สาวยอมขายกิจการ แม้ทำกำไรมหาศาล แพ็กกระเป๋าพาพ่อวัย 74 ปี ตระเวนเที่ยวทั่วประเทศ เพราะเงินไม่สำคัญเท่าความสุขของพ่อ หลังยอมลำบาก เก็บขยะขายเพื่อเลี้ยงลูก
นับเป็นเรื่องราวน่ารักชวนอบอุ่นใจที่เรียกความสนใจจากโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก เมื่อหญิงสาววัยเพียง 24 ปี ที่ประสบความสำเร็จในการเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ ตัดสินใจขายกิจการที่ทำกำไรแก่เธอปีละหลายล้านหยวน เพื่อพาพ่อบุญธรรมวัยชราออกเดินทางเที่ยวทั่วประเทศ ใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขร่วมกันตามประสาพ่อลูก หลังจากที่เธอตัดสินใจแล้วว่า เงินไม่อาจมีความหมายไปมากกว่าความสุขในชีวิต
โดยเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า หญิงสาวรายดังกล่าวมีชื่อว่า จางไป๋เกอ จากเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน ของจีน เธอเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีคนติดตามเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีธุรกิจขายเครื่องสำอางออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม สร้างกำไรปีละเป็นล้านหยวน จนทำให้เธอมีทรัพย์สินมั่งคั่งกว่า 10 ล้านหยวน (ราว 51 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม กว่าชีวิตจะมาถึงจุดนี้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่เกินจริงเลยถ้าจะบอกว่าบุคคลที่ทำให้เธอมีทุกวันนี้ได้ก็คือพ่อบุญธรรมวัย 74 ปี ที่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร
นั่นเพราะแท้จริงแล้ว จางไป๋เกอเป็นเด็กน้อยที่ถูกพ่อแม่แท้ ๆ ทิ้งตั้งแต่แบเบาะ แต่โชคชะตานำพาให้เธอได้มาเจอกับ จางซวงฉี ที่แม้ขณะนั้นเขาจะอายุมากถึง 50 ปีแล้ว แต่ก็ไม่อาจเมินเฉยต่อทารกน้อยที่ถูกทิ้งไว้ในกล่องลังริมถนนได้ เขารับเธอมาเลี้ยงตั้งแต่ตอนนั้น และอุทิศตนทุกอย่างเพื่อดูแลเด็กคนนี้แม้ว่าตัวเองจะมีฐานะยากจนก็ตาม
จางซวงฉียอมรับว่าเพราะฐานะยากจนทำให้เขายังไร้คู่ชีวิต แม้จะอายุล่วงเลยถึงวัยเลข 5 แล้ว นับจากนั้นพ่อลูกก็ใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยรายได้อันน้อยนิดจากการทำฟาร์มและเก็บขยะขาย
จางไป๋เกอ เผยว่า แม้พ่อจะหาเงินได้เพียงวันละ 2 หยวน (ราว 10 บาท) จากการเก็บขยะขาย แต่เขาก็ยอมใช้เงิน 1 หยวน (ราว 5 บาท) เพื่ออัดรูปถ่ายของเธอ ซึ่งเป็นรูปถ่ายวัยเด็กเพียงใบเดียวของเธอที่พ่อมี และพ่อก็ยังหาเงินจากการเก็บขวดและกระดาษลังไปขาย เพื่อมาจ่ายค่าเล่าเรียนแก่เธอ
แม้จะมีฐานะยากจน แต่ผู้เป็นพ่อก็ยอมพาลูกสาวเดินทางไปปักกิ่งเมื่อ 7 ปีก่อน ขณะที่จางไป๋เกอป่วยหนัก นั่นเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเดินทางออกจากมณฑลเหอหนาน และนั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดที่เธออยากจะพาพ่อไปท่องเที่ยว
รายงานเผยว่า เพื่อให้มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น หญิงสาวยอมทำงานหนักเพื่อหาเงินเช่นกัน โดยเธอทำงานต่าง ๆ มาหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นเด็กเสิร์ฟ ช่างเสริมสวย แม้ค้าขายของริมทาง แม้จะเหนื่อยแค่ไหนหรือเป็นงานที่ไม่ชอบ เธอก็ยอมทำได้เพื่อหาเงิน แต่แล้วการเปลี่ยนแปลงก็มาถึงอีกครั้งเมื่อจางไป๋เกอล้มป่วยด้วยโรคไต ซึ่งหาอาการหนักอาจส่งผลต่อชีวิตได้ เธอจึงต้องหยุดงานทุกอย่างมารักษาตัว เดินทางไปมาระหว่างบ้านเช่ากับโรงพยาบาลอยู่ทุก ๆ วัน
ระหว่างนั้นจางซวงฉีเลือกที่จะทำงานอย่างหนักทุกวัน เพื่อหาเงินมาดูแลลูกสาว และจ่ายค่าอาหาร 3 มื้อ เขายังคอยบอกลูกสาวให้กินยา ดูแลเธออยู่ข้างเตียงในแต่ละคืน จางไป๋เกอยอมรับว่าช่วงเวลานั้นสภาพจิตใจของเธอไม่มั่นคงนัก เคยกระทั่งคิดจะฆ่าตัวตาย แต่เมื่อได้เห็นพ่อที่ทำงานอย่างหนัก เธอก็ทนไม่ได้ที่จะจากโลกนี้ไป
จนเมื่อสุขภาพของเธอดีขึ้น จางไป๋เกอก็เดินทางไปยังนครกว่างโจวเพื่อหาลู่ทางทำมาหากิน ซึ่งในครั้งนี้เธอสามารถจับเทรนด์ได้ว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซกำลังมาแรง และเธอก็สามารถทำเงินได้อย่างมากจากการขายผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ก่อนจะสร้างสตูดิโอเพื่อไลฟ์ขายสินค้าทุก ๆ วัน รายได้ที่มีทำให้กิจการของเธอขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนมีทีมงานจำนวนมาก และกลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม การที่พาพ่อมาใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ มีสิ่งต่าง ๆ มากมายที่เขาไม่เคยเห็น ทำให้พ่อมักจะเดินหลงอยู่ในเมืองเป็นประจำ จนสุดท้ายเขาก็เลือกที่จะขลุกอยู่ในตึกเล็ก ๆ เท่านั้น และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหงา
ขณะที่ชีวิตก็เล่นตลกกับจางไป๋เกออีกครั้ง หลังทำงานหนักมาหลายปีร่างกายของเธอก็ทรุดลงอีกจนได้ และยังรุนแรงกว่าในรอบแรก หญิงสาวไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหยุดงานและเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดในครั้งนี้ทำให้เธอตระหนักได้ว่า พ่อของเธอก็แก่ชรา อายุเข้าสู่วัยเลข 7 แล้ว ส่วนเธอก็สุขภาพไม่ค่อยดี หากเธอยังฝืนทำงานที่มีความตึงเครียดมาก ๆ เช่นนี้ทุกวัน สุดท้ายก็อาจจะเหลือเวลาอยู่กับพ่อได้อีกไม่นาน
การเจ็บป่วยทำให้หญิงสาวรู้ตัวว่า แม้จะหาเงินได้มากขนาดไหนก็ไม่อาจบรรลุความฝันได้ เพราะสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดก็คือการทำให้พ่อมีความสุข
สุดท้ายในปี 2564 จางไป๋เกอที่มีทรัยพ์สินกว่าสิบล้านหยวน ตัดสินใจขายกิจการที่มี และนำเงินมาซื้อรถบ้านเพื่อพาพ่อของเธอออกไปท่องเที่ยวด้วยกัน ซึ่งพ่อลูกก็เดินทางตระเวนไปยังที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศจีน อยากเที่ยวก็เที่ยว อยากกินดื่มอะไรก็ลุยให้เต็มที่ สร้างความทรงจำและช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยกัน
ทั้งนี้ หญิงสาวยังมักจะถ่ายคลิปน่ารัก ๆ ระหว่างทริปท่องเที่ยวนี้มาลงแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Douyin จนมีผู้ติดตามกว่า 4 ล้านคน และเรื่องราวของพ่อลูกก็กลายมาเป็นที่สนใจของคนทั้วประเทศ นับจากที่ได้รับเชิญไปออกรายการร้องเพลงโชว์ความสามารถทางโทรทัศน์ ซึ่งมีการบอกเล่าชีวิตของพวกเขา โดยจางซวงฉียอมรับว่า การได้เห็นลูกสาวได้รับคำชมว่าเป็นคนทื่มีความสามารถและเป็นเด็กกตัญญู ทำให้เขาภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
อนึ่ง เป็นเวลา 1 ปีแล้ว นับจากที่พ่อลูกเริ่มเดินทางไปท่องเที่ยวกันตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 ขณะที่ผู้คนมากมายก็คอยติดตามการเดินทางอันแสนสุขของพวกเขา พร้อมชื่นชมหญิงสาวที่เลือกจะใช้ชีวิตเพื่อตอบแทนความรักของพ่อผู้เสียสละคนนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์, qq.com