ปฏิวัติ คำไหม กับการท้าชิง ‘มือหนึ่ง’ ทีมชาติไทย
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ยังไม่สามารถกลับมาลงสนามได้ ขณะเดียวกัน ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ก็จะอายุครบ 40 เมื่อถึงเดือนเมษายน 2024 ขณะที่ ฉัตรชัย บุตรพรม นั้นเพิ่งหายเจ็บจากการบาดเจ็บมาได้ไม่นาน
นี่คือรายชื่อผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ที่ขับเคี่ยวแย่งชิง ‘มือหนึ่ง’ กันหลายปี
เดิมที กวินทร์ มักจะได้รับมอบหมายให้ลงเฝ้าเสาบ่อยกว่าคนอื่นๆ แต่เมื่อใดก็ตามที่อดีตจอมหนึบ โอเอช ลูเวิน ต้องเลียบเคียงอยู่ข้างอัฒจันทร์ เบอร์สองที่มาแทนก็หาได้มีฝีมือแตกต่างกัน
ทั้ง ศิวรักษ์ และ ฉัตรชัย ถือเป็นผู้รักษาประตูที่เก่งกาจ รวมทั้งยังมีความเป็นผู้นำสูง แถมเมื่อใดที่มีพวกเขาตระหง่านระหว่างเสา บรรดาแนวรับก็สามารถอุ่นใจเสมอ
อย่างไรก็ตาม กวินทร์, ศิวรักษ์ และ ฉัตรชัย ต่างก็อายุเพิ่มlขึ้นตามกาลเวลา ดังนั้นจึงต้องมี ‘ตัวแทน’ ที่จะเข้ามาสานงานต่อในอนาคต
กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล, สมพร ยศ, สรานนท์ อนุอินทร์ และอาจจะรวมไปถึง กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก ในวัย 33 ปี ที่มักจะถูกเรียกตัวสู่ทำเนียบทัพช้างศึกเป็นประจำ
ทว่านาทีนี้ ปฏิวัติ คำไหม คือนายทวารที่น่าจับตามองมากที่สุดกับการ ‘ท้าชิง’ มือหนึ่งทีมชาติไทย
ผู้รักษาประตูชาวชลบุรี กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะกับการทำไปถึง 7 คลีนชีต ทั้งๆ ที่เล่นให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในฐานะนักเตะยืมตัวจาก แบงค็อก ยูไนเต็ด ช่วงเลกที่สองเพียง 15 เกม
สถิติดังกล่าวถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดลำดับที่ 4 ของ ไทยลีก 2022-23 ซึ่งมีเพียง ไมเคิ่ล ฟัลเคสการ์ด (14 เกม), กิตติพันธ์ แสนสุข (10 เกม) และ กัมพล (8 เกม) เท่านั้นที่เหนือกว่า
แต่ต้องอย่าลืมว่า ปฏิวัติ นั้นลงเฝ้าเสาเพียง 15 แมตช์ เท่านั้น
ด้วยผลงานที่โดดเด่นกับกิเลนผยอง ทำให้เขาถูก อเล็กซานเดร โพลกิ้ง เฮดโค้ชทีมชาติไทย เรียกตัวไปติดทัพช้างศึกอยู่เสมอ แถมยังได้รับความไว้วางใจให้เล่น 2 จาก 4 เกม หลังสุดอีกต่างหาก
มันบ่งชี้ได้ชัดเจนเลยว่ากุนซือเชื้อสายบราซิล-เยอรมัน คงจะปลื้ม ปฏิวัติ ไม่น้อยเลยทีเดียว
แม้ว่าในเกมกระชับมิตรที่แพ้ซีเรีย ไป 1-3 เขาจะจ่ายบอลพลาด จนเป็นที่มาของการเสียประตูแรก แต่มันคือ ‘บทเรียนอันล้ำค่า’ ที่จะต้องเก็บไปพัฒนาตัวเองในอนาคต ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมา นายทวารวัย 28 ปี ก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ปฏิวัติ เป็นผู้รักษาประตูหน่วยก้านดี ด้วยรูปร่าง 1.87 เมตร ลูกกลางอากาศจึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา นอกจากนี้ยังอ่านเกมได้เฉียบขาด ทำให้ช่วยลดภาระของกองหลังได้พอสมควร ส่วนปฏิกิริยาก็ไม่ธรรมดา หากไม่สุดตัวจริงๆ ก็ยากที่บอลจะผ่านมือของหมอนี่ไปได้
ทว่าที่เด่นชัดที่สุดคือการเล่นบอลกับพื้นที่เจ้าตัวทำได้โดดเด่นจริงๆ และมันเป็นคุณสมบัติที่จอมหนึบยุคใหม่พึงจะมี
การที่ แบงค็อก ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับ ฟัลเคสการ์ด ที่เฝ้าเสาให้ทีมมาถึง 4 ฤดูกาล ผลงานก็ไฉไล แถมซีซั่น 2022-23 ยังทำคลีนชีตเป็นอันดับ 1 ของลีก จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่เก่งกาจที่สุดของอาเซียน นั้นหมายความว่าพวกเขาคงเล็งเห็นอะไรในตัว ปฏิวัติ
แน่นอนว่าการกลับมาจากการยืมตัวของเขาย่อมต้องพบกับความกดดัน โทษฐานที่มือหนึ่งของบียูคนเก่าดันสร้างมาตรฐานไว้สูงลิ่ว
แต่มันคือความท้าทายที่นักฟุตบอลทุกคนต้องเจอ
ปฏิวัติ เองก็คงจะพบกับบททดสอบมากมายในอนาคตต่อจากนี้ ซึ่งนั่นจะเป็นตัวกลั่นกรองให้เขาพัฒนาขึ้นนั่นเอง
กวินทร์, ศิวรักษ์, ฉัตรชัย, กัมพล, สมพร, สรานนท์, กิตติพงษ์ และรวมไปถึงคนอื่นๆ คงจะต้องรักษามาตรฐานและรวมไปถึงพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก เพราะคู่แข่งจาก แบงค็อก นั้นน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ
จากนี้ไปทัพช้างศึกคงจะแก่งแย่งตำแหน่งผู้รักษาประตูกันอย่างเข้มข้นสุดๆ
โดยเฉพาะ ปฏิวัติ ที่พร้อมแล้วกับการท้าชิง ‘มือหนึ่ง’ ทีมชาติไทย ในระยะยาว
ที่มาของภาพ : Siamsport