อ.ธรณ์ เผยข่าวเศร้า ทีมคณะประมงลงพื้นที่สำรวจชายฝั่งศรีราชา พบ “มวลน้ำเขียว” จากแพลงก์ตอนบลูมกำลังเข้าสู่ชายฝั่ง ตรงบริเวณเดียวกับที่คาดว่าจะมีคราบน้ำมันลอยเข้ามา
วันที่ 5 กันยายน 2566 จากกรณีเกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือบรรทุกน้ำมัน ขณะขนถ่ายน้ำมันดิบบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล หมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ซึ่งอยู่บริเวณทางตอนใต้ของเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา
ล่าสุด ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ทีมของคณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ ลงพื้นที่ชายฝั่งศรีราชา เพื่อสำรวจคราบน้ำมัน
แต่สิ่งที่พวกเราเจอ คือ มวลน้ำเขียว จากแพลงก์ตอนบลูมกำลังเข้าสู่ชายฝั่ง ในบริเวณเดียวกับที่คาดการณ์ว่าจะมีคราบน้ำมันเข้ามา ภาพที่เพื่อนธรณ์เห็น ถ่ายตอนบ่ายนี้เอง เห็นมวลน้ำเขียวกำลังมาสู่ชายฝั่งศรีราชา และพื้นที่ใกล้เคียง (สังเกตเกาะลอยมุมขวาบน)
ข้อมูลจาก GISTDA มีปรากฏการณ์น้ำเปลี่ยนสี (แพลงก์ตอนบลูม) เกิดตั้งแต่วันที่ 3 กันยายนเรื่อยมา ตอนนี้เลยกลายเป็นปรากฏการณ์ซ้ำซ้อน เราหาคราบน้ำมันไม่เจอ อาจเป็นเพราะปนกับน้ำเขียว หรืออาจถูกกำจัดไปบ้างแล้ว ผลกระทบที่เกิดขึ้นจึงซ้อนกัน ทำให้ซับซ้อนจนไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ได้แต่เศร้าว่าทำไมเราถึงเจอแบบนี้
ทั้งหมดนี้ อาจเป็นเพราะเราใส่ใจทะเลไม่พอ ทำให้เกิดผลกระทบทางอ้อม เช่น น้ำทิ้ง เร่งให้เกิดแพลงก์ตอนบลูมถี่ยิบ ยังมีผลกระทบทางตรงจากคราบน้ำมัน แม้เป็นอุบัติเหตุ แต่เราก็ต้องยกระดับเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำซาก มิฉะนั้น เจอทั้งน้ำเขียวบวกน้ำมัน ทะเลจะเป็นอย่างไร พี่น้องคนทำมาหากินชายฝั่งจะเหนื่อยแค่ไหน? ทีมคณะประมงยังคงอยู่ในพื้นที่ เพราะนี่คือหน้าที่ของเรา จะมาอัปเดตให้เพื่อนธรณ์เรื่อยๆ ครับ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณชายหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี มีรถและเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของเทศบาลเมืองแสนสุข เร่งเก็บเศษไม้ เศษพลาสติก ขยะต่างๆ ให้สะอาดตลอดทั้งแนว
สอบถาม นายนพพล สังข์นวม อายุ 32 ปี ชาวประมงหาดวอนนภา ได้เปิดเผยว่า วันนี้น้ำทะเลที่ชายหาดบางแสนยังเป็นปกติ ไม่มีคราบน้ำมัน ไม่มีกลิ่นเหม็น ตนออกเรือไปหาของทะเล ออกห่างจากชายฝั่ง ประมาณ 3 ไมล์ทะเล ยังไม่พบคราบน้ำมัน หากมีน้ำมันรั่วไหลมาถึงชายหาดบางแสน อาจจะมีผลกระทบกับสัตว์ทะเลได้
ทางด้าน นายอศลย์ มีนาภา นักวิจัยระดับปฏิบัติการ ฝ่ายวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล กล่าวว่า ถ้าในกรณีหากมีน้ำมันรั่วเข้ามาที่ชายหาดบางแสน สิ่งที่จะเกิดผลกระทบ ที่แน่ๆ คือสภาพแวดล้อม ที่จะกระทบถึงความสวยงามของชายหาด ในส่วนของตัวน้ำมัน จะกระทบต่อสิ่งมีชีวิตที่อาศัยบริเวณชายหาดทั้งหมด เช่น ในกลุ่มหอย หอยเสียบ กลุ่มปลาที่อาศัยอยู่ตามหน้าดินหากมีน้ำมันเข้ามาจริงๆ
ส่วนที่จะส่งผลกระทบต่อไปในอนาคต คือเรื่องการจับจ่ายใช้สอย ในเรื่องการท่องเที่ยวมากกว่า ในภาพกว้างๆ ในเบื้องต้น แต่อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ยังไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ได้มีการเตรียมการเฝ้าระวังของหน่วยงานต่างๆ ที่เฝ้าติดตามดูทิศทางของกระแสน้ำ หรือน้ำมันไปทางไหน ซึ่งตอนนี้ยืนยันว่าชายหาดบางแสน ยังมาเที่ยวได้ตามปกติ.
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat