สกู๊ปพิเศษ : ท่องเที่ยวปลอด ‘เหล้า-ไร้ควัน’ พัฒนาเครือข่ายเยาวชน ป้องหาดบางแสน
วันพฤหัสบดี ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 06.10 น.
น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ชายหาดบางแสนเกิดความเปลี่ยนแปลงในระยะกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ด้วยความร่วมมืออย่างเข้มแข็งระหว่าง สสส. เทศบาลเมืองแสนสุข และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สร้างชายหาดบางแสนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวปลอดภัย ปลอดแอลกอฮอล์ และบุหรี่ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทุกฝ่าย ผ่านการสร้างความร่วมมือของผู้ประกอบการ เครือข่ายเยาวชน และนักท่องเที่ยว ที่ให้ความสำคัญและร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าปัญหาสำคัญถ้าไม่ปลูกฝังเยาวชนให้ห่างจากบุหรี่และแอลกอฮอล์ คุณภาพชีวิตพวกเขาก็จะไม่ดี แต่หากตัวเยาวชนเองสามารถเป็นต้นแบบที่ดีจะทำให้คนรอบข้างดีขึ้นด้วย จากผลสำรวจสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 พบเยาวชน คนรุ่นใหม่ อายุ 15-24 ปี ดื่มแอลกอฮอล์ 20% หรือ 1.9 ล้านคน ถือว่าลดลง เช่นเดียวกับบุหรี่ที่พบการสูบเหลือแค่ 12%
“การเปลี่ยนแปลงที่ชายหาดบางแสน ไม่เพียงสร้างสุขภาวะที่ดีให้เกิดในพื้นที่ แต่ยังนำไปสู่สภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับทุกคน ทุกเพศทุกวัย ลดปัญหาจากคนเมาและปราศจากควันบุหรี่ ทำให้เป็นสถานที่น่าท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวที่มาพักผ่อนได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ไม่มีกลิ่นสุราหรือควันบุหรี่ หาดบางแสนจึงเป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมในการสร้างชุมชนท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและปลอดภัย ทั้งนี้ ในเทศกาลสงกรานต์นี้ยาวนานถึง 21 วัน อาจต้องดูแลพื้นที่เป็นพิเศษเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับความปลอดภัย และอยากให้ทุกจังหวัดพิจารณาการจัดโซนนิ่ง พื้นที่สำหรับครอบครัวเพื่อให้คนไทยคนต่างชาติได้เข้ามาท่องเที่ยวและจดจำวัฒนธรรมที่ดีกลับไป” น.ส.รุ่งอรุณ กล่าว
นายสวัสดิ์ หอมปลื้ม รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ชายหาดบางแสนเปลี่ยนแปลงทั้งกายภาพและพฤติกรรมในทางที่ดีขึ้น เช่น นักท่องเที่ยวเริ่มมีคุณภาพมากขึ้นการทะเลาะวิวาทที่เป็นผลมาจากการบริโภคเครื่องดื่มและแอลกอฮอล์ลดลง และจะพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการท่องเที่ยวให้ปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้นอีกหลายมิติ เช่น การขยายพื้นที่รองรับจุดจอดรถ ยกระดับมาตรฐานชายหาดให้เป็นสากล Universal Beach การนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในการสร้างความปลอดภัยในพื้นที่ในทุกมิติ ทั้งนี้ ในปีนี้เทศบาลเตรียมจัดกิจกรรม งานวันไหลสงกรานต์ ปี 2567 ที่ชายหาดบางแสน ซึ่งเป็นกิจกรรมปลอดเหล้าและบุหรี่ เพื่อร่วมมอบความสุขให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ และร่วมอนุรักษ์เทศกาลปีใหม่ของไทยอีกด้วย
ผศ.ดร.เกศรา สุกเพชร อาจารย์ประจำคณะจัดการท่องเที่ยวนิด้า กล่าวว่า การสร้างเครือข่ายเยาวชนจะทำให้เกิดการร่วมปกป้องและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของบางแสนได้มากขึ้น ซึ่งได้ดึงเยาวชน 395 คน เข้าร่วมกิจกรรม 5 ฐานปลูกฝังการเรียนรู้ในวัยที่อาจสุ่มเสี่ยงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่หรือแอลกอฮอล์ให้รู้ถึงพิษภัยเหล่านี้ และสร้างเป็นเครือข่ายช่วยทำให้พื้นที่ชายหาดบางแสนปลอดเหล้าและบุหรี่ นำไปสู่การลดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ได้อย่างดี โดยในปัจจุบัน 90% ของชายหาดบางแสน ไม่พบการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ในจุดที่ห้ามขาย ขณะที่นักท่องเที่ยวให้ความร่วมมืออย่างดี ส่วนอีก 10% อาจพบพฤติกรรมไม่ปฏิบัติตามกฎ จะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและให้ข้อมูล
ดร.บุญเกิด กลมทุกสิ่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนแสนสุข กล่าวว่า โรงเรียนแสนสุขได้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นปีที่ 2 แล้ว เด็กนักเรียนมีบทบาทช่วยสร้างความตระหนักปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และยาเสพติด เป็นพลังให้กับชุมชนแสนสุข ส่งเสริมให้เยาวชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการดูแลชายหาดบางแสนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ผ่านการเรียนรู้จากฐานกิจกรรมที่มุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจและส่งเสริมจิตสำนึกร่วมกัน ในการสร้างสังคมที่ปลอดเหล้า ปลอดบุหรี่ ตลอดจนบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งถือเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ นับเป็นบทบาทสำคัญของสถานศึกษา