Site icon บางแสน

ย้อนรอย “บางแสน” สลัดภาพ​ “ฉิ่งฉาบทัวร์” สู่เมืองท่องเที่ยวหมื่นล้าน!

ย้อนรอย “บางแสน” สลัดภาพ​ “ฉิ่งฉาบทัวร์” สู่เมืองท่องเที่ยวหมื่นล้าน!

ย้อนเส้นทาง กว่าที่ “บางแสน” ชายหาดระดับล่าง ที่คุ้นชินกับภาพจำแบบ “ฉิ่งฉาบทัวร์” ยกระดับสู่แหล่งท่องเที่ยวหมื่นล้าน และฮ็อตฮิตจนทำเอารถติดยาวเหยียดในทุกช่วงเทศกาลวันหยุด เบื้องหลังคืออะไร?

“ชายหาดระดับล่าง” เป็นสถานะของ “บางแสน” ที่แม้แต่เจ้าถิ่นอย่าง “ณรงค์ชัย คุณปลื้ม” หรือที่ชาวบางแสนเรียกกันติดปากว่า “นายกตุ้ย” นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี ยังเอ่ยปากยอมรับเองว่า เมื่อก่อนบางแสนเป็นแบบนั้นจริงๆ

ทั้งๆ ที่บางแสนมีชายหาดที่สวยไม่แพ้ที่อื่น แถมยังใกล้กรุงเทพฯ ชนิดขับรถแป๊บเดียวก็ถึง แต่ที่เป็นมาต่อเนื่องนับสิบปี กลับเป็นภาพจำของแหล่งท่องเที่ยวชั้นรอง​ ทั้งด้วยกายภาพที่ค่อนข้างยุ่งเหยิง ไม่มีระเบียบ ทะเลไม่สะอาด มีปัญหาขยะ รวมถึงไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยว หนำซ้ำยังไม่มีการจัดระเบียบผู้ประกอบการ การคิดราคาไม่มีมาตรฐาน จนสุดท้าย บางแสน จึงมีสถานะได้แค่เป็นชายหาดระดับล่าง รองรับการท่องเที่ยวที่เรียกกันง่ายๆ ว่า “ฉิ่งฉาบทัวร์” และไม่สามารถสร้างเม็ดเงินเข้าท้องถิ่นได้อย่างที่ควรจะเป็น

ย้อนดูข้อมูลในปี 2552 “บางแสน” ต้อนรับนักท่องเที่ยว หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า “ผู้มาเยี่ยมเยือน” (Visitor) ราว 1.34 ล้านคน แบ่งออกเป็น นักท่องเที่ยวที่ค้างคืน 6.3 แสนคน และ นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ค้างคืน หรือที่เรียกว่า นักทัศนาจร 7 แสนคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.17 พันล้านบาท

ผ่านมา 10 ปี เรื่องกลับกลายเป็นว่า การท่องเที่ยวบางแสนกลับบูมขึ้นมาอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะเม็ดเงินรายได้ที่เข้ามานั้นสูงขึ้นถึงเท่าตัว จนดันให้ บางแสน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวหมื่นล้านได้ในที่สุด!

  • ยกระดับ ปรับภาพลักษณ์ “บางแสน”

ณรงค์ชัย หรือ “นายกตุ้ย” ให้สัมภาษณ์ไว้ในเว็บไซต์ intelligence.businesseventsthailand.com ของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) เผยแพร่เมื่อตุลาคม 2564 โดยยอมรับว่า ภาพลักษณ์ของบางแสนในอดีตนั้น หลายคนมองว่าเป็น “ชายหาดระดับล่าง” แบบ “ฉิ่งฉาบทัวร์” ที่กลายเป็นภาพจำของคนที่ไม่ได้กลับมาเห็นบางแสนโฉมใหม่

เพราะตั้งแต่ราว 5-6 ปีที่แล้ว บางแสนนั้นได้รับการพัฒนาใหม่ ทั้งในเชิงกายภาพ ตั้งแต่ การทำความสะอาดชายหาดใหม่ ปรับปรุงถนนหนทาง รวมถึงมีร้านอาหารใหม่ๆ มีคุณภาพเริ่มเปิดมากมาย ส่งผลให้บางแสนวันนี้ แตกต่างจากภาพในอดีตอย่างสิ้นเชิง

วัดผลชัดเจนได้จากทั้งจำนวนนักท่องเที่ยว รวมถึงรายได้ที่เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งเติบโตต่อเนื่อง ตามตัวเลขดังนี้

– ปี 2562 นักท่องเที่ยว 2.87 ล้านคน สร้างรายได้ 10,428 ล้านบาท
– ปี 2561 นักท่องเที่ยว 2.84 ล้านคน สร้างรายได้ 10,230 ล้านบาท
– ปี 2560 นักท่องเที่ยว 2.72 ล้านคน สร้างรายได้ 9,296 ล้านบาท
– ปี 2559 นักท่องเที่ยว 2.55 ล้านคน สร้างรายได้ 8,133 ล้านบาท
– ปี 2558 นักท่องเที่ยว 1.89 ล้านคน สร้างรายได้ 5,846 ล้านบาท
– ปี 2557 นักท่องเที่ยว 1.75 ล้านคน สร้างรายได้ 5,369 ล้านบาท
– ปี 2556 นักท่องเที่ยว 1.71 ล้านคน สร้างรายได้ 5,257 ล้านบาท
– ปี 2555 นักท่องเที่ยว 1.81 ล้านคน สร้างรายได้ 5,924 ล้านบาท
– ปี 2554 นักท่องเที่ยว 1.82 ล้านคน สร้างรายได้ 6,996 ล้านบาท
– ปี 2553 นักท่องเที่ยว 1.74 ล้านคน สร้างรายได้ 5,376 ล้านบาท

  • งานวิ่งบางแสน จุดเปลี่ยนสำคัญ ภาพลักษณ์ใหม่

ภายใต้เป้าหมายใหม่ที่ถูกปักธงด้วยคีย์เวิร์ดสำคัญ คือ ความเป็น “พรีเมียม” การยกระดับบางแสนก็ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสลัดภาพความแออัดของเก้าอี้ผ้าใบที่แทบไม่เว้นวรรคเรียงรายยาวตามชายหาด ไปจนถึงการจัดระเบียบกลุ่มแผงลอยอาหาร และจัดตั้งคณะกรรมการผู้ประกอบการโดยแบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆ อาทิ กลุ่มเก้าอี้ผ้าใบ กลุ่มแผงลอยอาหาร กลุ่มร้านอาหาร และกลุ่มหมอนวดแผนไทย เป็นต้น เพื่อประชุมหารือทำความเข้าใจกันให้สอดรับกับนโยบายการพัฒนาเมือง ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ภาพลักษณ์ของบางแสนเริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีกว่าเดิม

โดยเฉพาะผ่านเครื่องมือสำคัญ คือ “งานวิ่งบางแสน” หรือที่มีชื่ออย่างเป็นทางการ คือ “งานวิ่งบางแสน ชลบุรีมาราธอน” ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นงานวิ่งที่ดีที่สุดงานหนึ่งของไทย ทั้งด้วยระบบการจัดงานระดับมาตรฐานสากล บวกกับจุดเด่น คือ วิวทะเลระหว่างวิ่ง และการร่วมมือจากชุมชนที่ร่วมเป็นเจ้าภาพต้อนรับเหล่านักวิ่ง จนกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้นักวิ่งหลักหมื่นคนอยากมาร่วมสัมผัสประสบการณ์จากการวิ่งรายการนี้

การอัพเกรดบางแสนเพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้น และเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดงานวิ่งที่ดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาและได้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลง ได้เห็นบางแสนในมุมใหม่ ที่มีผู้ประกอบการรุ่นใหม่เข้ามาเปิดร้านทั้งคาเฟ่ ร้านอาหารชิคๆ มากมาย ก็ยิ่งขยายฐานกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ๆ เข้ามาได้มากขึ้น

  • ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน นักท่องเที่ยวสะดวก ชาวบ้านสบาย

จากสภาพรถติดยาวเหยียบจนกลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดียในทุกๆ ช่วงวันหยุดเทศกาล ที่จอดรถก็ไม่เพียงพอ เทศบาลเมืองแสนสุข ก็มีแผนพัฒนาต่อเนื่อง ทั้งการเตรียมสร้างอาคารจอดรถใกล้ชายหาด ที่จะรองรับการจอดได้ประมาณ 300 คัน โดยคาดว่าจะใช้งานได้ในปีหน้า รวมถึงมีโครงการศึกษาการทำท่าเรือขนส่งสาธารณะ แผนการก่อสร้างท่าเรือขนส่งสาธารณะขนาดเล็กบริเวณแหลมแท่น บางแสน โดยเบื้องต้นเพื่อจะเปิดเส้นทางไปเกาะสีชัง ลดความแออัดจากท่าเรือที่ศรีราชา

โดยหากแล้วเสร็จ บางแสน แหลมแท่น ก็จะเป็นทางเลือกในการเดินทางไปเกาะสีชังเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของ 2 เมือง และ อำนวยความสะดวกให้กับพลเมืองเกาะสีชังอีกด้วย

ทั้งนี้การจะยกระดับเมือง ต้องดำเนินไปควบคู่กับการสร้างการรับรู้ของคนในชุมชนให้รู้สึกมีส่วนร่วมกับความเป็นไปของเมือง อย่างเช่นในงานวิ่ง ก็จะชวนให้ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นอาสาสมัคร ทั้งการแจกน้ำ การเป็นกองเชียร์ การเก็บขยะ ทีมปั่นจักรยาน หรือทีมแพทย์อาสา ฯลฯ รวมถึงในปีแรกของการจัดงาน ก็ยังให้สิทธิคนในชุมชนมาวิ่งฟรีด้วย

อ้างอิง : สถิตินักท่องเที่ยวบางแสน , บทสัมภาษณ์ณรงค์ชัย คุณปลื้ม

Exit mobile version