Site icon บางแสน

สหภาพแรงงาน-ภาคีเครือข่ายฯ ยื่นหนังสือ กมธ.กม. ขอความเป็นธรรม ถูกกลุ่มอันธพาลทำร้ายกลางงานคาร์ม็อบ

E0B89BE0B881-E0B982E0B8A3E0B8A1-2.jpg

สหภาพแรงงาน-ภาคีเครือข่ายฯ ยื่นหนังสือ กมธ.กม. ขอความเป็นธรรม ถูกกลุ่มอันธพาลทำร้ายกลางงานคาร์ม็อบ 28 ส.ค.

เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล รับหนังสือจากสหภาพแรงงาน และภาคีเครือข่ายแรงงานนักกิจกรรมทางสังคม เพื่อเรียกร้องให้จับกุมอันธพาล และผู้สั่งการกลุ่มบุคคลคนที่ทำร้ายแรงงานเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 65

โดยนายสนธยา วงษ์ศรีแก้ว ตัวแทนสหภาพแรงงานฯ กล่าวว่า กลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก จัดกิจกรรมคาร์ม็อบ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2565 เพื่อรณรงค์ปัญหาต่างๆ ของแรงงาน โดยเฉพาะเกี่ยวกับการขอให้ปรับปรุงพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แรงงานสัมพันธ์ รวมถึงประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยระหว่างเคลื่อนขบวน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยติดตาม และสั่งให้ปลดป้ายที่เกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ และเมื่อมาถึงอ่างศิลา มีกลุ่มชายฉกรรจ์ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พร้อมอาวุธครบมือ เช่น ไม้เบสบอล ไม้หน้าสาม มุ่งเข้ามาทำร้ายร่างกาย และทรัพย์สิน ของกลุ่มแรงงานที่ร่วมกิจกรรม ซึ่งถือเป็นการกระทำที่อุกอาจในเวลากลางวันต่อหน้าสื่อมวลชน และสาธารณชน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยระหว่างเกิดเหตุตำรวจไม่ได้ช่วยเหลือดูแล

นายสนธยากล่าวต่อว่า เราเห็นว่าเหตุการณ์ที่ผู้ใช้แรงงานออกมาเรียกร้อง เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานโดยทั่วไปที่ทำได้ แต่ปรากฏว่ามีกลุ่มคนร้ายป่าเถื่อนมาทำร้ายประชาชน เราตั้งข้อสังสัยว่าการกระทำของตำรวจในท้องที่ไม่เที่ยงตรง ไม่โปร่งใส เราจึงขอประณามบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องสั่งการในเรื่องนี้ และเรียกร้องรัฐบาลให้ตรวจสอบเครือข่ายผู้มีอำนาจ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอันธพาลหรือไม่ และเรียกร้องไปยังผู้บังคับบัญชา ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวโดยเร็ว รวมถึงขอให้คณะ กมธ.การกฎหมายฯ เร่งรัดให้ความเป็นธรรมผู้ใช้แรงงานต่อไป

ด้าน น.ส.วรรณวิภากล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน จึงอยากให้ท่านเร่งรัดช่วยเหลือ และดำเนินการให้เกิดความยุติธรรมให้เร็วที่สุด

ขณะที่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า กมธ.ไม่นิ่งนอนใจ โดยหลังเกิดเหตุ เราไปที่ สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี และติดต่อผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.แสนสุข เพื่อสอบถาม ซึ่ง ผกก. รับปากจะดำเนินการเต็มที่ แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม กมธ.ยืนยันว่า จะนำเรื่องนี้พิจารณาให้เร็วที่สุด และจะเชิญผู้ร้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แสนสุข ผู้การจังหวัด และตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มาพูดคุยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก

ทั้งนี้คำแถลงมีความว่า

สหภาพแรงงานร่วมกับภาคีเครือข่ายและนักกิจกรรมทางสังคมเรียกร้องให้รัฐจับกุมอันธพาลและผู้สั่งการทำร้ายแรงงาน

“กลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก” ได้จัดขบวนการโจมเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2555 เพื่อรณรงค์ปัญหาต่างๆ ได้รับผลกระทบของแรงงาน ในปัจจุบันครบประเด็นวาระ 8 ปีของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกฤษฎีกา การปรับค่าจ้างขั้นต่ำที่แยกกลุ่มและไม่เพียงพอต่ การดำรงชีพ การที่รัฐปล่อยให้กลุ่มทุนปรับขึ้นราคสินค้าอุปโภค-บริโภค โดยไม่มีการควบคุมราคาสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนและผู้ใช้แรงงานอย่างมากมายมหาศาล เป็นต้น โดยขบวนนี้มีเส้นทาง มาบยางพร-บ่อวิน-บางแสน-ชลบุรี มีเป้าหมายคือบ้านของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน (ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ) ผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้แรงงาน เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

ขณะที่ขบวนคาร์ม็อบได้เคลื่อนขบวนไปตามเส้นทางดังกล่าว

นอกจากจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคอยสั่งการ และรวมถึงการสั่งให้ปลดป้ายข้อความที่เกี่ยวข้องกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาทั้งหมด เมื่อขบวนเคลื่อนมาถึงอ่างศิลา มีกลุ่มชายฉกรรจ์ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและมีคนนั่งซ้อนพร้อมอาวุธครบมือ เช่น ไม้กอล์ฟ ไม้เบสบอล ไม้หน้าสาม มุ่งเข้ามามีเจตนาทำร้ายร่างกาย และทำลายทรัพย์สินของขบวนแรงงานที่เข้าร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบ

การกระทำของกลุ่มชายฉกรรจ์ถือว่าเป็นการกระทําอุกอาจ ในเวลากลางวันต่อหน้าสื่อมวลชนและสาธารณชนจํานวนมาก ผลคือระหว่างทางไปยื่นหนังสือคัดค้าน ร่างปรับปรุง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ ฉบับกฤษฎีกา มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบบาดเจ็บหลายราย และมีรถยนต์ได้รับความเสียหายหลายคัน นอกจากนี้ยังมีรถประชาชนทั่วไปที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนของแรงงาน ที่จอดอยู่ข้างทางในทีเกิดเหตุได้รับความเสียหายไปด้วยหลายคัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามขบวนไม่ดูแลช่วยเหลืออะไรเลยเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

สภาองค์การแรงงาน สหพันธ์แรงงาน สหภาพแรงงานและกลุ่มเครือข่ายการภาคีต่างๆ เห็นว่าเหตุการณ์ที่ผู้ใช้แรงงานออกมาเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐานเป็นสิทธิ์ให้ประชาชนทุกๆ คนสามารถทำโดยทั่วไปภายใต้รัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย แต่กลับมีกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมเลวร้าย ป่าเถื่อน ทำตัวเป็นอันตพาล ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง เสมือนได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอิทธิพล หรือเจ้าหน้าที่ที่ดูแลความปลอดภัยของประชาชนฉันท์นั้น การไปจับกุมหรือเตะถ่วงในการดำเนินคดีผู้กระทำความผิดดังกล่าว อาจทำให้ตั้งข้อสงสัยได้ว่าการทำงานของตำรวจท้องถิ่นนั้นไม่เที่ยงตรงไม่โปร่งใดอย่างไรหรือไม่

เราไม่อาจทนต่อพฤติกรรมป่าเถื่อนเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน เฉกเช่นนี้ได้ จึงขอประณามกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งที่เป็นผู้ก่อเหตุและผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว และขอเรียกร้องให้รัฐบาล ตรวจสอบเครือข่ายผู้มีอำนาจในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรีว่ามีส่วนเกี่ยวข้องการกระทำของกลุ่มอันทพาลการเมืองหรือไม่และสั่งการให้ ผบช.ภ. 2 จังหวัดชลบุรี และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาแสดงความรับผิดชอบและเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี และแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

ด้วยความสมานฉันท์กับพี่น้องกลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่

Exit mobile version