One Day Trip แบบสบายๆ ที่ อ่างศิลา บางแสน ชลบุรี

          เรามาเที่ยวพัทยากันบ่อยมาก แต่!!! ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวอ่างศิลาแบบจริงจังซักที วันนี้เลยจะขอเที่ยวนอกกรอบเดิมๆ เราจะไปเที่ยวแบบ One Day trip อ่างศิลา บางแสน ชลบุรี กันค่ะ

          แต่!!! ก่อนที่จะไปตะลุยเที่ยวกัน กองทัพต้องเดินด้วยท้องเนอะ เพราะอาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญเราตั้งใจมากินอาหารเช้ากันที่นี่ค่ะ

“โกอั๋น 富豐 “

          ร้านอาหารเช้าสไตล์เอเชียและตะวันตก รวมถึงมีติ่มซำปั้นสด แค่หน้าร้านก็อลังการ สะดุดตาสุดๆ แล้ว

          มาทานมื้อเช้ากันตอนสายๆ เวลา 11.30 น. รวบตึง 2 มื้อเลยค่ะ เมื่อเรามาถึงที่ร้าน แนะนำว่าให้ศึกษารูปแบบการให้บริการของทางร้านก่อนค่ะ จะได้ไม่งง ซึ่งทางร้านตั้งป้ายอธิบายไว้ตรงทางเข้าร้าน

          คราวนี้ถึงเวลาไปกินของอร่อยกันแล้ว เมื่อเราเลือกที่นั่งได้แล้ว ก็ทำตามคำแนะนำการใช้บริการเลยค่ะ ได้โต๊ะแล้ว จำเลขไว้ แล้วไปค่ะเราไปเลือกอาหารทานกัน

          ตู้แช่ติ่มซำ ราคาเข่งละ 30 บาท ของมีให้เลือกเยอะมาก เอาเป็นว่าเราเลือกมาเฉพาะที่อยากกินละกัน เอามาทุกอย่างคงไม่ไหว

          หลังจากเลือกหยิบใส่ถาดเรียบร้อย ก็ไปชำระเงินที่เคาเตอร์ พร้อมสั่งเมนูอย่างอื่นต่อเลยค่ะ

หน้าตาติ่มซำ ทั้ง 14 เข่ง

เมนูแนะนำ เอาใจคนหิว!!! นี่มาตอนที่ยังไม่หิวนะ ถ้าหิวคงเยอะกว่านี้

นอกจากนี้ยังมีเมนูแนะนำอีกหลายเมนูที่เราไม่ได้สั่งมา

          บรรยากาศของร้านตกแต่งสไตล์ “Chinese Contemporary” ผสมผสานระหว่างกลิ่นอายของจีนโบราณ ที่มีศิลปะแบบดั้งเดิมและความทันสมัยสไตล์โมเดิร์นได้อย่างลงตัวและสวยงามมาก 

          งานนี้ฟินไปเลยค่ะ อิ่มทั้งท้อง อิ่มทั้งตา กดชัตเตอร์เก็บรูปกันรัวๆ ได้รูปสวยๆ ดีต่อใจทุกมุม อิ่มแล้วก็มีแรงไปเที่ยวกันต่อค่ะ

          อ่างศิลา ชลบุรี หมู่บ้านชาวประมงริมทะเล เริ่มมีมาตั้งแต่ในยุคของชาวจีนแต้จิ๋วที่อพยพเข้ามาอยู่ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้มีการนำหินเนื้อละเอียดที่มีอยู่เยอะแยะมากมายในแถบอ่างศิลา มาแกะสลักเป็นครกหินลูกนิมิตร และตุ๊กตาไว้สำหรับตกแต่งสวน  แต่!!! ที่มีชื่อเสียงคือ ด้านการทำครกหินและผลิตภัณฑ์จากทะเล ทั้งอาหารทะเลสดและตากแห้ง เป็นอีกหนึ่งจุดแวะเที่ยวสำหรับคนที่มาย่านบางแสน เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลกัน บอกเลยว่า!!! แต่ละที่ คือ ปังเว่อร์ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เป๊ะปัง เพียบเลยจ้า ใครที่เป็นสายเที่ยว สายเดินตลาด ชอบทานของอร่อยๆ ตามเรามาเที่ยวอ่างศิลากันได้เลย

สะพานปลาอ่างศิลา

          เมื่อก่อน “สะพานปลาอ่างศิลา” มีชื่อเรียกว่า “สะพานหิน” สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยสร้างสะพานหินยาวออกไปในทะเล จนพ้นเขตศิลาใต้น้ำ เนื่องจากในหลวงรัชกาลที่ 4 ท่านทรงพิจารณาเห็นว่า…อ่างศิลามีศิลาใต้น้ำจำนวนมาก เมื่อน้ำลงจะมีศิลาและเลนลาดออกไปจากฝั่งเป็นทางยาว ทำให้ไม่สะดวกในการจอดเรือเทียบท่า

          พอสะพานก่อสร้างเสร็จ ชาวประมงก็นำอาหารทะเลสดๆ มาขายกัน ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา รวมไปถึงสินค้าท้องถิ่นขึ้นชื่อ “ครกหิน” มาวางขายอยู่ด้วย แต่ในปัจจุบัน!!! มีการปรับปรุงพื้นที่ใหม่ จนกลายมาเป็น “ตลาดประมงอ่างศิลา” และเพิ่มเติมคือมี “ประภาคาร” อยู่ช่วงปลายสะพานค่ะ 

          บรรยากาศภายในตลาดประมงค่ะ ของสดขายเยอะมาก และมีของแห้ง อย่างกุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง ปลาเค็มอีกด้วยค่ะ

          ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ใกล้กรุง ที่ไม่ใช่แค่มาซื้ออาหารทะเลสดๆ แต่ยังเป็นจุดชมวิว จุดถ่ายรูปเช็คอินสวยๆ กันอีกด้วยค่ะ และบริเวณปากทางเข้าสะพานปลา ด้านซ้ายมือก็จะมีร้านค้าเยอะมากเช่นกัน

          และบริเวณปากทางเข้าสะพานปลา ด้านขวามือ สามารถเดินไปชมวิวทะเลสวยๆ ได้ค่ะ

          หลังจากใช้เวลาเดินตลาด อยู่ 1 ชั่งโมงเต็ม ถามว่า… ได้อะไรมั้ย ตอบค่ะว่า… ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือมาเลย

          บริเวณใกล้ๆ สะพานปลาอ่างศิลา แค่ช่วงฝั่งตรงข้ามถนน ก็จะมีตลาดเก่าของที่นี่ ที่ขายของทะเล เราไปดูกันค่ะว่าจะแตกต่างกันมั้ย

ตลาดประมงพื้นบ้านอ่างศิลา

          ครั้งแรกเลยค่ะ กับตลาดประมงพื้นบ้านอ่างศิลา ตื่นเต้นกับบรรยากาศอาหารทะเลมากๆ ละลานตาไปหมด ทั้งสะอาดและเป็นระเบียบน่าเดินมากค่ะ ของทะเลสดๆ ทุกอย่างหาได้จากที่นี่เลยค่ะ วิถีประมงพื้นบ้าน มีทั้งของสด ของปรุงสุก มีบริการ นึ่ง ทอด เผา ครบครัน นอกจากนี้มี อาหารแห้ง ของฝาก และอีกหลายอย่างให้เลือกตามมาดูภายในตลาดกันค่ะ

          สรุปคือ ราคาของทะเล ของแห้ง แทบไม่ต่างกันเลยค่ะ โดยแต่ละที่ถูกแพงสลับกันไปแต่ ต้องต่อรองราคาแม่ค้าพ่อค้าเอาเอง ดังนั้นใครสะดวกตลาดไหนก็สามารถซื้อได้ตามสะดวกเลยค่ะ เราสำรวจราคามาให้แล้ว 

          หลังจากสำรวจตลาดจนสาแก่ใจแล้ว เราจะพาไปชมจุดชมวิวของอ่างศิลากันค่ะ รู้ยังว่าที่ไหน??? แต่!!! ทางผ่านมีอะไรให้ชม รีบเบรครถหาที่จอดเลยค่ะ

ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ

          หรือที่เรียกกันว่า “วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม” เดิมศาลเจ้าแห่งนี้เป็นเพียงศาลเจ้าขนาดเล็กที่สร้างขึ้นโดยอาจารย์สมชาย เฉยศิริ ในปีพ.ศ. 2534 ต่อมาเหล่าศิษยานุศิษย์ และประชาชนที่เลื่อมใสในองค์เทพเจ้าหน่าซาไท้จื้อ ได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์สร้างศาลเจ้าขึ้นใหม่ในวโรกาสเฉลิมพระเกียรติครบรอบ 72 พรรษาของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2541 โดยสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร(เจริญ สุวฑฺฒโน) ได้เสด็จมาเป็นประธานในพิธีเททองหล่อพระพุทธรูป 7 องค์ พร้อมกับพระราชทานนามศาลเจ้าแห่งนี้เป็นภาษาไทยว่า วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม ซึ่งหมายถึง ที่สถิตของทวยเทพเจ้าทั้งหลายนั่นเอง

          ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ปัจจุบันเป็นวัดจีนขนาดใหญ่ ที่มีน้ำพุสีทอง มีประติมากรรมสีสันสดใสมาก และศาลาที่ตกแต่งอย่างวิจิตร เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดชลบุรี สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมจีนอย่างวิจิตรงดงาม ภายในศาลเจ้า มีองค์เทพ 81 ปางให้กราบไหว้ เป็นที่ประดิษฐานเทวรูปจีนจำนวนมาก และยังมีองค์ไท้ส่วยเอี้ย ซึ่งเป็นเทพคุ้มครองดวงชะตา เพื่อให้ผู้ศรัทธาได้ขอพร ประกอบกับการที่ผู้มีจิตศรัทธาได้ไปขอพรองค์เทพต่างๆ ในศาลเจ้าแห่งนี้แล้วประสพความสำเร็จดังหวัง จึงทำให้ศาลเจ้าแห่งมีชื่อเสียงโด่งดัง ในทุกวันจะมีผู้คนทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางไปกราบไหว้ขอพรจากองค์เทพที่ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นจำนวนมาก

          สามารถถ่ายภาพได้เฉพาะบริเวณด้านนอกเท่านั้น ด้านบนชั้นสี่จะสามารถมองเห็นวิวทะเลที่สวยงามได้อีกด้วย ถือว่าเป็นสถานที่สวยงาม อลังการและศักดิ์สิทธิ์มากค่ะ ใครผ่านมาอย่าลืมแวะมาชมความสวยงามกันนะคะ สวยจริง

          ทีนี้เราไปจุดชมวิวของอ่างศิลากันค่ะ

จุดชมวิวยอดเขาสามมุข

          ที่นี่!!! มีความสำคัญในเชิงสัญลักษณ์ของจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในแลนมาร์คสวยของบางแสน เป็นเนินเขาสูงเพียง 45 เมตร ตั้งอยู่ระหว่างอ่างศิลาและหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี

          คนในท้องถิ่นเชื่อว่าวิญญาณของภูเขานั้นช่วยปกป้องชาวประมงจากอันตราย ตำนานหนึ่งเล่าว่าภรรยาของชาวประมงรอสามีของเธอที่หายไปในทะเลบนเนินเขา จึงสร้าง “ศาลเจ้าแม่สามมุข” (ศาลไทย) ขึ้นตามตำนานนี้ ส่วนด้านบนมีศาลเจ้าจีน “เทียนโฮวเซี้ยบ้อ” ตั้งอยู่บนยอดเขา

          โดยริมถนนทางขึ้นเขาสามมุก เราสามารถมองเห็นผืนน้ำทะเลได้แบบ 180 องศา มีทางเดินให้เดินชมวิวชิลๆ รับลมทะเลได้เพลินๆ อีกด้วย และบนยอดเขาสามารถมองเห็นทัศนียภาพได้โดยรอบ อีกทั้งเขาสามมุขยังมีลิงป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

          บอกเลยว่าที่นี่!!! มีหลากหลายมุม ให้กดชัตเตอร์ ท้องฟ้ากับทะเล ช่างถ่ายรูปสวยสุดๆ เลยค่ะ   

          เพื่อนๆๆๆๆๆ เบื่อทะเลกันรึยัง งั้นเราเปลี่ยนไปเที่ยวฟีลญี่ปุ่นกันบ้างมั้ย เที่ยวญี่ปุ่นทิพย์ ที่บางแสน

ร้อยลีลาของฝาก บางแสน

          ร้านขายของฝาก และ ร้านทาโกยากิ มีการตกแต่งในมุมต่างๆ ทั้งป้าย ตัวอักษร มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก ทั้งตู้กดน้ำ เก้าอี้นั่ง ทางเดินทางม้าลายกลางถนน เหมือนกำลังเดินช้อปปิ้งอยู่ในร้านขายขนมของญี่ปุ่นเลยค่ะ ทำเอาเคลิ้มไปเลยว่ากำลังอยู่ที่โอซาก้า

          ร้อยลีลาของฝาก มีของขายหลากหลายอย่างขนมไทยโบราณ ขนมหม้อแกงสูตรเพชรบุรี วุ้นเป็ดกะทิสด ฝอยทองป้านงค์บางปะกง กาละแม ข้าวเหนียวแดง สูตรเด็ดหวานน้อย อร่อยฟิน อาหารทะเลแห้ง แคปปลาหมึก หมึกลืมตัว น้ำพริกหมูกระจก ห้อยจ๊อปูก้อน แฮ่กึ้น ปูจ๋า ขายราคาส่งทั้งร้าน บริการจัดส่งทั่วประเทศค่ะ

          นอกจากนี้ฝั่งตรงข้าม ก็มีร้านคาเฟ่ฟีลญี่ปุ่น แอบกระซิบค่ะว่า…ขนมอร่อยมาก ไปชิมมาแล้ว

โมมิจิสเปเชี่ยลตี้ คอฟฟี่ (Momiji Specialty Coffee)

          สายญี่ปุ่นต้องห้ามพลาด ใคร!!! ผ่านมาทางบางแสน​ ต้องแวะเช็คอินที่นี่ค่ะ  ร้านจะอยู่ติดกับร้านของฝากร้อยลีลา​ ริมถนนข้าวหลามฝั่งขาออกจากหาดบางแสน​ โดยพื้นที่บริเวณรอบร้านกาแฟโมมิจิ​ ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นและบรรยากาศภายในร้านจะตกแต่งในสไตล์ Japanese Garden เหมือนอยู่ญี่ปุ่นเลยทีเดียว

          ร้านมีความมินิมอลสุดๆ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน

          เดี๋ยวแถมให้อีกที่ดีกว่า เที่ยวญี่ปุ่นทิพย์ มาแล้วอย่าให้เสียโอกาสเที่ยว จริงมั้ยทู๊กกกกคน

ตลาดปลาบางแสน バンセーン魚市場 (bangsaen Fish Market)

          ที่นี่ไง ตลาดปลาญี่ปุ่น  แต่!!! อยู่บางแสนเองค่ะ มีทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา ทั้งของสดๆ และปรุงสำเร็จเรียบร้อย อาหารญี่ปุ่นก็มีหลายร้านมากกก ด้านหน้าตลาดตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น มี ต้นซากุระสีชมพู มีตัวอักษรญี่ปุ่น มีปลาตัวใหญ่ห้อยไว้ มีสถานนีรถไฟ JR จำลอง

          ส่วนด้านใน โครงสร้างอาคารเป็นเหล็กขนาดใหญ่ แบ่งซอยเป็นล็อคๆ ขายอาหารทะเลสด สามารถเลือกซื้อ จ่ายเงินสดหรือสแกนก็ได้ แล้วนำไปปรุงไม่ว่าจะเป็นเผา นึ่ง ยำ ตามใจชอบ แต่มีค่าบริการนะคะ

          ทางตลาดจะมีโต๊ะ-เก้าอี้นั่ง ไว้ให้บริการนั่งทานอาหาร เหมือนในศูนย์อาหารเลยค่ะ

          เป็นยังไงกันบ้างค่ะ กับ แหล่งท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นทิพย์ บางแสน พอจะทำให้หายคิดถึงญี่ปุ่นกันบ้างมั้ย แต่สำหรับเราหนักเลยค่ะ คิดถึงหนักเข้าไปอี๊กกกก นอกจากจะ กดชัตเตอร์กันแบบรัวๆ มีมุมให้เซลฟี่มากมายหลายจุด​ ตอนนี้ ญี่ปุ่นทิพย์ บางแสน กลายเป็นจุดเช็คอิน​ จุดเซลฟี่ยอดนิยมอีกที่หนึ่งของจังหวัดชลบุรี​กันไปแล้วววว 

          เราใช้เวลาเที่ยวจุดนี้ไม่นานเลยค่ะ แค่ 16 นาทีเท่านั้นกับการถ่ายรูป ได้เวลา 17.29 น. ออกเดินทางต่อ ที่ต่อไปที่เราจะพาไปรับรองว่าทู๊กกกคนต้องชอบแน่นอน

หาดบางแสน

          บางแสน เป็นทะเลในจังหวัดชลบุรี เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกอันดับต้นๆ ในการมาพักผ่อนช่วงวันหยุดของใครหลายคน ได้ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือจะนอนค้างคืนก็ตามแต่สะดวก อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ในระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น

          เรามาถึงในหาดบางแสนช่วงเย็นๆ เวลาประมาณ 17.42 น. แสงสวยมาก ลมพัดเย็น ฟังเสียงคลื่น บรรยากาศคือดีต่อใจสุดๆ เลยเก็บภาพสวยๆมาฝากเยอะเลยค่ะ

          ลืมบอกไปค่ะ…ว่าเราจอดรถไว้ที่ช่วงกลางๆ ริมหาดบางแสน แล้วเดินกินลมชมวิวทะเล และชมบรรยากาศร้านค้าที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง ให้ภาพเล่าเรื่องค่ะ รูปด้านล่างเป็น บรรยากาศร้านค้าบริเวณชายหาด

          น่าแปลกใจที่เราเดินกันไปเรื่อยๆ จนถึงจุดสิ้นสุดของหาดบางแสน โดยที่ได้ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่นิดเดียว น่าเป็นเพราะอากาศที่บริสุทธิ์

          ที่หาดบางแสน เราสามารถมาพักผ่อนได้แบบสบายๆ ที่นี่!!! จะเน้นให้มานั่งรับลมเย็นๆ มีนั่งเก้าอี้ผ้าใบ มีร่มชายหาด ให้เรามาเปลี่ยนที่กินข้าว มาทานอาหารทะเลสดๆ และยังมีกิจกรรมให้ทำ เช่น เล่นน้ำ นั่งบานาน่าโบ็ท-โดนัท ขี่เจ็ทสกี หรือจะมานั่งเล่นริมหาด ถ่ายรูป กันค่ะ

          เรายังคงเดินต่อไปจากจุดป้ายหาดบางแสน เพื่อเข้าเขตหาดวอนนภาค่ะ จะมีใครรู้บ้างว่า…จุดตรงไหนของทะเลที่เป็นจุดแบ่งระหว่างหาดบางแสนกับหาดวอนนภา???

หาดวอนนภา

          เป็นชายหาดบนถนนบางแสนล่าง กับหาดวอนนภา ชายหาดบรรยากาศดี เงียบสงบ คนไม่พลุกพล่าน เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย มีทางลงหาด สามารถลงเล่นน้ำได้ มาชมพระอาทิตย์ตก มานั่งปิคนิคด้านบน มีบริการเช่าเสื่อ เช่าร่ม และร้านขายของทั้งอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ส้มตำ ไก่ย่าง ลูกชิ้นทอด อาหารตามสั่ง ร้านอาหาร คาเฟ่

          ที่หาดวอนนภา จะไม่เน้นนั่งเก้าอี้ผ้าใบกันค่ะ เพราะทางเทศบาลได้จัดเตรียมที่นั่งไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งสะดวกสบายมาก

          ในส่วนของร้านค้า ก็มีเยอะไม่แพ้หาดบางแสนทีเดียว

          มาดูบรรยากาศทะเลโซนหาดวอนนภากันบ้างค่ะ นี่ถ้าไม่มีป้ายบอกจะแยกออกยังไงน๊าาา คิดซิ…คิดซิ…ว่านี่คือหาดอะไร???

          สำหรับใครที่ยังไม่เคยมาเที่ยวหาดบางแสน หาดวอนนภา ขอแนะนำว่า…ลองมาแวะเที่ยวกันค่ะ แล้วจะประทับใจ ในทะเลไทยที่มีดีไม่แพ้ที่ไหนในโลก ฟ้าสวย ทะเลสวย อากาศดี ลมเย็นสบาย 

          แต่!!! ตลอดแนวชายหาด ร้านค้าจะหยุดทุกวันอังคารค่ะ ตามระเบียบของทางเทศบาลเมืองแสนสุข ชลบุรี

          นอกจากนี้ยังมีการควบคุมเรื่องราคาค่าเช่าเก้าอี้ชายหาด และเวลาในการตั้งเก้าอี้  ไว้อย่างชัดเจนมากค่ะ

หลักฐานข้อกำหนดชัดเจน ตามรูปด้านล่างเลยค่ะ

          เคยแต่ได้ยินคนเค้าพูดกันว่า…ทะเลไม่เคยหลับ ก็น่าจะจริงตามนั้นเนอะ เพราะไม่ว่าจะตอนไหนทะเลก็เคลื่อนไหวอยู่ตอนเวลา และก็ไม่ว่าจะเวลาไหน ทะเลก็ยังมีความสวยงามในแบบ ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันไป ก่อนตะวันจะลับฟ้า

          แต่!! ตอนนี้เวลา 18.31 น. เราขอตัวกลับที่พักก่อนนะคะ

          ขอให้ทุกคนมีความสุข สนุกกับการเดินทาง ในแบบฉบับของตัวเองนะคะ

Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่