จากกรณี คุณ แม่ท่านหนึ่งโพสต์ Facebook ออกตามหาลูกสาวอายุ 12 ปีหลังจากหายตัวไปออกจาก คอนโดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมโดย นางสาวนัญจิญา อายุ 43 ปี แม่ของ น้องน้ำฝน วัย 12 ปี ที่หายตัวไป ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดของน้องน้ำฝน มาให้ดูว่าน้องน้ำฝน แชร์ในโซเชียล โดยในภาพเป็นน้องน้ำฝน สวมชุดนักเรียนสีขาวกระโปรงสีน้ำเงินเดินออกจากคอนโด ไปขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้าง บริเวณใกล้กับร้านสะดวกซื้อ โดยหายตัวไปสี่วัน ล่าสุดพบตัวน้องน้ำฝนแล้วโดยทางครอบครัวไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนโดยขอเวลาพักผ่อนและดูแลสภาพจิตใจของน้องน้ำฝนก่อน
ทีมข่าวลงพื้นที่ สอบถามนายระพีพัฒน์ คนขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่อยู่ในภาพวงจรปิดเป็นคนที่รับน้องน้ำฝนจากอำเภอศรีราชาไปที่บางแสน
โดยนายรพีพัฒน์ยืนยันว่าเหตุการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองเป็นคนพาน้องไปตามคำสั่งว่าจ้างและรอจนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงคืนแล้วน้องก็หายไปตอนจึงกลับมาที่ศรีราชายืนยันว่าไม่ได้มีการทำไม่ดีไม่ร้ายหรือคิดไม่ดีกับน้อง
โดยน้องน้ำฝนมาขึ้นรถที่วินวันที่ 4 กรกฎาคมเวลา 19.30-20.00
จากนั้นนั่งวิน ไปร้านค้า แล้วลงไปซื้อของ และน้องน้ำฝนบอกว่าอยากหาที่เดินเล่นจึงพาขับรถมาที่เกาะลอย สถานที่พักผ่อนออกกำลังกายแต่น้องน้ำฝนไม่ชอบและถามว่ามีพื้นที่ใดที่เป็นที่เที่ยวพักผ่อนบ้าง ตอนจึงบอกว่ามีบางแสนและพัทยา
จากนั้นเวลา 21.00น. น้องน้ำฝนเดินทาง จากศรีราชาไปบางแสน ถึงบางแสนเวลา 22.00น
จากนั้นก็ ขับรถวนบางแสน 1 รอบ แล้วจอดร้านขายเสื้อผ้า ช่วงที่น้องน้ำฝนลงไปร้านค้าเพื่อขอซื้อชุดเปลี่ยนจากชุดนักเรียนมาเป็นชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดสีเทา
จากนั้นขับรถจากบางแสนไปชลบุรี ไปที่บริเวณ สะพานใหม่เลียบชายทะเล
จนกระทั่งเวลา 23.00ก็ มาที่วงเวียนบางแสน ไปจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ใกล้กับวงเวียน
23.15 น้องน้ำฝน ลงจากรถไปเดินเล่นที่ชายหาดบางแสนแล้วหายตัวไป
24.00 นายระพีพัฒน์ เริ่มสงสัยว่า น้องน้ำฝน หายไปไหนเพราะยังไม่ไม่จ่ายค่าโดยสารและเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยจึงขับตามหาบริเวณเรียบชายหาดบางแสน แต่ก็ไม่พบตัวจึงกลับศรีราชา
นายระพีพัฒน์บอกว่าในระหว่างที่เดินทางนั้นมีการพูดคุยกันกับน้องน้ำฝนเป็นบางครั้งถามว่าทำไมถึงออกจากบ้านมาเวลานี้แม่ไม่ว่าหรอน้องน้ำฝนก็ตอบว่าแม่ไม่ว่าขอแม่แล้วและดูสีหน้าท่าทางคล้ายกับน้องมีอาการเครียด หลังจากนั้นก็ขับรถพาไปตามจุดที่น้องต้องการไป
โดยยืนยันว่าที่พาไปแต่ละจุดนั้นตามหน้าที่ขับ รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเมื่อลูกค้าสั่งก็ต้องไป น้องน้ำฝนก็เหมือนลูกค้าอีกคนหนึ่งเพียงแต่ตนเองสังเกตดูความผิดปกติเพราะว่าน้องยังอายุน้อยและออกมาในช่วงกลางดึกจึงกังวลเรื่องความปลอดภัยจึงเฝ้ารอจนกระทั่งไม่พบตัวก็เลยกลับศรีราชา
เช้าวันที่ 5 กรกฎาคมแม่ของน้องน้ำฝนตามมาพบตนเองที่วินเพื่อขอข้อมูล
และเช้าวันที่ 8 กรกฎาคมก็ได้รับทราบข่าวว่าเจอน้องน้ำฝนแล้วนายระพีพัฒน์บอกว่ารู้สึกโล่งใจและดีใจกับครอบครัวของน้องน้ำฝนที่ได้เจอตัวน้องเพราะตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาตนเองก็นอนไม่หลับเนื่องจากเป็นห่วงน้องและเป็นกังวลเรื่องความปลอดภัย
ส่วนกรณีโซเชียลมีการตั้งข้อสังเกตว่าตนเองอาจจะเป็นหนึ่งในคนร้ายหรือคนทำไม่ดีไม่ร้ายกับน้องนั้นอยากให้เปลี่ยนความคิดซึ่งตนเองเป็นเพียงคนขับรถมอเตอร์ไซต์รับจ้างเท่านั้นไม่เคยคิดไม่ดีกับน้องหรือปองร้ายใดใดทั้งสิ้น
