นักวิจัยเผย อาหารของธนากร “ยิ่งใหญ่ ยันมื้อสุดท้าย”
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม เฟชบุ๊ก Thailand Tiger Project DNP โดยนักวิจัยเสือโคร่งสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้โพสต์ถึงเหตุการณ์สุดท้าย ก่อนที่ เสือธนากร หรือ เฮียธนา เสือโคร่งที่นักวิจัยติดเครื่องหมายเพื่อศึกษาถึงเรื่องการใช้ชีวิตได้ตายลงไปในวัย 11 ปี โดยนักวิจัยได้โพสต์เอาไว้ดังนี้
“ยิ่งใหญ่ ยัน มื้อสุดท้าย”
สองสัปดาห์สุดท้าย..ของลมหายใจธนากรเป็นการใช้ชีวิตลัดเลาะตามแนวเขตพื้นที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านที่หวงแหนและแสนอบอุ่น ถ้าเทียบกับมนุษย์คงเป็นความรู้สึกคล้ายกับการที่เดินเลาะรั้วบ้านแสนสุขที่เคยใช้ชีวิตกับครอบครัว แต่ในวันหนึ่ง….มีเหตุจำเป็นต้องเปลี่ยนมือเพราะมันไปต่อไม่ไหว
การเดินเลาะลัดริมขอบอดีตบ้าน ใช่ว่าเพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก ในช่วงต้นๆ ของการเข้าสู่โหมดชีวิต “เสือไร้บ้าน” ธนากรได้จรผ่านไปในทางนั้นหลายรอบ หนึ่งในหลายรอบของการลัดเลาะได้ล่วงรู้ถึงนุดวิจัย ด้วยคลิปที่ได้มาปรากฏว่า เฮีย เลือกที่จะเดินปรากฏตัวบนทางด่านหลัก ไล่หลังเจ้าของบ้านตัวใหม่ราวชั่วโมง ซึ่งบ่งบอกได้ว่าเลือก เลี่ยงการเผชิญหน้าเป็นทางออกของการใช้ชีวิต แต่ “เลี่ยง” ไม่ใช่ “ถอย” ซึ่งเป็นวิถีที่เจ้าของใหม่ซึ่งก็คือ “ลูกเขย” ต้องการให้ พ่อตาต้อง เลือก!
สองสัปดาห์แห่งการชั่งใจของเฮียตามแนวขอบบ้านเดิม ที่มีแนวร่วมอารักขาอย่างดี ท้ายสุด เฮียตัดสินใจหันหน้ากลับเข้าสู่ทิศตะวันตกในบริเวณที่ตัวเองคุ้นชินและคงคิดถึงมาก เพราะเป็นการเดินตัดตรงดิ่งเข้าพื้นที่ปลายทางแบบไม่มีการแวะพักระหว่างทาง อีกนัยยะคงแปลได้ถึงการตัดสินใจที่มีความมุ่งมั่น เมื่อถึงปลายทาง ก็จัดวัวแดงตัวผู้ใหญ่ มาชดเชยพลังชีวิตที่ร่อยหรอในจังหวะที่ใช้เวลาลัดเลาะริมรั้วบ้านเดิม
เฮียวนเวียนกับอาหารมื้อใหญ่แบบเปี่ยมล้นสุขอยู่สามวัน ด้วยว่าปรากฏร่องรอยการนอน และการลากบางชิ้นส่วนไปนอนเล็มกินในที่ร่มรื่น ที่ไม่อาจแปลความเป็นอย่างอื่นได้ แต่ในความสุขทำให้เฮียลืมคำนึงถึงเจ้าถิ่นหรือไม่ ไม่แน่ใจ หรือว่าเฮียตั้งใจส่ง “สารมอบตัว” ถึงเจ้าถิ่นก็ไม่อาจหยั่งใจเฮียได้ เพราะอาหารมื้อใหญ่เมื่อเวลาผ่านไปกลิ่นหอมหวนชวนให้สงสัยใคร่รู้ ได้ไปปะทะเข้ากับจมูกเจ้าถิ่น ถ้าเป็นภาษามนุษย์สื่อให้เข้าใจง่าย คือเกิดการ “เรียกแขก” มาร่วมโต๊ะ แต่ตั้งใจหรือไม่ คงเป็นประเด็นขบคิด
ถ้าดูจากสภาพหลังเหตุการณ์ผ่านพ้น สื่อได้ว่า เฮียไม่มีความต้องการที่จะ สู้ หรือ ตอบโต้ เพราะร่องรอยที่สำรวจพบไม่ได้มีนัยยะที่สื่อถึงการไม่ยอมแพ้ ในทางกลับกัน มันกลับบอกได้ เฮีย “ยอม” เพื่อให้ได้อยู่และจบสถานะ “ไร้บ้าน” ในบ้านที่ที่เจ้าตัวประสงค์จะทอดลมหายใจสุดท้ายที่ตรงนั้น
เมื่อเป็นประสงค์สุดท้ายของเฮีย จึงได้ตอบสนองด้วยการฝากร่างของเฮียไว้ในอ้อมกอดของแม่ธรณี ให้ได้ปกปักรักษา เป็นการตามใจเฮียครั้งสุดท้ายหลังจากที่ขัดใจกันมาเป็นเวลาพอสมควร ซึ่งเป็นไปตามคำกล่าวของใครบางคนที่ว่า “มนุษย์เราเมื่อป่วยไข้เจียนตายที่โรงพยาบาลยังอยากกลับมาสูดลมหายใจสุดท้ายที่บ้าน”
ในการเต็มใจจากไป ก็ได้แต่หวังใจว่า ผลแห่งการตัดสินใจจะทำให้ลูกเขยได้ดูแล “ผกา” อนุสรณ์ดอกไม้แห่งความรักระหว่างแม่เอื้องและเฮียธนากร ให้มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบสามารถดำรงเลือดเนื้อบางส่วนของเฮียไว้ได้สืบต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
วงการเสือ เศร้า นักวิจัยแจ้ง “เฮียธนากร” ลาโลกแล้ว ในวัย 9 ปี
รำลึก “ธนากร” จอมเสือโคร่ง ตำนานป่าห้วยขาแข้ง
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่