เกาะติดข่าวสาร>> คมชัดลึก ออนไลน์
เปิดตัวตน ‘ธีระพล’ ลูกสาวจัดเต็มครั้งแรก ! โดย… มนูญ มุ่งชู
หลังจากแถลงข่าวกรณีหนังเรื่อง “พุ่มพวง” เวอร์ชั่นเสี่ยเจียง มีเนื้อหาตอนจบบิดเบือนชีวประวัติของ “ธีระพล แสนสุข” ผู้เป็นพ่ออย่างไม่ไยดี เมื่อไม่นานมานี้ “ตุ๊กตา” หรือ สุนีย์ อยู่คะเชน หรือ สุนีย์ แจ่มเชื้อ (นามสกุลสามี) ได้นัดเปิดใจกับผู้สื่อข่าวที่ร้านอาหารด้านหลังสำนักงานขนส่ง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ปัจจุบัน “ตุ๊กตา” มีครอบครัวเล็กๆ กับบุตรอีก 2 คน อยู่อย่างเรียบง่ายที่หมู่บ้านเสียว ต.เสียว อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
“หนังไม่ให้เกียรติคุณธีระพล ไม่ให้เกียรติญาติคุณธีระพล และไม่ให้เกียรติลูกสาวคนเดียวของคุณธีระพลด้วย”
นั่นเป็นเหตุผลที่ “ตุ๊กตา” ต้องลุกขึ้นมาเปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อให้สังคมรับรู้ความเป็นจริงเกี่ยวกับชีวิตของบิดาของเธอ ซึ่งการกระทำครั้งนี้มิได้ต้องการเงินทอง หรือทรัพย์สินใดๆ แต่มีจุดประสงค์เพียงต้องการรักษาเกียรติยศของพ่อเธอเท่านั้น
จากคำบอกเล่าของลูกสาวคนเดียว ทำให้ทราบว่า “ธีระพล” สามีคนแรกของพุ่มพวง ดวงจันทร์ เดิมชื่อ สนิท อยู่คะเชน หรือ นิด อยู่คะเชน เกิดวันที่ 1 มกราคม 2495 ที่บ้านมุงหญ้ากกหญ้าปรือ ริมคลอง 14 ฝั่ง ต.โพธิ์แทน อ.องครักษ์ จ.นครนายก ซึ่งตอนหลังครอบครัวของเขาย้ายข้ามคลองมาอยู่ที่บ้านบึงปลาร้า ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
เนื่องด้วยครอบครัวธีระพลยากจนแสนสาหัส เมื่อเรียนจบ ป.4 จากโรงเรียนวัดปทุมนายก ต.ศาลาครุ เขาจึงเดินทางออกจากบ้านไปหางานทำในกรุงเทพฯ ระหว่างที่เขาทำงานก่อสร้าง ก็ได้พบรักกับสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นแม่ของตุ๊กตานั่นเอง
ชีวิตที่ลำเค็ญจึงทำให้ภรรยาเขาขอแยกทางไป แต่ลูกสาวเลือกที่จะอยู่กับพ่อ โดยพากันไปเดินสายเล่นลิเกคณะ “บุษบาสุดสะอาด” ซึ่งเป็นคณะของแม่ยายคนแรก
จุดเปลี่ยนของชีวิตลูกชาวนารับจ้างคลอง 14 ก็เกิดขึ้น เมื่อได้เข้าไปเป็นนักดนตรีประจำวงไวพจน์ เพชรสุพรรณ และได้พบรักกับพุ่มพวง ดวงจันทร์
“ไม่นานพ่อก็มาได้กับคุณผึ้ง และมีวงลูกทุ่งของตัวเอง โดยพ่อเป็นผู้จัดการวง แต่แม้จะอยู่กับคุณผึ้ง พ่อก็ยังดูแลฉันและยายเป็นอย่างดี ไม่เคยทอดทิ้งเลย พอฐานะดีขึ้นหน่อย มีรถเก๋งขี่ ก็ขี่มาเยี่ยมเราตลอด และไม่ว่าวงของคุณผึ้งไปเล่นที่ไหน ถ้าเราขัดสนเราก็ตามไปหาพ่อ ขอตังค์พ่อใช้ พ่อก็ส่งเสียเราตลอด คือเราพ่อลูกติดต่อกันไม่เคยขาด”
หลังจาก “พุ่มพวง” แยกทางกับ “ธีระพล” ไปแต่งงานใหม่กับไกรสร แสงอนันต์ ทางครอบครัว “จิตรหาญ” ก็ร้องขอให้ธีระพลแต่งงานกับ “โอ่ง” สลักจิตร เพื่อดูแลวงดนตรีพุ่มพวงต่อไป โดยลูกสาวจากภรรยาคนแรกก็รู้จักมักคุ้นกับครอบครัวฝ่ายพุ่มพวงเป็นอย่างดี
ขณะเรียนอยู่ชั้น ม.5 บางช่วง “ตุ๊กตา” ยังเดินสายไปกับวงดนตรีพุ่มพวง ดวงจันทร์ และสิ่งที่ไม่คาดฝันก็พลันบังเกิดขึ้น
“เมื่อเวลาประมาณตี 2 ซึ่งตรงกับวันที่ 12 ธันวาคม 2530 ซึ่งขณะนั้นพ่ออายุได้เพียง 35 ปีเท่านั้นเอง…ตอนที่พ่อถูกยิงเสียชีวิต หนูกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.5 ก็ไม่ได้ไปเรียกร้องเอาอะไรจากใคร มีแต่แม่เลี้ยง (สลักจิตร ดวงจันทร์) และทางญาติพ่อดำเนินการไป หลังจากพ่อตายไป เราก็เหมือนนกที่เคยเกาะกิ่งไม้อยู่ แล้วจู่ๆ มีใครเอาอะไรมาตัดต้นไม้นั้น แล้วลูกนกอย่างเราจะต้องไปเกาะต้นไม้อื่น เขาก็มีเจ้าถิ่น เราก็ฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามมาตามลำพัง…”
คำถามที่เหตุใดก่อนหน้านี้ “สุนีย์” ไม่ร้องทุกข์ หรือจะฟ้องร้องผู้เคยสร้างหนังชีวิตพุ่มพวง 2-3 เรื่องก่อนหน้านี้ โดยเจ้าตัวตอบว่า ที่ผ่านมาบิดาของเธอไม่ได้เป็นตัวเอก
อีกอย่างผู้สร้างหนังพุ่มพวงในอดีต ล้วนเป็นผู้มีพระคุณ และไม่เคยเขียนบทหนังพาดพิงพ่อธีระพลในทางลบ
“คุณประเสริฐ ชัยสงคราม คนนี้ก็เคยมีบุญคุณกับครอบครัวเรา เพราะเมื่อก่อนท่านเคยอยู่กับพ่อ และหนูก็สนิทกับลูกเขา…ส่วนแม่จรัญ บุปผา คนนี้ก็มีบุญคุณกับพ่อ”
ผิดกับสหมงคลฟิล์ม ที่เขียนบทให้ธีระพลเป็นเสมือนพระเอก แต่ไม่ยอมติดต่อญาติ และยังเขียนบทไม่ตรงกับข้อเท็จ เธอจึงหวังพึ่งกระบวนการยุติธรรม เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีและเกียรติยศของพ่อ
คนในวงการลูกทุ่งและครอบครัวจิตรหาญ ต่างรู้ว่าธีระพลมีลูกสาวอยู่คนหนึ่ง แต่เหตุใดทีมงานผู้สร้างที่อ้างว่ามีการทำข้อมูลมาอย่างดี จึงสอบตกด้วยเรื่องง่ายๆ เช่นนี้