“ประยุทธ์” เอาต้นทุนทั้งชีวิต แบกพรรคใหม่สู่สงครามเลือกตั้ง 2566 ในวันที่พี่น้องบูรพาพยัคฆ์แยกทางกันเดิน ก็ไม่ง่ายเหมือนทำรัฐประหาร

วันที่ 9 ม.ค.2566 ฤกษ์งามยามดี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดตัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นสมาชิกพรรคฯ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ Exhibition Hall 1 ชั้นG ภายใต้ชื่อ งานรวมใจ รวมไทยสร้างชาติ

สปีชของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าด้วยทิศทางก้าวต่อไปเพื่อคนไทยทั้งชาติ ก็แค่พิธีกรรมประกอบฉาก แต่สิ่งที่นักข่าวทุกสำนักเฝ้าจับตามองก็คือ คนการเมือง ทั้งที่เป็น ส.ส. ,อดีต ส.ส. และนายก อบจ. ที่จะมาให้กำลังใจ

การแจกข่าวจากคนในพรรค รทสช.ว่าด้วยตัวเลข 40 ส.ส. ตั้งแต่ปลายที่แล้ว ก็ยังไม่มีแกนนำพรรค รทชส.คนไหนคอนเฟิร์ม และไม่มีการยืนยันรายชื่อ ส.ส.เหล่านั้นเลย

หากสแกนการเคลื่อนไหวของ ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ ,พรรคพลังประชารัฐ ,พรรคพลังท้องถิ่นไท และพรรครวมพลัง ก็น่าจะมีตัวเลข ส.ส.ประมาณ 22-25 คนเท่านั้น ที่จะโผล่มาร่วมงานกับพรรค รทสช. 

ด้วยจำนวน ส.ส.ที่ไม่ปัง ไม่ว้าว เหมือนตอนพรรคภูมิใจไทย จัดอีเวนท์โชว์ใบลาออกไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว พรรค รทสช.จึงประกาศว่า 9 ม.ค. เปิดตัวนายกฯประยุทธ์คนเดียว

ล่าสุด สุชาติ ชมกลิ่น ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ สร้างความมั่นใจให้กับเหล่าเอฟซีจันทร์โอชาว่า จะไม่ทิ้งให้ลุงตู่เดินสู่สนามรบตามลำพัง

มีรายงานข่าวว่า แกนนำพรรคลุงตู่ น่าจะเพิ่มกลยุทธ์ในการดึง ส.ส.ต่างพรรคให้เข้ามาร่วมสร้างฝันด้วยกัน แต่ก่อนหน้านี้ พรรคภูมิใจไทย กว้าน ส.ส.เข้าไปอยู่ในสังกัดเยอะมาก จึงอาจมีต้องปฏิบัติการดูดซ้อนดูด 

เฉพาะกลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาชาติ ในสายเสี่ยเฮ้ง มีอยู่ 10 คน ประกอบด้วย สุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี, รณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี ,พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี, สมพงษ์ โสภณ ส.ส.ระยอง ,ชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา ,ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ,สมบัติ อำนาคะ ส.ส.สระบุรี, สาธิต อุ๋ยตระกูล ส.ส.เพชรบุรี และกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี 

ที่มาจากพรรคประชาชาติคือ อนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี ซึ่งจะส่งลูกชายลงสนามแทนในสมัยหน้า

กลุ่มบ้านใหญ่ที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดสุชาติ ได้แก่ “กลุ่มแปดริ้วโฉมใหม่” นำโดยนายกไก่-กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา 4 สมัย 

“กลุ่มรวมใจเพชร” โดยนายกปราย-ชัยยะ อังกินันทน์ นายก อบจ.เพชรบุรี 5 สมัย ซึ่งนายกปราย เป็นลูกชายปิยะ อังกินันทน์ อดีต ส.ส.เพชรบุรี 6 สมัย 

ส.ส.เขตจากค่าย ปชป. ได้แก่ พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 8 ,วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฏร์ธานี เขต 3 ,พท.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม เขต 1 และรังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม

นัยว่า มีส.ส.บัญชีรายชื่อ 2 คนคือ ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู และเจือ ราชสีห์ พร้อมกับอดีต ส.ส.สายใต้ อีกจำนวนหนึ่ง

ส.ส.เขตจากค่าย พปชร.มี ประสิทธิ์ มะหะหมัด ส.ส. กทม และฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม. พ่วง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พิชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ดังนั้น นายกพร-วิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง จึงเป็นกรรมการบริหารพรรคชุดแรก ส่วน กำนันศักดิ์-พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ก็เป็นแกนหลักอีกคนหนึ่ง 

มินับลูกหมี-ชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร และนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร ในนามทีมจุลใสแฟมิลี่ ทำให้ ส.ส.ลูกช้าง-สุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร จึงต้องโบกมือลาพรรครวมพลัง มาเป็นตัวยืนในสนามชุมพร

การรวมตัวของบ้านใหญ่ 3 จังหวัด ส่งผลให้พรรคคู่แข่งต้องจับตามองพรรคน้องใหม่ เพราะกระแสลุงตู่ บวกฐานเสียงบ้านใหญ่ ทุกพรรคคงไม่ประมาท รทสช.แน่นอน

วันที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปหาเสียงที่นครปฐม นักข่าวหลายคนอาจพบเห็นทีมหิมาลัย ส.ส.พลังประชารัฐ 3 คน ประกอบด้วย สัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 4,สุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.พิจิตร เขต 2 และ มานัส อ่อนอ้าย ส.ส.พิษณุโลก เขต 5

เป็นที่รู้กันว่า 3 ส.ส.ทีมหิมาลัยจะขึ้นเหนือล่องใต้ ติดตามไปให้กำลังนายกฯประยุทธ์อยู่เป็นประจำ

ทีม ส.ส.ปักษ์ใต้ พรรค พปชร. โดยการดูแลของ ธนกร วังบุญคงชนะ มี 5 คนได้แก่ พยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา,ศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา,ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา,อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช ,สายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช และอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา

ธรรมชาติของพรรคการเมืองเฉพาะกิจ ก็จะเป็นศูนย์รวมของนักเลือกตั้งหลากหลายสายพันธุ์ ดังนั้นรูปแบบการบริหารจัดการ จึงต้องมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ระดับบน และระดับพื้นที่

คณะกรรมการระดับยุทธศาสตร์ในพื้นที่ จึงประกอบด้วยหัวหน้าซุ้ม กับทีมบ้านใหญ่ จะทำหน้าที่คัดสรรผู้สมัคร ส.ส. และคุมปฏิบัติการหาคะแนนระหว่างการเลือกตั้งทั่วไป

สงครามครั้งสุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ต้นทุนทั้งชีวิตแบกพรรครวมไทยสร้างชาติ อีกด้านหนึ่ง กองกำลังนักเลือกตั้งก็จะเป็นผู้ชี้ชะตาลุงตู่เช่นกัน