ภาพเก่าเล่าตำนาน : ดินแดนพญาหมีขาว…ที่แสนจะมั่งคั่ง
“สงครามเวียดนาม” รบกันหนักราว 20 ปี (พ.ศ.2498-2518) ใกล้บ้านเรา มีทหารไทยไปร่วมรบด้วย…ทหารและประชาชนตายเป็นล้านคน สหภาพโซเวียต คือ ลูกพี่ใหญ่ ส่ง “เครื่องจักรสังหาร” ทุกชนิดให้นักรบเวียดนามเหนือ
ปืนเล็กยาว AK-47 ที่คนไทยเรียกว่า “อาก้า” หรือ “ไอ้หัวปลี” คือ จรวด RPG ทุ่นระเบิด ปืนใหญ่ทุกขนาด ปืนครก ลูกระเบิดขว้างแบบสากกะเบือ ไปถึงจรวดแซม (SAM) เอาไว้ยิงเครื่องบินสหรัฐ
ล้วนมา “แจ้งเกิด” ให้ชาวโลกได้เห็นความโหดเลว ดี ประหัตประหารกันในสนามรบในเวียดนาม
อะไรที่ “สังหารมนุษย์” ด้วยกันได้ ยิ่งตายมากยิ่งน่าดีใจ
สหภาพโซเวียต “เป็นบิดา” ของลัทธิคอมมิวนิสต์ ที่ผู้นำเวียดนามเหนือ โฮจิมินห์ ไปผูกสมัครรักใคร่ ฝักใฝ่ลัทธิ เลยได้รับ “อาวุธสังหาร” แบบจุใจ ไม่อั้น ตั้งแต่ยกแรกจนยกสุดท้าย
เมื่อทราบว่าต้องรบกับอเมริกา…ยิ่งต้องให้แบบ “จั๋งหนับ”
30 เมษายน พ.ศ. 2518 กองทัพเวียดนามเหนือนำรถถังT-54 “ผลิตในโซเวียต” บุกทะลุแนว เข้ายึดทำเนียบประธานาธิบดีเวียดนามใต้ ในกรุงไซ่ง่อน…มีชัยชนะในสงคราม เป็นไปตามแนวทางของลูกพี่โซเวียตและจีนที่ขอเป็นเจ้าบุญทุ่ม…อุ้มชูดูแลมาตลอด
แทบไม่ค่อยมีใครเคยกล่าวถึง บทบาทของสหภาพโซเวียตที่ประเคนอาวุธตลอดเกือบ 20 ปี ช่วยให้เวียดนามเหนือชนะสงคราม
กองทัพโซเวียต ถือโอกาสใช้สงครามในเวียดนาม “ทดสอบอาวุธ” ที่ผลิตขึ้นมา (Combat Proven) โดยให้รายงานผลการใช้งาน โดยเฉพาะ “จรวดพื้นสู่อากาศ” ที่สอยเครื่องบินรบอเมริการ่วงนับร้อยเครื่อง และยังจับนักบินสหรัฐเป็นเชลยได้อีกจำนวนมาก
ข้อมูลสำคัญที่ถูกเปิดเผย จากคลังเอกสารของสหภาพโซเวียตที่เปิดออกหลังจากการ “ล่มสลาย” ของสหภาพโซเวียตระบุว่า…
“…หน่วยต่อสู้อากาศยาน ที่ใช้จรวด ใช้เทคนิคขั้นสูง จ้องยิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของอเมริกา ส่วนใหญ่เป็น ‘ชาวยูเครน’ ที่เป็นครูฝึก ก่อนส่งต่อให้เวียดกง นี่เป็นความช่วยเหลือที่ประเมินค่าไม่ได้…”
(ในบทความนี้…ผู้เขียนขอเรียกว่า “รัสเซีย”)
ในระหว่างสงคราม กองทัพสหรัฐ ก็ว่าจ้างเอกชน ค้นคิด ผลิตอาวุธ เพื่อให้ทหารในสนามรบใช้งานตามความต้องการ …แล้วรายงานผลการใช้งาน เพื่อนำมาปรับปรุง แก้ไข
ปืนเล็กยาว M16 ของอเมริกา ถูกปรับปรุง เสื้อผ้า อาหารสำเร็จรูป รองเท้าสำหรับทหารในพื้นที่โคลนตม ป้องกันอันตรายเมื่อตกไปในหลุมขวาก ยากันแมลง เสื้อกันฝน ยารักษาโรค ฯลฯ
ในทางการแพทย์ เกิดประสบการณ์ให้แพทย์ ตัดแขน-ขา มนุษย์
ยานพาหนะในสนามรบ ถูกปรับปรุงให้มีสมรรถนะสูงขึ้น
“จีน” ที่แนบชิดกับรัสเซียในเวลานั้น ก็เป็นผู้ให้เวียดนามเหนือ เพื่อประชาชนพลีชีพ เพื่อจะรวมชาติ สร้างชาติขึ้นมาใหม่
หากแต่ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เวียดนาม “ระแวง” จีน ในท้ายที่สุดทำให้พวกเขาหันไปขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย
นายทหาร พลเรือน ของ ลาว เวียดนาม กัมพูชา ไปศึกษาเล่าเรียน ไปฝึกในรัสเซียแทบทั้งนั้น
อาวุธของทหารเวียดนามเหนือ ที่เรียกว่า “เวียดกง” ที่นักรบไทยไปทำสงครามโหดในลาว …ล้วนเป็นของรัสเซีย
เวียดนามเหนือ มิได้โดดเดี่ยว ทหารรัสเซียประมาณ 3,000 นาย ทำงานในกองทัพเวียดนามเหนือในช่วงสงคราม พวกเขาถูกกำหนดให้เป็น “ผู้เชี่ยวชาญทางทหาร” ให้คำปรึกษา จัดหาส่งอาวุธให้
ผู้เขียนเคยรับราชการเป็น “เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร” ต้องเดินทางไปพบปะ พูดคุยกับนายทหาร ลาว เวียดนาม กัมพูชา
ส่วนใหญ่จบการศึกษา อบรม หลักสูตรทางทหารในรัสเซียทั้งนั้น แม้กระทั่ง นักบิน ฮ. นักบินขับไล่ ล้วนเป็นศิษย์การบินรัสเซีย
รัสเซีย คือ ตักศิลาสำหรับ การทหาร เศรษฐกิจ การเมือง
ช่วงสงครามเกาหลี…เกาหลีเหนือบุกเกาหลีใต้ สหภาพโซเวียตส่งมอบอาวุธ โดยเฉพาะเครื่องบินรบให้เกาหลีเหนือ
มอสโกช่วยเหลือด้านการทหารและเศรษฐกิจ จัดหาอาหาร ปิโตรเลียม รถขนส่ง เหล็ก ปุ๋ย อาวุธ และกระสุนแก่พันธมิตรคอมมิวนิสต์ หลายประเทศทั่วโลก
ที่สำคัญที่สุดคือ โซเวียตได้จัดหาสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือมากกว่ากู้ยืม …เคยช่วยส่งอาวุธ กระสุนมหาศาลให้กองทัพจีน (ฝ่ายเหมา เจ๋อตง) ในสงครามกลางเมือง
ประเทศใดก็ตามที่ “เดินตาม” แนวทางของรัสเซีย ก็จะได้รับการดูแลแบบ อิ่มหนำ สำราญจากมอสโก
ฟากฝั่งของสหรัฐ…ก็มีแนวปฏิบัติไม่ต่างจากรัสเซีย
ในช่วงสงครามเย็น มีสงครามที่ไหน ให้เดาไว้ก่อนว่า “ลูกน้องอเมริกา กำลังรบกับลูกน้องรัสเซีย”
ที่ชักแม่น้ำทั้ง 5 มาเล่าตรงนี้ ก็เพื่อจะบอกว่า…ทั้งสหรัฐ และรัสเซีย รวมถึงจีน ที่ผ่านมากว่า 60 ปี…เมื่อตั้งใจจะสนับสนุน “รัฐ” ใดให้ “ทำสงคราม” หรือ เพื่อให้ “ป้องกันตัวเอง” ได้ ก็จะทุ่มเทให้แบบถึงพริกถึงขิง ทั้งอาวุธ ทั้งเงิน
นั่นหมายความว่า ประเทศมหาอำนาจ และเมื่อต้องการเป็นมหาอำนาจ ก็ต้องมีทรัพยากรมหาศาล ร่ำรวย ใจถึง พึ่งได้
(หลังสงครามเกาหลี… กองทัพไทยได้รับยุทโธปกรณ์มหาศาลจากสหรัฐ มูลค่าหลายพันล้านบาท ทั้ง ทหารบกทหารเรือ ทหารอากาศ แม้กระทั่ง ตำรวจ ที่สหรัฐมียุทธศาสตร์ “ปิดล้อม” คอมมิวนิสต์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
ผู้เขียนเป็นนักเรียนนายร้อย พ.ศ.2516 แม้กระทั่ง “พลั่วสนาม” ที่ใช้ขุดดิน เข็มขัด หม้อข้าวสนาม เต็นท์ หมวกเหล็ก เสื้อกันฝน มีตรา US ประทับ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ทนทาน ทนมือ-ทนเท้า
จบไปเป็นนายทหาร ก็ยังพบว่าหน่วยทหารในส่วนกำลังรบ ก็ใช้ของ US ทั้งสิ้น…รถยนต์เกือบทั้งหมดในหน่วยเป็น “พวงมาลัยซ้าย”
บรรพบุรุษของกองทัพ … หาเอาไว้ให้…ได้มาฟรี
ขอยกตัวอย่าง มูลค่า ของ “กระสุนปืนใหญ่…”
กระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม.แบบดั้งเดิม-พื้นฐาน มีหลายแบบ กระสุนแต่ละนัด หนักประมาณ 4-7 กก. แล้วแต่เป้าหมาย
ปัจจุบัน เป็นกระสุนใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ยิงไกลกว่า 50 กม. สบายๆ แม่นยำ แต่ละนัดหนักราว 50 กก.
วัตถุดิบ โลหะ ชิ้นส่วนขนาดย่อยๆ แบบเครื่องนาฬิกา ในหัวชนวน และองค์ประกอบอื่นๆ ที่ใช้ผลิตกระสุน 1 นัด มันมหึมาขนาดไหน โดยเฉพาะ “เหล็ก” ที่ต้องนำมาเจาะ มาคว้านเป็นตัวกระสุน
เมื่อต้องผลิตนับหมื่น นับแสนนัด ต้องใช้โลหะหนักเท่าไหร่
ที่เห็นในข่าวโทรทัศน์ สงครามรัสเซีย-ยูเครน จรวดหลายลำกล้อง (MRLS) ยิงกันแบบห่าฝน ครั้งละ 20 ลูก แล้วต้องรีบบรรจุใหม่ ยิงออกไปอีก มันคือโลหะพิเศษหลายชนิดรวมกัน
ถ้าเตรียมทำสงคราม ต้องมีเงินมหาศาล สะสมอาวุธ ต้องใช้เงิน ต้องมีหน้าตักใหญ่-หนา ต้องมี “ลูกพี่”
อเมริกา บรรทุกอาวุธขนาดหนัก รถเกราะ กระสุน ใส่เครื่องบินขนส่ง C-17 Globemaster III นับพันเที่ยว ไปส่งให้ถึงประเทศต่างๆ ในยุโรป…ช่วยยูเครน ใช้ “น้ำมัน” เครื่องบินขนาดไหน…
ประชาชนทั้งหลายในประเทศ ต่างก่นด่า เรื่องเงินมหาศาลที่ใช้ไปกับการทำสงคราม แทนที่จะดูแลประชาชนให้อยู่ดี-มีสุข
(แถมเป็นข้อมูลครับ…ญี่ปุ่นก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2ช่วง พ.ศ.2484-2488 ผลิตอาวุธเองทั้งหมดรถถัง เครื่องบิน เรือรบ ปืนใหญ่ ปืนเล็ก กระสุนทุกชนิดหลายร้อยล้านนัด… ช่วงปลายสงครามต้องไปถอดประตูหน้าต่างรั้วบ้านประชาชน รูปหล่อ ที่เป็นโลหะทุกชนิด นำมาหลอมรวมผลิตเป็นกระสุน และยังมาเจรจากดดันซื้อ “ยางพารา” จากสยาม เพื่อนำไปผลิตยุทโธปกรณ์ทางทหาร)
อาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งปวง ถึงแม้ในยามปกติ ก็ต้อง “ปรนนิบัติบำรุง” ยานรบทุกชนิด ต้อง ติดเครื่องยนต์ เครื่องบินต้องบิน รถถังต้องวิ่งออกกำลัง เรือต้องติดเครื่องออกวิ่ง
สำหรับอเมริกา คนไทยเราคุ้นเคยกันดี เพราะคนไทยไปเรียนหนังสือ ไปทำมาหากิน ไปตั้งรกรากกลายเป็นชุมชนไทยในอเมริกา ทำมาค้าขาย …อเมริการ่ำรวย แต่ก็มีปัญหารุมเร้าไม่น้อย
สำหรับรัสเซีย…เราไม่ค่อยคุ้น…อันที่จริง ก็ “ร่ำรวยใช่ย่อย”
เวลาสนับสนุน “กลุ่ม-พวก” ไหน รัสเซียก็เป็น “เจ้าบุญทุ่ม”
ขอนำข้อมูลความร่ำรวยเรื่อง “ทรัพยากรธรรมชาติ” ในแผ่นดินรัสเซีย มาบอกเล่า…
รัสเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีเนื้อที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีบทบาทสำคัญในตลาดพลังงานและทรัพยากรทั่วโลก
ยกตัวอย่างเช่น…
ดินแดนพื้นที่ทางบกของรัสเซีย คิดเป็น 1 ใน 9 ของพื้นที่โลก
รัสเซียเป็นแหล่งสำรองก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มีถ่านหินสำรองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
มีน้ำมันสำรองที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก
เป็น 1 ในผู้ผลิตและผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุด ในปี 2564 ซึ่งอิงตามราคาในขณะนั้น สร้างรายได้ประมาณ 55.5 พันล้านดอลลาร์
เป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 และผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก
ก่อนสงครามบุกยูเครน…รัสเซียส่งออกน้ำมันดิบประมาณ 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน และส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นประมาณ 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งคิดเป็น 40% ของรายได้จากการส่งออกทั้งหมด
แม้กระทั่งในระหว่างสงคราม รัสเซีย-ยูเครน จีนนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้น 28% ตามมาด้วยอินเดียเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรัสเซียรายใหญ่ โดยซื้อน้ำมันส่งออกประมาณ 1 ใน 5 ของรัสเซียในช่วง 3 เดือนแรกของสงคราม
สงครามที่เราเห็นเพียงด้านเดียวของเหรียญ ปรากฏว่า รัสเซียส่งออกน้ำมันและราคาเชื้อเพลิงที่ “เพิ่มขึ้น” รายได้ของรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็น 337.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 38% จากปี 2564 (รอยเตอร์)
รัสเซียเป็นประเทศที่มีทรัพยากรป่าไม้ถึง 20% ของโลก
ปริมาณน้ำจืดสำรองของรัสเซียเพียงอย่างเดียว ก็เพียงพอที่จะจัดหาน้ำดื่มให้กับคนทั้งโลกเป็นเวลา 10 ปี
ยังไม่หมดครับ…สำหรับอนาคตกาล ที่โลกกำลังเปลี่ยนไปใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) …รัสเซียก็มี “โลหะ-แร่ธาตุหายาก” มากมาย ที่ทั่วโลกโหยหาเพื่อจะนำไปผลิตแบตเตอรี่
โลหะหายากเหล่านี้ ใช้ในทุกสิ่ง ตั้งแต่ สมาร์ทโฟนรถยนต์ไฟฟ้า กังหันลม อุปกรณ์ไฮเทคทั้งหมดของโลกสมัยใหม่ต้องการโลหะหายาก …รัสเซียครอบครองมากกว่าใคร
ข้อมูลเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2562 รัสเซียได้สำรองแร่ธาตุหายากที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกที่ 12 ล้านตัน
มีมากกว่า ออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา
ประธานาธิบดีปูติน เชื่อมั่นว่ารัสเซีย มีมากเป็นอันดับ 1 หรือ 2 ของโลก เพราะรัสเซียยังไม่ได้สำรวจดินแดนทั้งหมดที่กว้างใหญ่ไพศาล
ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ เป็นเงินเป็นทอง ที่ต้องขวนขวาย
วัสดุ แร่หายาก (Rare Earth) ทำให้จีนและรัสเซียต้องพึ่งพากัน เพื่อคานอำนาจสหรัฐ บางส่วนจีนกับสหรัฐก็ต้องพึ่งพากัน
แร่หายาก ทำให้รัสเซียกลายเป็น “คนเนื้อหอม”
ทรัพยากรธรรมชาติของรัสเซียมีมูลค่า 75 ล้านล้านดอลลาร์ตามการประมาณการของ Statista จำนวนนี้ รวมถึง ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ทอง ไม้ และโลหะหายาก
ไม่บอก-ไม่ได้…ยูเครนก็ประดุจสาวสวย รวยเสน่ห์ เป็นดินแดนที่ร่ำรวย จึงมีผู้หมายปองในดินแดนที่มีแร่ธาตุหายาก ก๊าซ นำมัน และเหล็กชั้นดี แถมยังมีดินดีกว้างใหญ่สุดขอบฟ้า ทำเกษตรกรรมเลี้ยงชาวโลกได้ โดยเฉพาะข้าวสาลี เมล็ดทานตะวัน
ราว 8 เดือนของสงคราม ของมอสโก “ได้ให้รางวัลใหญ่กับตัวเอง” ชัดเจนที่สุด คือ ขยายการควบคุมดินแดนที่อุดมด้วยแร่ธาตุมากที่สุดในยุโรป (ยูเครนเคยอยู่ในสหภาพโซเวียตกันมาก่อน)
มอสโก รู้ดีว่า ยูเครนมีของดี ควรมาเป็นทองแผ่นเดียวกัน
“ยูเครน” เป็นแหล่งสำรองแร่ “ไททาเนียม” และ“แร่เหล็ก” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แหล่ง “ลิเธียม” ที่ยังไม่ได้ใช้ และแหล่งถ่านหินจำนวนมหาศาล โดยรวมแล้วมีมูลค่าหลายสิบล้านล้านดอลลาร์
“แหล่งถ่านหิน” เหล่านั้น ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเหล็กที่สำคัญของยูเครนมานานหลายทศวรรษ กระจุกตัวอยู่ทางตะวันออก (4 แคว้นที่มอสโกประกาศยึดครองไปแล้ว)
ยานเกราะล้อยาง รถถัง ในกองทัพไทย ก็ผลิตจากยูเครน
ยูเครน ยังเป็นประเทศที่ผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ขายประเทศต่างๆ ในยุโรป
ผู้เขียนรวบรวมข้อมูลมาข้างต้น ให้สัมภาษณ์ในสื่อทุกแขนงตลอดมา มิได้สนับสนุน หรือปรารถนาจะเห็น แพ้-ชนะ แต่อย่างใด
เพียงต้องการฉายภาพว่า…ใครกำลังทำอะไร
สงครามทั้งหลาย ท้ายที่สุด คือ ต้องการแย่งชิงทรัพยากร ต้องผลาญ “เงินภาษีประชาชน” มิรู้จักจบสิ้น ผลาญชีวิตไปในการสงคราม และยังต้องไปเลี้ยง “รัฐบริวาร”
แทนที่จะดูแลประชาชนในประเทศของตนให้มีความสุข
19 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ช่วงเวลาค่ำในไทย… ปูติน ประกาศกฎอัยการศึกใน 4 แคว้นที่เพิ่งไปยึดมาจากยูเครน ให้อำนาจพิเศษแก่ผู้ปกครองที่มอสโกตั้งมากับมือ…ยังไงๆ ก็ขอยึด 4 แคว้นนี่แหละ
“คนสั่งให้ไปรบ” ไม่ต้องไปรบ ไม่ตาย แสนสุขสบาย