เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ศูนย์ข่าวศรีราชา – ผจว.ชลบุรี ลงพื้นที่แก้ปัญหาโครงการ Bike lane รอบสวนป่าสิริเจริญวรรษ สร้างเสร็จ 6 ปียังเปิดใช้ไม่ได้ซ้ำเกิดข้อพิพาทตัดผ่านที่ดินชาวบ้าน ยันตรวจสอบข้อมูลตามความเป็นจริงพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย จากนี้พร้อมเดินหน้าหารือหน่วยงานเกี่ยวข้องปรับปรุงโครงการให้ได้ใช้ประโยชน์จริง
จากกรณีที่มีชาวบ้านในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และนักปั่นจักรยานได้พากันร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อให้ตรวจสอบความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ จำนวน 50 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการเส้นทางจักรยาน หรือ Bike lane ในพื้นที่โดยรอบสวนป่าสิริเจริญวรรษ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 จังหวัดชลบุรี ระยะทางยาว 20 กิโลเมตร ซึ่งจังหวัดชลบุรี ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมพลศึกษา
และได้มอบหมายให้ นางอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างดำเนินโครงการ ซึ่งปรากฏว่า บริษัท บางแสนมหานคร จำกัด เป็นผู้ชนะงานประมูลในวงเงินกว่า 47 ล้านบาท และให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.2558 โดยมีระยะเวลาสิ้นสุดสัญญาจ้างในวันที่ 18 ก.ย.2559
กระทั่งได้มีการขอรับการขยายเวลาออกไปอีก 180 วัน เพื่อปรับปรุงแบบจากเส้นทางเดิม 20 กิโลเมตร ซึ่งทำได้เพียง 17.80 กิโลเมตร สิ้นสุดสัญญาจ้างเมื่อวันที่ 17 มี.ค.2560 และทางบริษัทได้ส่งมอบงานโดยพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาค้ำประกันงาน 2 ปี
แต่สุดท้ายไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ดูแลให้โครงการป่าสิริเจริญวรรษได้ เนื่องจากสภาพถนนถูกน้ำเซาะบางช่วงชำรุดจนหวั่นว่าอาจเกิดอันตรายต่อนักปั่นจักรยานและจะไม่เปิดให้ใช้งานจนกว่าจะได้รับอนุมัติเงินแผนพัฒนาจังหวัดอีกจำนวน 16 ล้านบาท เพื่อซ่อมแซม จนสุดท้ายผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบโครงการดังกล่าวนั้น
วันนี้ (25 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางลงพื้นที่สวนป่าเจริญสิริวรรษ เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับจากโครงการดังกล่าว โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ รวมทั้งนายสุรเทพ และนายสุพจน์ โตพานิช เจ้าของร้านอาหารมุมอร่อย ซึ่งได้รับมอบหมายจากชาวบ้านเป็นผู้สะท้อนปัญหาเรื่องการทำเส้นทางจักรยานรุกล้ำที่ดิน
ขณะที่ นายประพันธ์ศักดิ์ ขวัญศรี นายช่างรังวัดชำนาญการ สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ เผยว่า จากการตรวจสอบเอกสารสิทธิในเบื้องต้น พบว่ามีเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. จำนวน 2 แปลงใหญ่ที่กำลังเกิดข้อพิพาทเนื่องจากเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินได้โต้แย้งว่าเส้นทางจักรยานตัดเข้าไปในพื้นที่ ของตนเอง
โดยแปลงแรกเป็นที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 452 เนื้อที่ 33 ไร่ 1 งาน 26 ตารางวา ส่วนอีกแปลงเลขที่ 453 เนื้อที่ 43 ไร่ 33 ตารางวา รวมทั้งหมดราว 76 ไร่ ซึ่งเอกสารสิทธิดังกล่าวได้ออกไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2519
นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เผยภายหลังได้รับทราบข้อมูลปัญหาในเบื้องต้นจากส่วนราชการ และประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ว่า หลังจากนี้จะเชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้องประชุมหารือร่วมกันอีกครั้ง เพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยขอยืนยันว่าการดำเนินงานจะเป็นไปตามข้อเท็จจริง
และยังได้ให้เจ้าหน้าที่สวนป่าพาส่วนราชการ และสื่อมวลชนขับรถตรวจสอบเส้นทางจักรยานระยะทางกว่า 17 กิโลเมตร ซึ่งพบว่าเส้นทางค่อนข้างสมบูรณ์ โดยจะมีเพียงบางจุดเท่านั้นที่เส้นทางแตกเป็นทางยาว แต่ไม่พบการชำรุดหรือเสียหายหนัก
“ขอให้ประชาชนและสื่อมวลชนสบายใจว่าเรื่องนี้จะมีการกำกับดูแลและติดตามการทำงานของหน่วยราชการเพื่อให้เกิดความยุติธรรมด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย และจะไม่มีการบดบังความเป็นจริงอย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่ประชาชนร้องเรียนว่า ถูกบุกรุกที่ดินหากมีเอกสารเท็จข้อจริงอย่างไรต้องมาพิสูจน์กัน เช่นเดียวกับกรณีการทำ Bike Lane เสร็จแล้วเปิดใช้งานไม่ได้ต้องมาหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไรและจะซ่อมแซมแก้ไขอย่างไร เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ตามเจตนารมณ์” ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าว
