พี่ชายร้องตำรวจสายตรวจชักปืนยิงน้องชาย หลังออกไปขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวริมหาดบางแสน ตำรวจอ้างยิงลงพื้นเพราะกลุ่มวัยรุ่นเร่งเครื่องจะพุ่งชน
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพน้องชายได้รับบาดเจ็บที่เท้าซ้าย พร้อมระบุว่า ช่วงกลางคืนวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา น้องชายออกไปขี่มอเตอร์ไซค์เล่นกับเพื่อนที่ริมหาดบางแสน และถูกตำรวจสายตรวจจับ ไปกระทืบในห้องน้ำ และยังใช้ปืนยิงที่ข้อเท้า แบบนี้ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่
หลังเป็นกระแสข่าวดังในโซเชียล ทางตำรวจ สภ.แสนสุข ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ สิบตำรวจเอกชนณพงศ์ วิลาศ และสิบตำรวจตรีศุภกิจ ผันผาย เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.แสนสุข ได้ออกตรวจดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ พบกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่ง 6 คัน ขับขี่บนถนนเลียบชายหาดบางแสน มีลักษณะเสียงดังก่อความเดือดร้อนรำคาญ
ต่อมาเจ้าหน้าที่สายตรวจทั้ง 2 นาย พบรถเวสป้าสีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ลักษณะดัดแปลงสภาพ (ท่อดัง) หนึ่งในกลุ่มรถดังกล่าว จอดอยู่บริเวณร้านสะดวกซื้อ จึงเข้าตรวจสอบแต่ไม่พบผู้ครอบครอง จากนั้นได้มีรถมอเตอร์ไซค์อีกคันเข้ามาจอด คือรถ ซ้อนท้ายกันมารวม 6 คน
โดยคนซ้อนท้ายทราบชื่อภายหลังว่า นายนันท์ตพงษ์ อายุ 18 ปี (คนเจ็บ) ได้ลงจากรถแล้วมาขึ้นคร่อมรถเวสป้า พยายามจะขี่ออกไป เจ้าหน้าที่สายตรวจทั้ง 2 นาย จึงรีบเข้าไปตรวจสอบ ทันใดนั้นรถยามาฮ่า พยายามจะขี่รถพุ่งมาชน
ทำให้สิบตำรวจตรีศุภกิจ ได้ยิงปืนลงพื้น 1 นัด เพื่อระงับยับยั้งเหตุ ซึ่งรถยามาฮ่า ได้ขี่หลบหนีไป ส่วนคนเจ็บและรถเวสป้า เจ้าหน้าที่ได้พามายัง สภ.แสนสุข พบมีบาดแผลบริเวณข้อเท้ามีเลือดออก จึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และประสานกู้ภัยนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนรถได้ตรวจยึดตามกฎหมาย เนื่องจากตรวจสอบพบว่าชื่อไม่ตรงกับผู้ครอบครองรถ
กรณีที่เกิดขึ้น ยืนยันเป็นการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ในการกวดขันจับกุมรถผิดกฎหมาย ส่วนการใช้อาวุธปืนระงับเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นไปตามหลักยุทธวิธีหรือไม่ รวมทั้งบาดแผลบริเวณข้อเท้าของผู้บาดเจ็บ ต้องรอผลตรวจวินิจฉัยของแพทย์ว่าเกิดจากสาเหตุใด
ล่าสุดหลังตำรวจออกเอกสารชี้แจง ทางนายนันท์ตพงษ์ คนเจ็บ และนายบัญชา พี่ชาย เดินทางไปที่ สภ.แสนสุข เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกไม่พอใจกับข้อมูลที่ตำรวจออกเอกสารชี้แจง โดยนายนันท์ตพงษ์ บอกว่า คืนเกิดเหตุตนและกลุ่มเพื่อนขี่รถมาเที่ยวบริเวณริมหาดบางแสน ขณะเกิดเหตุ ตำรวจสายตรวจขี่รถไล่จับกลุ่มพวกตน ทำให้เพื่อนประมาณ 4-5 คัน ขี่รถหนี เพราะกลัวจะถูกจับเรื่องแต่งรถ ท่อดัง
ส่วนตนเองไม่ได้ขับหนี จอดรถไว้หน้าร้านสะดวกซื้อ และข้ามฝั่งไปเดินเล่นริมหาดกับเพื่อนอีกส่วนหนึ่ง พอตอนจะกลับตนเองจึงซ้อนท้ายรถเพื่อนที่มาส่ง จังหวะที่ตนกำลังขึ้นคร่อมรถเสียบกุญแจยังไม่ทันได้สตาร์ทรถ ตำรวจก็มาวิ่งไล่จับกลุ่มเพื่อนที่มาส่งตน พวกเพื่อนจึงเร่งเครื่องบิดหนี ยืนยันว่า ไม่ได้จะขี่ชนตำรวจ แล้วได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และรู้สึกเจ็บที่ข้อเท้า พบก้มลงไปดูก็เห็นเลือดไหลไม่หยุด พอตำรวจเห็นก็เดินมาใส่กุญแจมือ พร้อมกับซ้อมทำร้ายร่างกายรอบหนึ่ง ก่อนจะคุมตัวมาที่ตรงพักและซ้อมอีกรอบ เพื่อให้ตนเองบอกว่า ถูกเหล็กบาด ไม่ได้ถูกกระสุนตำรวจ
ขณะที่นายบัญชา พี่ชาย ยืนยันว่า คดีนี้ตนเองและน้องชาย จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะมองว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ แม้ตำรวจจะเรียกมาไกล่เกลี่ย ขอโทษ มอบกระเช้า หรือ มอบเงินเยียวยา ก็ไม่ขอรับ ขณะเดียวกันตนเองได้นำหลักฐาน ลักษณะคล้ายหัวกระสุน ที่หมอได้ผ่าตัดออกจากข้อเท้าของน้องชาย มาให้ตำรวจพิสูจน์ด้วย
ล่าสุดตำรวจ สภ.แสนสุข เรียกพี่ชายคนเจ็บและคนเจ็บเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาพูดคุยกัน ประมาณ 2 ชั่วโมง ปรากฏว่าทางคนเจ็บไม่ติดใจเอาความและยอมรับคำขอโทษจากทางตำรวจ พร้อมทั้งให้การอีกว่าไม่ได้มีการทำร้ายเป็นการเข้าใจผิด ส่วนเศษโลหะที่ฝังเข้าไปในข้อเท้า ตรวจสอบแล้วไม่ใช่ชิ้นส่วนของหัวกระสุน ส่วนเรื่องคดีให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/RqnPw-uq2rA