่ 3 จนถึงช่วงเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนให้แซนดี้ ขับต่อ แซนดี้ต้องเผชิญกับความท้าทาย กับการที่ต้องถูกบวกเวลาอยู่ในพิทเพิ่มขึ้นถึง 15 วินาที (เนื่องจากผลของการได้แชมป์เรซที่ 3 ของวันเสาร์) เมื่อแซนดี้กลับเข้ามาในสนาม ขณะนั้นอยู่ในอันดับที่ 5 ทำให้แซนดี้ต้องกดคันเร่งแบบไม่คิดชีวิตเพื่อให้เข้าใกล้คันนำ ในที่สุดแซนดี้จบอันดับที่ 3 ขึ้นโพเดียม และ เก็บคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
หลังจบการแข่งขัน