เปิดวิสัยทัศน์ ‘ธวัชชัย ศรีทอง พ่อเมืองชลบุรี’ กับการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ(EEC)ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน อยากพัฒนาชลบุรีเป็นเมืองสะอาด ปลอดภัยทันสมัย ทำให้ การท่องเที่ยวชลบุรี กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง พร้อมสร้างศักยภาพการแข่งขัน ทั้งสินค้าการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาค SMEs
20 ม.ค.2566 – ได้เสวนากับ “พ่อเมืองชลบุรี” นายธวัชชัย ศรีทอง หลังได้รับตำแหน่ง3เดือนกว่า ถึงแนวทางในการนำพา “ชลบุรี” ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง หลังสถานการณ์ โควิด-19เพราะวันนี้จังหวัดชลบุรีนั้น ถูกกระแสความเปลี่ยนแปลง และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจตกต่ำ การท่องเที่ยวซบเซา เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ ‘การท่องเที่ยวชลบุรี’ กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
แน่นอนในฐานะของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ “พ่อเมือง” ตามนิยามศัพท์ที่ถูกเรียกขานมาแต่โบราญ จะนิ่งดูดายกับสถานการณ์เหล่านี้ไม่ได้ การทำให้ชลบุรีดีขึ้น ทั้งในเรื่องของการส่งเสริมพัฒนาอาชีพ แก้ปัญหาการค้า การท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาให้มากๆ เพื่อที่จะได้ “เม็ดเงิน” มาหล่อเลี้ยงผู้คนในหลายสาขาอาชีพให้กระเตื้องขึ้น
ชลบุรี เมืองชายทะเลที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดแห่งบูรพาทิศ ดินแดนชายทะเลอันมั่งคั่งแห่งนี้ ได้ผันผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน จากการเป็นเมืองท่าค้าขายคึกคักในอดีต พัฒนามาสู่เมืองเกษตร อุตสาหกรรม และท่องเที่ยว สิ่งนี้อาจสะท้อนคุณลักษณะสำคัญของคนเมืองชล ซึ่งมีความขยัน และมองการณ์ไกล ประกอบกับมีทรัพย์ในดินมีสินในน้ำ ต่างช่วยกันเอื้ออำนวยให้การพัฒนาในด้านต่างๆ เป็นไปอย่างสะดวกราบรื่น และต่อเนื่อง
ทุกวันนี้ ชลบุรีได้ก้าวย่างผ่านยุคแห่งการพัฒนา จนสามารถบรรลุถึงความเพียบพร้อม ทั้งในแง่ของทรัพยากรธรรมชาติ การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม การเกษตร วิถีชีวิต และสามารถรักษาวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นไว้ได้อย่างสมบูรณ์ กลายเป็นเมืองชายทะเลที่มีเสน่ห์ น่าเที่ยว น่าลงทุน และมีความปลอดภัยสูง ศักยภาพ และความโดดเด่นในหลายด้านของเมืองชลทั้งหมดดังกล่าว จึงกลายเป็นต้นทุนที่มั่งคั่งเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ชลบุรีกลายเป็น “เพชรน้ำเอกแห่งบูรพาทิศ” ที่พร้อมเปิดประตูออกสู่สังคมโลกได้อย่างสมภาคภูมิ แต่ที่ผ่านมาสถานการณ์โรคระบาดของโควิด-19 ได้กระทบในทุกมิติไม่ใช่เฉพาะจังหวัดชลบุรี แต่ได้รับผลกระทบไปทั้งประเทศ หลังจากสถานการณ์เริ่มดีขึ้น
เรามาฟังวิสัยทัศน์“พ่อเมืองชลบุรี”เกี่ยวกับการพัฒนาจังหวัดชลบุรี ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน “เพราะถ้าสามารถทำได้อย่างเป็นรูปธรรม เราย่อมสร้างความมั่นคง ความปลอดภัยในทรัพย์สินให้กับประชาชนชาวชลบุรี รวมถึง การสร้างศักยภาพการแข่งขัน ทั้งในสินค้าการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาค SMEs ให้สู้กับตลาดทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศได้”
นายธวัชชัย ศรีทอง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ตนเองเข้ามารับตำแหน่ง ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาทุกมิติในทุกอำเภอทุกพื้นที่ และนำมาแก้ไข อยากพัฒนาชลบุรีเป็นเมืองสะอาด ปลอดภัยทันสมัยเช่นเก็บสายไฟที่ไม่เป็นระเบียบดูแล้วไม่น่ามอง นำสายไฟลงดิน ขุดลอกผักตบ เก็บขยะ ตัดหญ้าเกาะกลางถนน เก็บป้ายไม่จำเป็นออก ให้ใครเข้ามาในพื้นที่แล้วมองชลบุรีเป็นจังหวัดที่ สะอาด สวยงาม ด้วยชลบุรีเป็นเมืองท่องเที่ยว ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้านักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัยในการมาท่องเที่ยว เขาก็อยากจะมาเที่ยวชลบุรี นำเม็ดเงินมาใช้จ่ายในจังหวัดเพิ่มขึ้น สร้างความเชื่อมั่นให้ ‘การท่องเที่ยวชลบุรี’ กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวชลบุรีก็ดีขึ้นตามลำดับ “ในส่วนของจังหวัดชลบุรี เรามีจุดเด่นตรงความหลากหลายในการทำมาหากิน มีการประกอบอาชีพต่างๆหลากหลายด้าน ทั้ง ภาคเกษตร การท่องเที่ยว ไปจนถึงภาคอุตสาหกรรม แม้แต่เมืองท่องเที่ยวยังมีกลุ่มเป้าหมายที่มาเที่ยวต่างกัน อย่างบางแสนจะเน้นนักท่องเที่ยวกลุ่ม Local หรือชาวไทย ขณะที่ พัทยา จะเน้นนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ดังนั้นคาร์แรคเตอร์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรีจึงมีความหลากหลายมาก” ไม่เพียงแค่เมืองสะอาดอย่างเดียวเท่านั้น ชลบุรีเป็นเมือง EEC หรือ Eastern Economic Corridor ซึ่งมีอีกชื่อเป็นภาษาไทยว่า “โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” โครงการนี้ส่งผลหลายประการต่อเศรษฐกิจในภาคตะวันออกของประเทศไทย เราต้องเตรียมความพร้อมดึงดูดการลงทุนฐานนวัตกรรมขั้นสูง และจูงใจนักลงทุนทั่วโลกเข้าสู่พื้นที่
เนื่องจากเรามีการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว อุตสาหกรรม และธุรกิจอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวในเขตปกครองพิเศษพัทยาในจังหวัดชลบุรี ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเกือบ 15 ล้านคนในแต่ละปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าความต้องการแรงงานก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ในฐานะที่ชลบุรีเป็นเขต EEC คือเขตเศรษฐกิจพิเศษ บริษัทจากต่างประเทศจึงมาลงทุนกันมากขึ้น นายจ้างหรือพนักงานต่างชาติที่เดินทางมาทำงานในประเทศไทยจึงต้องการที่อยู่อาศัย นี่ยังไม่รวมถึงชาวต่างชาติที่ต้องการใช้ชีวิตในวัยเกษียณในเขตนี้ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกกว่าในต่างประเทศหรือในกรุงเทพฯ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่น่าอยู่ทั้งทะเลและภูเขา รวมถึงความสะดวกสบายในการเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยเวลาเพียง 1-2 ชั่วโมง
“ที่ผ่านมา จังหวัดชลบุรี มีความโชคดีมาก ที่เรามีพันธมิตรเป็นภาคเอกชน ซึ่งล้วนเป็นนักธุรกิจที่มีศักยภาพสูง ได้มาให้ความร่วมมืออย่างดีกับทางจังหวัด ทำให้การพัฒนาในหลายด้านเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น”
ด้านครัวเรือนชนบทเราได้ส่งเสริมการปลูกผักสวนครัว รั้วกินได้ ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสร้างความมั่นคงทางอาหารเป็นการลดภาระในการใช้จ่ายโดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร.9 มาเป็นหลักการทำงานที่ผ่านมาเราเห็นคุณประโยชน์ที่ชัดเจนขึ้นทันทีเมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เชื่อว่าสามารถตอบโจทย์เศรษฐกิจระดับครัวเรือนได้เป็นอย่างดี
โดยโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อน จังหวัดชลบุรี ได้ดำเนินการครบถ้วนคิดเป็น 100% ของครัวเรือนตามแนวคิดทำชลบุรีให้เป็นเมืองสะอาดทั้งนี้ยังฝึกอาชีพบริการต่างๆให้ภาครัฐเข้าถึงประชาชนในทุกพื้นที่เพื่อรองรับการท่องเที่ยวเพิ่มเม็ดเงินในกระเป๋าให้ประชาชน
จังหวัดชลบุรีเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าภาคตะวันออกที่เชื่อมโยงพื้นที่เมือง พื้นที่เศรษฐกิจ การคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ ตามนโยบายการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของประเทศไทย เพื่อให้ก้าวทันกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มการพัฒนาในอนาคต จึงจำเป็นต้องมีแผนผังนโยบายและการชี้นำการพัฒนาพื้นที่ทางกายภาพระดับจังหวัด อำเภอ เมือง และชุมชน ให้มีความสอดคล้องกับศักยภาพและทิศทางการพัฒนาพื้นที่อย่างบูรณาการ ภายใต้ยุทธศาสตร์ประเทศ แผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและขนส่ง รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินแผนพัฒนาอยู่
โครงสร้างพื้นฐานหลัก รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิและอู่ตะเภา โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นเมืองการบินภาคตะวันออก โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (ระยะที่3) โครงการท่าเรือแหลมฉบัง(ระยะที่3)ยังมีโครงการใหญ่ที่สำคัญอีก 2 โครงการ คือ เมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ (Smart City) และ เมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งเมืองใหม่ 2 เมืองนี้ ทางรัฐบาลผลักดันต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
เมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ อยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก. 14,619 ไร่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ห่างจากสนามบินอู่ตะเภา 15 กม. จะเป็นเมืองที่ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมที่ทันสมัยเข้ามาบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาเมือง และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โครงการเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ จะเกิดการจ้างงานใหม่กว่า 200,000 ตำแหน่ง และยังจะเกิดการค้า การลงทุน จำนวนมาก ภาครัฐเองยังจะได้ประโยชน์จากค่าเช่าที่ของเอกชน ทำให้มีผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
“เริ่มต้นของการวางรากฐานในทุกมิติ ด้วยแนวคิด“เมืองนวัตกรรมชั้นนำ สร้างสรรค์เศรษฐกิจใหม่ สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างสมดุลและยั่งยืน”พลิกบทบาท ภารกิจ และวิสัยทัศน์ ให้สามารถก้าวข้ามพรมแดนไปสู่การแข่งขันในโลกที่ไร้ขีดจำกัด “ธวัชชัย ศรีทอง พ่อเมืองชลบุรีกล่าวทิ้งท้าย