นายสุระ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมถึงสาเหตุการเปลี่ยนชื่อพรรค ว่า เกิดจากการพิจารณาและคิดร่วมกันหลายๆ ฝ่าย และเห็นพ้อง คำว่า พรรคพลังบูรพา เพื่ออยากให้เห็นการขับเคลื่อนของพรรคในภาพที่กว้างขึ้น ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์และความหมายของพรรคพลังบูรพา เป็นการรวมพลังความรัก ความสามัคคีของประชาชน เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งภาคตะวันออกและพื้นที่อื่นๆ ของประเทศไทยด้วย
ทางพรรคพร้อมเปิดรับแนวคิด สมาชิกพรรค ผู้ที่จะมาร่วมอุดมการณ์ของพรรคจากประชาชนทุกพื้นที่ในประเทศ ให้มาช่วยกันขับเคลื่อนพรรคเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนทั้งประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามถึงความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคพลังบูรพา จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งกี่เขต นายสุระ กล่าวว่า จากนี้ไปจะดำเนินกิจกรรมของพรรคในนามพรรคพลังบูรพา พรรคจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ส่วนจะส่งผู้สมัครกี่คน พื้นที่ใดบ้าง ต้องพิจารณาตามเหตุการณ์ และต้องนำไปปรึกษาหารือร่วมกับคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง กรรมการบริหารพรรค เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรค ที่จะต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายต่างๆ เสียก่อน และขอย้ำอีกครั้งว่า พรรคพลังบูรพาจะส่งผู้สมัครทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่ออย่างแน่นอน
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาจ.ชลบุรี มีการแข่งขันดุเดือด มีการกล่าวหาโจมตีทางการเมือง ทางพรรคกังวลหรือไม่ นายสุระ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ที่ได้ให้เห็นมาตลอด โดยความมุ่งหวังผู้โจมตีใส่ร้าย คงอยากจะให้ประชาชนสับสน ให้คล้อยตาม รู้สึกไม่ดีกับอีกฝ่าย
แต่เมื่อมีการการโจมตี หรือโกหกบ่อยครั้ง โลกเราทุกวันนี้ การสื่อสารตรวจสอบหาข้อมูล ที่มาที่ไป เป็นไปอย่างรวดเร็ว ประชาชนแยกแยะได้ มั่นใจว่า เขาไม่ยอมตกเป็นเหยื่อ หลงเชื่อต่อผู้ที่พยายามให้ข้อมูลเท็จกับพรรคหรือแม้แต่คนที่เคยมีบุญคุณด้วย
“เรื่องอะไรที่มันไม่จริง ไม่ว่าจะปล่อยข่าว แต่งเติม มโน หรือ พูดกี่ครั้ง ก็คือความไม่จริง ขอให้จด หรือ จำไว้ด้วยในเรื่องที่เคยพูดไม่จริง ไม่เช่นนั้นการพูดครั้งต่อไป อาจจะไม่เหมือนกับครั้งแรกก็ได้ เพราะโกหก มโนอยู่บ่อยครั้ง อาจจะหลงลืมไป เชื่อว่าประชาชนย่อมรู้ดีว่า อะไรเป็นเรื่องจริง หรือไม่จริง ใครพูดจริง ใครโกหก”นายสุระ กล่าว