‘ฝ่ายค้าน’ มอบ ‘ประเสริฐ’ ดีลพรรคเล็ก-ไม่ปิดทางคุย ‘ธรรมนัส’ รวมเสียงโค่น ‘ประยุทธ์’
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ที่โรงแรมบางแสนเฮอริเทจ จ.ชลบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงการพูดคุยกับพรรคเล็ก เพื่อเสนอแนวทางในการโหวตร่วมกับฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ว่า ฟังข้อเสนอเขาแล้วดูเป็นประโยชน์ ซึ่งวัตถุประสงค์ของเราต้องการให้พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคเล็ก เห็นพ้องกับข้อมูลของเราอยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าพูดคุยกันได้ในมุมของเราถือว่าเป็นประโยชน์ และพรรคเล็กเองอาจจะคิดว่าการที่เขาช่วยโหวตน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติก็ได้ เพราะวันนี้บ้านเมืองเกิดวิกฤตประชาธิปไตยเสื่อม ประเทศ ประชาชนสิ้นหวัง ถ้าทุกฝ่ายมองอย่างนี้ตนถือว่าเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการนัดหมายที่ชัดเจน แต่มีการติดต่อประสานมา เราก็รับข้อเสนอในการที่จะพูดคุย เพราะตนในฐานะผู้นำฝ่ายค้านเห็นว่าเป็นประโยชน์
เมื่อถามว่า การประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านในครั้งต่อไปจะมีการเชิญตัวแทนพรรคเล็กมาร่วมหารือด้วยเลยหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า คนละเวทีกัน ฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ของเรา แต่เรื่องข้อมูลหากพรรคเล็กต้องการเสริมในประเด็นใด เรามีคณะทำงานของฝ่ายค้านที่แยกไปคุยต่างหากแล้วนำข้อมูลมาพิจารณาร่วมกัน พูดง่ายๆ ว่าข้อมูลของฝ่ายค้านเป็นข้อมูลลับไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเราไม่ไว้วางใจ แต่เป็นสิทธิของผู้อภิปรายที่จะต้องรักษาข้อมูลของตัวเองไว้เป็นความลับ แต่หากใครจะเพิ่มเติมอะไรเราพร้อมจะเปิดรับจากทุกฝ่าย
เมื่อถามว่า ในการกินเลี้ยงร่วมกับพรรคเล็กของเลขาธิการพรรค พท. ได้มีการพูดคุยกันในประเด็นใดบ้าง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า ในการสนทนานายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 พูดถึงความอึดอัดใจที่มีต่อการแสดงความเห็นโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี ซึ่งเขาไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะเซ็นสัญญาจ้างในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ จึงมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเรา ถึงขนาดปรารภว่า ถ้ารัฐบาลยังเดินหน้าในความเสียหายที่เกิดขึ้น ท่านถึงกับพูดว่าจะไม่ยกมือสนับสนุน ถ้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้มีญัตติเรื่องนี้เข้าไปด้วย อย่างไรก็ตาม การติดต่อประสานงานกับพรรคเล็ก หัวหน้าพรรค พท.ได้มอบหมายให้ตนเป็นผู้ประสานเบื้องต้นว่าจะมีการพูดคุยหรือไม่มีการพูดคุยกัน หากมีความคืบหน้าอย่างไรจะนำเสนอให้ทราบอีกครั้ง
เมื่อถามว่า สังคมมองเป็นเกมปั่นราคากล้วย นพ.ชลน่านกล่าวว่า หลายคนอาจจะคิดแบบนั้นก็ได้ แต่ตนมองว่าหากเขามีเจตนาที่ดีกับประเทศจริงๆ ถือว่าเขาทำโจ่งแจ้งไม่ได้ทำลับๆ ล่อๆ เขาประกาศว่าเขาอยากช่วยในเรื่องที่เห็นว่าเป็นความเสียหาย ซึ่งงการประกาศเช่นนี้หมายถึงเขาสัญญากับประชาชนว่าเขาจะทำ ดังนั้น ถ้าเขาไม่ทำแล้วไปเข้าสมมุติฐานว่าเป็นการปั่นราคา เขาจะเสียหายเอง เขาคงไม่คิดฆ่าตัวตายทางการเมือง เพราะจะเป็นการเล่นการเมืองครั้งสุดท้ายของเขาเลย จึงเชื่อว่าเขาต้องการให้เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองจริงๆ
เมื่อถามว่า มีการประเมินตัวเลขกลุ่ม 16 ที่จะร่วมยกมือกับฝ่ายค้านอย่างไร นายประเสริฐกล่าวว่า เขากลุ่ม 16 เราก็ยึดตัวเลข 16 เมื่อถามต่อว่า แม้ว่าจะได้กลุ่ม 16 มาสนับสนุนแต่ก็ไม่พอโหวตล้มรัฐบาลอยู่ดี จะมีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ด้วยหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่อยากให้มองแบบนั้น เพราะวันนี้พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ยังไม่แสดงตนว่าเป็นพรรครัฐบาล หรือพรรคฝ่ายค้าน ดังนั้น 18 เสียง จะโยกไปทางไหนยังตอบไม่ได้ แต่ถ้าพรรค ศท.รวมกับพรรคเล็กจะมี 30 กว่าเสียง ซึ่งก็มีนัยนะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าจะมีการพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ศท. ด้วยใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า วันนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านมี 208 เสียง การจะมีเสียงไม่ไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่งต้องใช้ 238 เสียง ดังนั้น การแนวทางการแสวงหาเสียง นอกจากใช้ข้อมูลแล้ว การติดต่อประสานงานกับพรรคที่เห็นแก่ชาติบ้านเมือง เราแสวงหาโดยไม่ปฏิเสธที่จะเข้าไปพบปะพูดคุยอยู่แล้ว แต่จะเป็นจังหวะไหนค่อยดูกันอีกครั้ง ถ้าได้เสียงจากพรรค ศท. ก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะล้ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เผลอๆ อาจจะมีการตัดสินใจก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจเลยก็ได้ หากกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ ผ่านวาระ 3 ประมาณกลางเดือนมิถุนายนนี้ ดังนั้น ช่วงกลางเดือนมิถุนายนจะเป็นช่วงที่จะมีการตัดสินใจหลายเรื่อง หากนายกฯต้องการรับผิดชอบต่อบ้านเมือง และคิดว่าท่านออกไปแล้วจะมีคนเข้ามาทำหน้าที่ได้ดีกว่า หรือสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ ท่านอาจจะตัดสินใจในช่วงเวลานี้เลย ซึ่งง่ายที่สุดคือการลาออก
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่