Site icon บางแสน

เลือกตั้งเมืองพัทยาแข่งขันคึกคัก ผู้สมัครเร่งลงพื้นที่หาเสียง หลังลงสมัครได้เพียง 1 วัน

163047073943

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ กกต.ได้กำหนดให้มีการรับสมัครนายกและสมาชิกสภาเมืองพัทยาในวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้สมัครจาก 4 กลุ่มการเมือง ลงชิงชัย ไล่ตั้งแต่ “กลุ่มเรารักษ์พัทยา” ของนายสนธยา คุณปลื้ม ที่ส่งนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผช.รมต.วัฒนธรรม ลงสมัครซึ่งได้หมายเลข 1 ตามด้วยผู้สมัครอิสระอย่าง นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ อดีตนายอำเภอบางละมุง และอดีตรองอธิบดีกรมการปกครองที่ลงสมัครอิสระได้หมายเลข 2

ขณะที่กลุ่มพลังก้าวหน้า ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส่งนายกิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย ที่ได้หมายเลข 3 สุด ท้ายกับคู่แข่งที่ดูจะสูสีกับกลุ่มของนายสนธยา คุณปลื้ม อย่าง “กลุ่มพัทยาร่วมใจ” ที่มีนายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร อดีตนายกเมืองพัทยา ที่แตกกลุ่มออกจากซุ้มบางแสนและมีฐานการเมืองเดียวกันมาลงสมัครแข่งขัน โดยงานนี้ส่ง นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร อดีตนายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ลงสมัครซึ่งได้หมายเลข 4

ล่าสุดเช้าวันนี้ (1 เม.ย.) ผู้สมัครกลุ่มพัทยาร่วมใจ นำโดยนายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร ผู้สมัครนายกเมืองพัทยาเบอร์ 4 นำทีมกลุ่มผู้สมัครสมาชิกสภาเมืองพัทยาเขต 1 ตั้งแต่หมายเลข 13-18 ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณเขตเลือกตั้งที่ 1 ตลาดเก่านาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ฐานเสียงสำคัญของกลุ่มการเมืองนี้ เนื่องจากผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นคนพื้นที่โดยกำเนิด ขณะที่นโยบายยังเน้นให้ “เมืองพัทยาได้รับการปกครองโดยคนบ้านเรา” ซึ่งมีความรู้ เข้าถึงชุมชน รู้ถึงปัญหา และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการทำงานด้านบริหารจัดการทั้งการเมือง การท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการแก้ไขปัญหาปากท้อง โดยจะเน้นการทำงานที่โปร่งใส แก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น อีกทั้งต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหาที่ค้างคาและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยามาอย่างยาวนาน ทั้งการขุดเจาะผิวจราจรทั่วเมืองพัทยา การก่อสร้างโครงการต่างๆ ที่ดำเนินการไม่แล้วเสร็จ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งพบว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนที่ออกมาให้กำลังใจกันอย่างเนืองแน่น

นายสินธ์ไชย ผู้สมัครนายกเมืองพัทยาเบอร์ 4 กล่าวว่า เมืองพัทยาถูกปกครองโดยกลุ่มบุคคลที่ไม่ใช่คนพัทยาแต่กำเนิด ทำให้ไม่เข้าใจถึงสภาพปัญหามีแต่การนำโครงการต่างๆ มาลงไว้อย่างมากมาย แต่พบว่าหลายโครงการดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ทำงานซ้ำซ้อน อาทิ การขุดเจาะผิวจราจร การวางระบบท่อระบายน้ำ การแก้ไขปัญหาน้ำเสีย น้ำท่วม ที่สำคัญจากพิษโควิด-19 กว่า 2 ปีส่งผลให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องปิดกิจการไปกว่า 60 % โดยที่รัฐไม่ได้เข้ามามีส่วนในการแก้ไขหรือบรรเทาความเดือดร้อน ก่อให้เกิดปัญหาการว่างงาน และการท่องเที่ยวรวมทั้งเศรษฐกิจได้รับความเสียหาย ทางกลุ่มพัทยาร่วมใจในฐานะที่เป็นคนท้องถิ่นที่มีความรักในถิ่นฐานบ้านเกิดจึงมีความต้องการในการพลิกฟื้นให้เมืองพัทยากลับมาเป็นเมืองท่องเที่ยวในระดับนานาชาติอีกครั้ง และยังเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวและการลงทุนของ EEC ตามที่รัฐบาลตั้งความหวังไว้ด้วย

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่

Exit mobile version