ศึกรถยนต์ทางเรียบ “B-Quik Thailand Super Series 2024” และ “TSS The Super Series by B-Quik 2024” ปรับขบวนทัพใหม่ เพิ่มการแข่งขันเป็น 5 สนาม ใน 3 รุ่นใหญ่ ขับเคี่ยวกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ช้าง เซอร์กิต และ เซปัง เซอร์กิตและบางแสน สตรีทเซอร์กิต ส่วน bangsaen Grand Prix 2024 ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน เพราะนอกจากนักแข่งที่เพิ่มขึ้นจากรายการหลักแล้ว ยังมีการหวนกลับมาของ Porsche Carrera Cup Asia รวมถึงพันธมิตรหลักจากรายการ Toyota Gazoo Racing Motorsport Thailand แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ต เตรียมสัมผัสความเอ็กซ์คลูซีฟ แบบติดขอบสนามกันได้เลย
เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 67 นายสนธยา คุณปลื้ม นายกราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา (ร.ย.ส.ท.) และประธานจัดการแข่งขันฯ เป็นประธานแถลงข่าวความพร้อมก่อนเปิดฤดูกาล การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับนานาชาติ รายการ “B-Quik Thailand Super Series 2024” และ “TSS The Super Series by B-Quik 2024” ที่ห้อง Multi-Function Hall ศูนย์ประชุม C asean Ratchada, อาคาร CW Tower ชั้น 10 รัชดาภิเษก โดยมี นายปรีดา ตันเต็มทรัพย์ รองประธานจัดการแข่งขัน B-Quik Thailand Super Series และนายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข ร่วมงาน
สำหรับศึกรถยนต์ทางเรียบระดับนานาชาติ รายการ “B-Quik Thailand Super Series 2024” และ “TSS The Super Series by B-Quik 2024” จัดการแข่งขันโดย บริษัท เรซซิ่ง สปิริต จำกัด ภายใต้การรับรองโดยราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยฯ เตรียมเปิดฤดูกาล 2024 อย่างยิ่งใหญ่ โดยเริ่มศักราชด้วยการให้ทีมแข่ง นักแข่งที่สมัครเข้าร่วมแข่งขันเรียบร้อยแล้วได้มีโอกาสซักซ้อมและปรับแต่งรถของตัวเองภายใต้งาน TSS Test Days ที่จะจัดขึ้นวันที่ 27-28 มี.ค.นี้
หลังจากนั้นทัพแข่งทั้งหมดจะเคลื่อนพลมุ่งหน้าสู่อีเวนต์แรก ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ วันที่ 3-5 พ.ค. ซึ่งในงานนี้ทางผู้จัดฯ เตรียมกิจกรรมไว้มากมาย รอคอยผู้ชมที่เดินทางไปที่สนามช้างฯ อาทิ กิจกรรม Hot laps สำหรับผู้โชคดีได้นั่งรถแข่งในสนามแข่งจริงๆ, Food Zones รวมอาหารเด็ดของเมืองบุรีรัมย์มาไว้ที่เดียว, Circuit Safari เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้กลุ่มผู้โชคดี ได้มีโอกาสนั่งในรถบัสที่วิ่งเข้าไปในสนามแข่งระหว่างที่รถแข่งกำลังซ้อมของรุ่น Supercar ที่วิ่งกันอยู่สร้างประสบการณ์ที่ตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก ซึ่งกิจกรรมนี้จะจัดปีละครั้งเท่านั้นในสนามแรกของฤดูกาล
จากนั้นจะเป็นการแข่งขันประจำฤดูกาลที่แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยรอคอยที่จัดขึ้นสัปดาห์แรกของเดือน ก.ค. ซึ่งปีนี้จัดขึ้นวันที่ 3-7 ก.ค. นั่นคือ “bangsaen Grand Prix 2024” เทศกาลความเร็วระดับเวิลด์คลาส ซึ่งปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 18 กับการเนรมิตริมชายหาดบางแสน ให้กลายเป็นสนามแข่งขันที่สวยที่สุดในโลก “บางแสน สตรีต เซอร์กิต” จ.ชลบุรี สำหรับสนามบางแสน สตรีต เซอร์กิต ในปีนี้ ทางรายการได้มีการปรับปรุงบริเวณพื้นผิวสนามใหม่ (resurface) ในบางส่วนของสนามที่ชำรุดไปตามกาลเวลา รวมถึงอุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆ อาทิ Debris Fence ซึ่งอุปกรณ์รวมถึงวิธีการและขั้นตอนปฏิบัติต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐานสากลของ FIA Grade 3
ทั้งหมดนี้เป็นการตอกย้ำถึงมาตรฐานความปลอดภัยและมาตรฐานการจัดงานระดับนานาชาติต่อสายตาชาวโลก ที่รับชมผ่านเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน ที่ “บางแสน กรังด์ปรีซ์” ยังมีอีกหนึ่งความมันที่ไม่ควรพลาด นั่นคือการหวนคืนสู่เมืองไทยอีกครั้งของ Support Race จากรายการ Porsche Carrera Cup Asia ที่ยกขบวนมาประชันความเร็วกันที่สนามบางแสนฯ เชื่อได้ว่าสาวก Porsche
กำลังรอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ และอีกหนึ่งไฮไลต์ที่สำคัญและขาดเสียไม่ได้ก็คือ
Toyota Gazoo Racing Motorsport Thailand รายการ Support Race ที่อยู่คู่กับบางแสนมาอย่างยาวนาน ซึ่งปีนี้ยกทัพมาเต็มสูบให้ชมกันแบบติดขอบสนามอีกเช่นเคย
นอกจากการแข่งขันประชันความเร็วที่สุดเร้าใจแล้วนั้น ภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆ สำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ตอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมเครื่อง Simulator ที่มีการจำลองสนามบางแสนไว้, การจัดบูธกิจกรรมจากเหล่าสปอนเซอร์ของรายการ อาทิ B-Quik, Toyota, est Cola, Idemitsu, Nexzter, IMANE และอื่นๆ อีกมาก แถมด้วยกิจกรรมคอนเสิร์ต Racing Mania จาก Toyota Gazoo Racing
Motorsport และการรวมตัวกันของบรรดาคาร์คลับชั้นนำจากสำนักต่างๆ ซึ่งนำรถมาวิ่งโชว์ในงาน บอกได้เลยว่าห้ามพลาดกับเกมดวลความเร็วแห่งปีที่กำลังจะเกิดขึ้นในรายการ bangsaen Grand Prix 2024
จากนั้นเมื่อจบจากสนามบางแสน แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตพลาดไม่ได้กับความเร้าใจของรายการ “TSS The Super Series by B-Quik 2024” ซึ่งจะยกทัพรถแข่งสู่สนามเซปัง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ถึง 2 สนามด้วยกัน ประกอบด้วย อีเวนต์ที่ 3 วันที่ 9-11 ส.ค. (รุ่น GT3/ GTM/ GT4) และอีเวนต์ที่ 5 วันที่ 6-8 ก.ย. (รุ่น GT3/ GTM/GT4/ GTC) เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่ได้รับการตอบรับจากนักแข่งชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากที่สนใจเข้าร่วมทำการแข่งขัน รวมถึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากชาวมาเลเซีย ซึ่งคงจะได้เห็นความร่วมมือกันอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นในลำดับถัดไป
ท้ายสุดกับอีเวนต์ปิดฤดูกาลที่ทุกรุ่นแข่งขันกลับมาเจอกันในวันที่ 13-15 ธ.ค. ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ถึงแม้อุณหภูมิในช่วงเวลาดังกล่าวจะเริ่มเย็นสบายแล้วก็ตามแต่อุณหภูมิในสนามแข่งนั้นระอุแน่นอน เพราะเป็นสนามสุดท้ายชี้ชะตาแล้วว่าใครจะได้แชมป์ประจำปีไปครอง เชื่อได้ว่าแฟนๆ ลุ้นกันแบบนั่งไม่ติดอย่างแน่นอน
ส่วนความพร้อมในการถ่ายทอดสดปีนี้ ผู้จัดการแข่งขันฯ ได้รับความร่วมมือจาก
PPTV HD36 เสริมทัพเข้ามาร่วมทีม Official Media Partner ผนึกกำลังกับ True
Visions, TrueID, Siamsports, XO Autosports และ Workpoint ทำให้มั่นใจได้ว่าการสื่อสารและการถ่ายทอดต่างๆ ของรายการฯ จะเข้มแข็งและมีคุณภาพอย่างแน่นอน รวมถึง Speedcafe.com สื่อด้านมอเตอร์สปอร์ตชั้นนำของออสเตรเลีย ยังคงทำหน้าที่ในการพากษ์ภาษาอังกฤษ ให้กับทางรายการตลอดฤดูกาลอีกด้วย