Site icon บางแสน

เทศบาลเมืองแสนสุขนำร่องดูแลผู้สูงอายุ 

logoline

เกาะติดข่าวสาร>> คมชัดลึก ออนไลน์

เทศบาลเมืองแสนสุขนำร่องดูแลผู้สูงอายุ เปิดโครงการสมาร์ท ซิตี้ ลีฟวิ่่ง แห่งแรกของประเทศ หากประสบผลสำเร็จ จะได้กระจายความรู้ไปทั่วประเทศ ในการดูแลผู้สูงอายุ

           เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ที่โรงแรมเดอะไทด์ บางแสน จ.ชลบุรี นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุขได้เปิดแถลงข่าวโครงการสมาร์ท ซิตี้ ลีฟวิ่่ง ซึ่งจะเป็นโครงการนำระบบอินเตอร์เน็ตมาใช้ในการดูแลผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองแสนสุข โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยบูรพา บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็คทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด

           โครงการดังกล่าวจะเป็นการนำร่องแห่งแรกของประเทศไทย โดยจะมีกลุ่มผู้สูงอายุเข้าร่วมโครงการ 150 หลังคาเรือน และนำร่องเบื้องต้นภายใน 3 ปี จำนวน 30 หลังคาเรือน ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินโครงการแล้ว เบื้องต้น จะมีการเชื่อมสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปยังบ้านผู้สูงอายุ โดยผู้สูงอายุจะมีอุปกรณ์เตือนหากได้รับอุบัติเหตุโดยจะคล้องที่คอ หรือเป็นนาฬิกา ซึ่งหากเกิดล้มลง หรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น อุปกรณ์ที่ติดตัวผู้สูงอายุจะส่งสัญญาณไปยังระบบคอมพิวเตอร์ และแจ้งให้ผู้ควบคุมได้ทราบทันที ทำให้สามารถที่จะประสานงานหน่วยแพทย์ หรือหน่วยกู้ชีพได้เข้ามาช่วยเหลือ

           หากประสบผลสำเร็จในการนำร่องในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะกระจายเทคโนโลยีไปสู่ชุมชนต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งผู้สูงอายุจะได้รับประโยชน์ในการช่วยเหลือได้ทันทีหากประสบอุบัติเหตุ

           นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข กล่าวว่า โครงการสมาร์ท ซิตี้ ลีฟวิ่่งที่ริเริ่มในครั้งนี้ หวังว่า จะเป็นโครงการนำร่องของประเทศ โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยบูรพา ในด้านการให้ความรู้ในการวางแผนช่วยเหลือผู้สูงอายุ เดลล์ และอินเทล จะช่วยเหลือทางด้านเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต เบื้องต้น หน่วยงานที่กล่าวมาจะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ยังไม่คิดค่าใช้จ่าย เสมือนเป็นการทดลองในการนำเทคโนโลยีระบบอินเตอร์เน็ตมาใช้กับผู้สูงอายุในการเตือนภัยหากประสบอุบัติเหตุ ซึ่งจะช่วยเหลือได้ทันท่วงที ปัจจุบันจะพบว่า ทุกคนจะต้องออกมาทำงานหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว ปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่เพียงลำพัง หากมีอุปกรณ์ช่วยเหลือชีวิตประจำบ้าน ก็จะทำให้ลูกหลานสบายใจในระดับหนึ่งเมื่อออกไปทำงาน

           โดยผู้สูงอายุจะมีอุปกรณ์ติดตัวในการแจ้งเตือน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจะได้ส่งคนไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที โครงการดังกล่าวหากเทศบาลไม่ติดเงื่อนไขในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง เทศบาลก็พร้อมที่จะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการดูแลผู้สูงอายุ โดยจะเน้นเป็นผู้ด้อยโอกาส ซึ่งถือว่า เป็นประชาชนที่อยู่ในความดูแลของเทศบาล และหากประสบความสำเร็จจริงก็พร้อมที่จะนำความรู้ทั้งหมดขยายเครือข่ายไปทั่วประเทศอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งประชาชนที่สูงอายุจะได้รับประโยชน์สูงสุด

Exit mobile version