ความเป็นจริงเช่นนี้เอง ทุกเทศกาลจึงมีผู้คนหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ส่วนใหญ่ที่ขอมักจะขอให้ค้าขายดี ไม่ได้หวังร่ำรวย ถูกหวย ขอให้ไม่เจ็บไม่จน สุขภาพดี กิจการเจริญรุ่งเรือง
“บ้านเราไหว้เซียนแปะกันมาตั้งแต่วัยรุ่นๆแล้วตามพ่อแม่ไปก็ยังเห็นความศรัทธาที่เพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ ความเจริญที่เพิ่มมากขึ้น สร้างอาชีพ สร้างงานอย่างมากมาย…มีท่านเราก็อยู่ได้ ท่านสอนให้เป็นคนดี มุมานะพยายาม ประสบความสำเร็จได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร”
พลิกปูมประวัติ “เซียนแปะ” หรืออีกชื่อที่รู้จักกันก็คือ “อาจารย์โง้ว กิมโคย”
ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นมีชื่อจริงว่า “นที ทองศิริ” และ “กิมเคย แซ่โง้ว” ชาวจีนโพ้นทะเลที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องพิธีกรรมตามศาสตร์ความเชื่อของจีนและในเรื่องเกี่ยวกับ “ฮวงจุ้ย”
กล่าวกันว่า ท่านได้ประกอบธุรกิจโรงสี อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี กระทั่งหลังเสียชีวิตลงแล้วได้รับการเคารพนับถือในหมู่ชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ปทุมธานี กรุงเทพฯ…
“เซียนแปะโรงสี” เกิดที่ตำบลเท้งไฮ้ราวปี 2440 อายุได้เพียง 10 ปี ได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทย แรกเริ่มได้ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ค้าข้าวเปลือก กระทั่งเริ่มตั้งตัวได้จึงร่วมหุ้นก่อตั้งโรงสีข้าวขึ้นมา ตั้งอยู่บริเวณปากคลองบางโพธิ์ล่าง…ปัจจุบันคือพื้นที่ตำบลบางเดื่อ อำเภอเมืองปทุมธานี
ครั้นอายุได้ 22 ปี “เซียนแปะโรงสี” ได้สมรสกับนางนวลศรี เอี่ยมเข่ง มีบุตรธิดา 10 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก 4 คน จากนั้นท่านก็ได้ตั้งกิจการโรงสีของตนเองขึ้นมาบริเวณคลองเชียงราก ใกล้กับวัดศาลเจ้า พร้อมทั้งได้รับ สัญชาติไทย และได้เปลี่ยนชื่อเป็น “นายนที ทองศิริ”
ฉากชีวิตท่านมีคุณูปการอย่างยิ่งยวดในการดำเนินงานของวัดศาลเจ้าแห่งนี้ ทั้งบูรณะซ่อมแซม จัดพิธีกรรมต่างๆในงานสำคัญต่างๆนับตั้งแต่ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นเพียงอาคารไม้เก่าๆ
จนเล่าลือกันอย่างหนาหูว่า…ท่านเป็นบุคคลที่มี “องค์” ของเจ้าพ่อวัดศาลเจ้าประทับในตน ด้วยมีอยู่หลายๆครั้งด้วยกันที่ท่านได้แสดงปาฏิหาริย์ในพิธีกรรมต่างๆจนปรากฏให้เห็นและก็ทำให้ผู้คนต่างเชื่อกันอย่างนั้นนั่นเอง
นอกจากนี้แล้ว “เซียนแปะโรงสี” ท่านยังเป็นบุคคลที่มีความเมตตาเป็นอย่างยิ่ง หยิบยื่นช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาด้านความเชื่อจีน จึงยิ่งผนวกความศรัทธาที่มีอยู่สั่งสมให้มีมากขึ้นเรื่อยๆเป็นเท่าทวีคูณ
จนกระทั่งในปี 2526 “เซียนแปะโรงสี” ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 85 ปี
0 0 0 0
“ต้นไม้มงคล…ว่านเศรษฐีวิลสัน” ปลูกบูชาตั้งเด่นอยู่ตรงทางเข้าร้าน แม้ว่าเจ้าของร้านจะยืนยันว่าไม่ได้เชื่อไม่ได้ขอ หากแต่มีการผูกผ้าสีเอาไว้โดดเด่น อีกทั้งได้ยินมาว่า…ลูกค้าบางคนก็บอกว่ามาแล้วถ่ายรูปไม่ติดก็มีนับรวมไปถึง…“ศาลาต้นตะเคียน” ที่มีการถวายชุดไทยโบราณ ดอกไม้ธูปเทียน ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้ก็มีเรื่องราวเหมือนปาฏิหาริย์ทำให้ลูกค้าบางคนมาทานอาหารที่ร้านแล้วปรากฏว่าถูกหวย จนต้องกลับมาที่ร้านอีกครั้ง คราวนี้ก็ซื้อน้ำแดงมาถวาย โดยบางคนก็ว่ามีความศรัทธาต่อเจ้าแม่ตะเคียนที่อยู่ถัดออกไปตรงลานจอดรถ
“เราก็เพิ่งจะรู้ว่าลูกค้า…มีความศรัทธาแล้วก็ขอหวย โชคดีถูกรางวัลได้เงินกลับมาก็เลยบอกให้รู้ เขาบอกว่ามีสัมผัสเรื่องทำนองอย่างนี้หลายอย่าง คนเก่าคนแก่ย่านนี้พอจะรู้ประวัติ เจ้าที่เจ้าทางที่นี่ค่อนข้างแรง ใครมาดีก็จะดี แต่ใครมาร้ายก็อาจจะกลายเป็นอีกเรื่องไปได้”
ปรากฏการณ์ข้างต้นทั้งหมดเหล่านี้ เกิดขึ้นที่ร้านอาหาร “บ้านริมน้ำ River View” ซอยบ้านกลาง 4/6 ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ภัทรวัต จริยาพันธ์ หรือ “น้ำเต้า” เจ้าของร้าน และ ชวนพิศ จะโนภาษ หรือ “เรน” ผู้จัดการร้าน เล่าให้ฟังอีกว่า ร้านอาหารอยู่ในบริเวณบ้านเก่าแก่ “จะโนภาษ”
วันเวลาผ่านมาถึงวันนี้…อายุ 120 ปีแล้ว
“ที่เห็นได้ยินได้ฟังมาว่า เสาไม้ต้นหนึ่งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ เรื่องทำนองอย่างนี้ใครที่ไม่เชื่อก็อย่าเพิ่งลบหลู่ หรือ…ค้านหัวชนฝา แต่ก็มีคนเจอมาแล้วกับตัว เวลาค่ำมืดดึกดื่น มีโอกาสเดินทางผ่านมองเข้ามาก็เห็นคนเดินอยู่ให้เห็น แต่เวลานั้นก็ไม่น่าจะมีใครแล้ว จึงเชื่อกันว่า…น่าจะเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติ”
แต่ในเวลาปกติทั่วๆไปก็บริการรับลูกค้ากันไปปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราทุกคนในบ้านเชื่อกันว่าท่านคอยปกปักรักษา คุ้มครองให้ผู้คนในเรือนชานปลอดภัย เมื่อบวกกับโชคลาภที่ลูกค้าบางท่านได้รับก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า เรื่องทำนองอย่างนี้ไม่มีอยู่จริง ก็คงขึ้นอยู่กับดวงใครดวงมัน โชคของใครก็ของใคร
และ…กับบางคนก็อีกนั่นแหละ มีเวลาน้อย เมื่อมาแถวนี้ก็แวะมาถวายน้ำแดงเฉยๆแล้วก็กลับ บอกว่าเคยได้โชคได้ลาภจากที่นี่ไป ถูกลอตเตอรี่ มีลาภใหญ่
ผู้คนละแวกนี้ที่รู้จะไม่ลบหลู่ ท้าทา ย… กับผู้คนในเรือนชานบ้านอาศัยก็ตั้งจิตระลึกนึกถึงปู่ย่า ตายาย ขอให้คุ้มครอง หมั่นทำความดีอยู่เสมอและต่อเนื่อง จะไม่ทำอะไรที่ไม่ดี ทำมาค้าขายราบรื่น มีโอกาสมาไหว้ “เซียนแปะ” แล้วมีเวลาก็แวะมาทานข้าวกันได้ที่ร้านอาหาร “บ้านริมน้ำ River View”… (อย่าตั้งใจมาขอโชค 555)
0 0 0 0
“ศรัทธา” กับ “ความรวย” เรื่องนี้ ดังตฤณ กล่าวไว้ว่า ถ้าทำสมาธิแล้วรวยขึ้นเป็นร้อยล้านทันตา…คนทั้งโลกคงหันมาทำสมาธิกันหมด ข้อเท็จจริงคือ หากทำสมาธิได้…ดวงจิตที่ได้มามีค่าสูงกว่าร้อยล้าน เพราะเป็นเหตุให้อยู่เย็นเป็นสุขแสนสุขแสนสบายทางใจ ชนิดที่ไม่ค่อยมีกันในบรรดาเศรษฐีร้อยล้าน
“ตลอดจนเป็นเหตุให้คิดดี น้อมศรัทธาไปในธรรมแห่งความพ้นไป”
“ชีวิตเรา”…จะมีเวลาเป็นช่วงๆที่จิตเข้าเขตอกุศลธรรมดำมืด เป็นทุกข์ โมโหหิว อึดอัดขัดใจทำอะไรไม่ได้ อยากด่าคน ไม่สนธรรมะ คำพูดดีๆไม่อยากฟัง…เมื่อเข้าเขตอกุศลธรรม แต่ละคนเกิดปฏิกิริยาต่างๆกันไป ตามเสบียงทางวิญญาณที่สั่งสมมา “ต้นทุนทางธรรม”…เฉพาะตัวเท่านั้น ที่ช่วยให้รอดเฉพาะตนได้จริง ทำกับคนอื่นอย่างไรคือสะสมธรรมะให้กับตัวอย่างนั้น…ให้ทานแก่คนอื่น เห็นใจคนอื่น…เพื่อความชุ่มชื่นเย็นใจแก่ตนเอง
“ศรัทธา”…นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้…“ลบหลู่”.
รัก-ยม