นายณรงค์ ป้องประชานุกูล หนึ่งในเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการอ่างเก็บน้ำบางทรายนวลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.คลองชะอุ่น อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยการปลูกไม้ดอกไม้ประดับเชิงพาณิชย์แซมพืชสวน เผยว่า ในอดีตพื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างแห้งแล้งขาดแคลนน้ำ พืชสวนที่ปลูกได้รับผลกระทบอย่างมากยืนต้นตายเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เกษตรกรประสบกับความลำบากในการดำรงชีพ
“แต่พอมีโครงการอ่างเก็บน้ำบางทรายนวลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานไว้ เราเริ่มปลูกไม้ผล อาทิ มังคุด ลองกอง ปาล์มน้ำมัน และได้ผลผลิตดี ต่อมาผลผลิตมีมาก ล้นตลาดทำให้ราคาตกต่ำ ทำให้ต้องมองหาอาชีพเสริมด้วยการนำต้นดาหลามาปลูกแซมในสวนผลไม้ ควบคู่กับพันธุ์ไม้ดอกชนิดอื่นๆ ส่งขายให้โรงแรมใน จ.ภูเก็ต แต่เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทางโรงแรมหลายแห่งไม่รับซื้อ เพราะต้องปิดกิจการ เลยหาตลาดใหม่ ที่ปากคลองตลาด กรุงเทพฯ มีการสั่งซื้อมาอย่างต่อเนื่องจนทุกวันนี้”
นายณรงค์ บอกอีกว่า ในพื้นที่นี้ส่วนใหญ่เกษตรกรจะปลูกดอกดาหลา 8 สายพันธุ์ ระยะเวลาการปลูกจนถึงตัดดอกขายใช้เวลา 1 ปี โดยตัดดอกได้อย่างต่อเนื่อง เพราะมีน้ำเพียงพอกับความ ต้องการโดยเฉพาะในหน้าแล้ง จึงทำให้การเพาะปลูกไม้ผลไม้ดอกไม่ได้รับผลกระทบ ประกอบกับมีการวางระบบการจัดการน้ำอย่างเท่าเทียม ทุกคนจะรับน้ำจากโครงการ มาสำรองไว้ในสระภายในแปลงเพาะปลูกของตนเอง ทำให้พื้นที่มีความชื้นสูง การปลูกพืชหรือไม้ดอกแซมในแปลงไม้ผลจึงมีความสมบูรณ์ไปด้วย
และจากการที่ พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมด้วย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการฯ นายวิกรม คัยนันทน์ ที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และคณะอนุกรรมการฯ ได้เดินทางไปติดตามผลการดำเนินงานโครงการอ่างเก็บน้ำบางทรายนวลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานขยายผลโครงการฯ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้น
โครงการอ่างเก็บน้ำบางทรายนวลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.คลองชะอุ่น อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี เป็นโครงการที่ พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริ เมื่อ 11 กันยายน 2527 และปี 2529 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงดำเนินงานสนองพระราชดำริ ก่อสร้างเขื่อนดินขนาดความจุ 2,200,000 ลบ.ม. พร้อมก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำและอาคารประกอบความยาวรวม 15,770 เมตร สามารถส่งน้ำสนับสนุนการอุปโภคบริโภคให้แก่ราษฎรบ้านแสนสุข และบ้านทับคริสต์ ต.คลองชะอุ่น อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี 235 ครัวเรือน 1,238 คน ส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่เกษตร 3,628 ไร่ ได้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี.
