บางแสน ชลบุรี

บุกจับคณบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง ทุจริตโครงการอบรมทิพย์ จ.ชลบุรี

บุกจับคณบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง ทุจริตโครงการอบรมทิพย์ จ.ชลบุรี

เช้านี้ที่หมอชิต – ตำรวจ บก.ปปป. เข้าแจ้งข้อกล่าวหา คณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บางแสน หลังตรวจสอบพบทุจริตโครงการอบรมสัมมนาทิพย์เบิกงบค่าจ้างวิทยากร

ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป) สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) เดินทางมายังมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เข้าจับกุม คณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ และรักษาการหัวหน้าสำนักงานคณบดี

ในข้อหาความผิดฐาน เป็นผู้รักษาทรัพย์แต่กลับร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนโดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นพนักงานรักษาทรัพย์แต่กลับร่วมกันใช้อํานาจในหน้าที่โดยการทุจริต เป็นพนักงาน มีหน้าที่จ่ายทรัพย์ ร่วมกันจ่ายทรัพย์นั้นเกินกว่าที่ควรจ่าย เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น และเป็นพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ตำรวจได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มหาวิทยาลัยดังกล่าว ได้มีการจัดโครงการวิชาการขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมกว่า 47 โครงการ โดยมีบางโครงการเป็นการจัดทำในลักษณะต้องสงสัยว่า จะมีความไม่ชอบมาพากล หรือ มีการหาผลประโยชน์แอบแฝงเพื่อประโยชน์ส่วนตัว

จึงจัดกำลังพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนพบว่า มีจำนวน 8 โครงการที่พบความผิดปกติในการจัดทำหนังสือเบิกจ่ายเงินค่าดำเนินการ โดยเฉพาะการจัดทำโครงการบริการวิชาการ การจัดการทรัพยากรน้ำบาดาล ภายใต้วงเงินงบประมาณ 1,122,922.70 บาท ซึ่งจัดขึ้นช่วงระหว่างวันที่ 7 มกราคม 2561 ถึง วันที่ 16 มกราคม2561 (10 วัน) โดยมีคณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์เป็นหัวหน้าโครงการฯ กับ ประธานกรรมการ และมีรักษาการหัวหน้าสำนักงานคณบดี เป็นกรรมการและเลขานุการ

จากการตรวจสอบพบว่า มีการทำใบเบิกจ่ายค่าจัดจ้างวิทยากรชาวต่างชาติจำนวน 3 คน ในอัตราค่าจ้างคนละ 150,000 บาท รวมเป็นเงิน 450,000 บาท แต่เมื่อตรวจสอบประวัติการเข้า-ออก ราชอาณาจักรไทย ของวิทยากรทั้ง 3 คน กลับพบว่า มีการเข้ามาในประเทศ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2560 และออกจากราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 และภายหลังไม่พบข้อมูลการเข้าราชอาณาจักรไทยอีกเลย ซึ่งเป็นคนละช่วงเวลากับที่มีการจัดทำโครงการดังกล่าว รวมถึงไม่มีการจัดบรรยายผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์

นอกจากนี้ การตรวจสอบอย่างละเอียดยังพบว่า ไม่มีการจัดดำเนินการอบรมสัมมนาตามที่มีการกล่าวอ้าง ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นการทุจริตเงินงบประมาณ จึงนำมาสู่การเชิญตัวทั้งสองมาแจ้งข้อกล่าวหาในวันนี้ จากการสอบสวน ทั้งสองคนให้การปฏิเสธ เบื้องต้นจึงนำตัวไปทำบันทึกพิมพ์ลายนิ้วมือ รับทราบข้อกล่าวหา ที่ สภ.แสนสุข ก่อนปล่อยตัวกลับไป โดยจะนัดหมายให้มาเข้าพบเจ้าหน้าที่อีกครั้งในภายหลัง

เรื่องล่าสุด