นักวิชาการสิ่งแวดล้อมยันเหตุปลาตายเกลื่อนหาดบางแสนและหาดอื่นๆ ใน จ.ชลบุรี เกิดจากแพลงก์ตอนบลูมไม่ใช่คราบน้ำมัน
เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ศูนย์ข่าวศรีราชา - นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ สำนักทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 จ.ชลบุรี ชี้สาเหตุปลาตายเกลื่อนหาดบางแสน เกิดจากแพลงก์ตอนบลูมที่ทำให้ออกซิเจนในน้ำต่ำ ยันไม่ใช่จากคราบน้ำมันในทะเล
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (11 ก.ย.) สำนักทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 จ.ชลบุรี ได้จัดหารือประเด็นแพลงก์ตอนบลูม หรือปรากฏกาณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี ที่เกิดขึ้นทั้งที่ชายหาดบางแสน บางพระ และพัทยา จนทำให้ปลาหลากหลายชนิดตายเกลื่อนชายหาด โดยมี นายสัญชัย ชนะสงคราม นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ชลบุรี
พร้อมผู้แทนจากกรมเจ้าท่าชลบุรี สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 13 ชลบุรี ศูนย์วิจัย ทช. ศร.ชล ภาคที่ 1 และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 จ.ชลบุรี
โดย นายสัญชัย ชนะสงคราม นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ เผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดการณ์ว่าปลาตายจำนวนมากเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เรียกว่า แพลงก์ตอนบลูม ที่ทำให้น้ำทะเลเป็นสีเขียวและน้ำมีกลิ่นแรง และยังทำให้ค่าออกซิเจนในน้ำต่ำ ส่งผลให้ปลาขาดออกซิเจนและตายเป็นจำนวนมาก
“ขณะนี้ในพื้นที่บางพระ น้ำทะเลยังมีสีเขียวอยู่มากแต่ไม่พบผลกระทบที่แนวปะการัง และไม่พบคราบน้ำมันจากการสุ่มเก็บตัวอย่างและลงพื้นที่ รวมทั้งตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเลอย่างต่อเนื่อง และจะทำเช่นนี้ไปอีกไม่ต่ำกว่า 6 เดือนเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว” นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ กล่าว
ทั้งนี้ แพลงก์ตอนบลูมที่เกิดขึ้นไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เพียงแต่จะทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีเขียวและมีกลิ่นเหม็นคาวรุนแรง นักท่องเที่ยวจึงไม่ควรลงเล่นน้ำเนื่องจากบางรายอาจมีอาการคันและระคายเคืองได้ ส่วนอาหารทะเลสามารถจับและรับประทานได้ตามปกติ
ส่วนแนวทางการแก้ไขนั้นนักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการให้ความเห็นว่า ควรให้ความรู้เกี่ยวกับแพลงก์ตอนบลูมต่อประชาชน และแก้ปัญหาที่ต้นเหตุด้วยการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียอย่างจริงจัง