สาววัย 23 เข้าแจ้งความ ถูกรุ่นพี่ใช้น้ำอัดลมราดหน้า เข้าจมูกขณะหลับ ตกใจตื่น ลุกขึ้นมาต่อว่า กลับถูกทำร้ายร่างกาย แถมขู่พ่อสามีเป็นตำรวจ
28 กุมภาพันธ์ 2566 ภายหลัง น.ส.มาย (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกาย ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจาก นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ด้วยใบหน้าบวมปูด ปากแตก ศีรษะแตกมีคราบเลือดติดตามผมและหนังศีรษะ ร่ายกายเต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำ จากการถูกทำร้ายร่างกาย
โดยน.ส.มาย เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา รุ่นพี่ชวนตนให้ไปเที่ยวเล่นที่บ้าน ซึ่งเคยไปมาหาสู่กันตลอด แต่ระหว่างที่ตนนอนเล่นอยู่เคลิ้มๆจะหลับ จู่ๆ ทางรุ่นพี่ได้เอาน้ำอัดลมมาราดใส่หน้าตนและบีบน้ำอัดลมเข้าจมูก ทำให้ตนสำลักน้ำ จึงลุกขึ้นมาต่อว่า ทำให้รุ่นพี่และเพื่อนไม่พอใจ รุ่นพี่เข้ามาตบหน้าตนอย่างแรง ตนจึงบอกว่าทำไมมาทำตนแบบนี้ พ่อแม่ยังไม่เคยมาตบหน้าตนเลย รุ่นพี่จึงพูดว่า “มึงอย่ามาปากดี” แล้วโต้เถียงกัน
จากนั้น ตนได้เดินออกมาบ้านเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆกัน เพื่อรอให้แฟนตนมารับ จู่ๆรุ่นพี่ และกลุ่มเพื่อนอีกนับ 10 คน ก็ตามเข้ามาลากตนออกจากบ้าน และทำร้ายตนอีกครั้ง คราวนี้ตนได้ขอโทษ และขอร้องว่าอย่าทำร้ายตน แต่รุ่นพี่ไม่สนใจ ทำร้ายตนจนหัวแตก ปากแตก ปากฉีก จมูกหัก ตามตัวมีแต่รอยบาดแผล
นอกจากนี้ ยังสั่งให้เพื่อนเขาถ่ายคลิป โพสต์ประจานตนเองให้ได้รับความอับอาย พร้อมข่มขู่ไม่ให้แจ้งความ เนื่องจากพ่อสามีรุ่นพี่เป็นตำรวจ ท้องที่เกิดเหตุ หากไปแจ้งความร้อยเวรก็จะไม่รับคดี นอกจากนั้นยังสำทับอีกว่า ขู่ถ้าไปแจ้งความจะโดนหนักกว่าเดิม ตนจึงตัดสินใจเดินทางจาก จ.สมุทรปราการ มาเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สาวทรงซ้อหยอกแรง ถูกต่อว่าไม่สำนึกกลับรุมทำร้าย อ้างดื้อๆข้อหาปากดี
พ.ต.ท.อาชาไนย แสนสุข รอง.ผกก.สอบสวน สภ.บางพลี เปิดเผยว่า วันนี้เท่ากับได้รับเรื่องร้องทุกข์เอาไว้แล้ว เบื้องต้นที่ผู้เสียหายมาพบพนักงานสอบสวน ที่ถูกทำร้ายร่างกาย และยังไม่ได้ตรวจร่างกาย น้องเลยกลัวว่าจะถูกทำร้าย ในชั้นนี้พนักงานสอบสวน ส่งตัวน้องไปตรวจร่างกายที่ รพ.บางพลี เพื่อให้แพทย์ทำการตรวจบาดแผล ว่าบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด สำหรับกรณีเรื่องทำร้ายร่างกายผู้อื่น มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท
แต่ถ้าผลตรวจร่างกายปรากฏว่า รักษาเกิน 20 วัน เป็นเรื่องสาหัสต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ในส่วนอื่นๆ ในเรื่องการโพสต์ประจาน หรือ อะไรต่างๆ พนักงานสอบสวน ก็จะดูในข้อกฎหมายให้ ในส่วนเพจสายไหมต้องรอด และส่วนอื่นๆ ขอให้สบายใจในการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ โดยตอนนี้พอทราบข้อมูลบางส่วนแล้ว และจะติดตามจับกุมตัวได้ในไม่ช้านี้
“ส่วนกรณีผู้ก่อเหตุอ้างว่าเป็นสะใภ้ตำรวจนั้น ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เท่าที่ดูคลิปแล้ว เป็นการทำร้ายร่างกายผู้อื่น ทั้งพยานแวดล้อม จะต้องเรียกมาสอบปากคำ ถ้ามีการทำร้ายร่างกาย แล้วไม่ช่วยเหลือ หรืออย่างอื่น ก็จะมีส่วนผิดด้วย เบื้องต้นที่ดูเป็นการห้ามปรามต่างๆ แล้ว ส่วนเรื่องสะใภ้ตำรวจนั้น ดูรูปแล้วยังไม่คุ้นหน้า แต่ไม่มีอะไรที่น่าหนักใจ ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย” พ.ต.ท.อาชาไนย ระบุ