ศูนย์ข่าวศรีราชา – ตำรวจ สภ.แสนสุข ตามรวบคนร้ายขี่ จยย. ตะเวนลักทรัพย์ในโครงการหมู่บ้านหรู จ.ชลบุรี ก่อนเข้าฉกทรัพย์บ้านนายแพทย์โรงพยาบาลชื่อดังกวาดทรัพย์สินกว่า 3 ล้านบาท สารภาพเพิ่งพ้นโทษหางานไม่ได้สุดท้ายก่อเหตุซ้ำหลังเคยเข้าเรือนจำมาแล้วเมื่อปี 62

วันนี้ ( 27 พ.ค.) เจ้าตำรวจ สภ.แสนสุข ได้จับกุม นายวิสูตร สุริโย อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ซึ่งก่อเหตุขโมยทรัพย์สินภายในบ้านพักของนายแพทย์โรงพยาบาลชื่อดังซึ่งอยู่ในโครงการบ้านแห่งหนึ่ง พร้อมยึดของกลางเป็นทรัพย์สินประกอบด้วย นาฬิกาข้อมือ 17 เรือน ,พระเครื่อง 39 องค์ ,ตะกรุด 2 ดอ และทรัพย์สินอื่นๆ มูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท

พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีขาว-ดำ ที่ใช้ในการก่อเหตุเสื้อผ้าและหมวกที่ผู้ต้องหาสวมใส่ในวันก่อเหตุ

ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.45 น.วันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา และกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านสามารถจับภาพคนร้ายเป็นชายขี่รถจักรยานยนต์สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเข้ามาวนเวียนอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้านหลายรอบก่อนจะจอดรถจักรยานยนต์หลบไว้และเดินสำรวจบ้านหลายหลัง

กระทั่งถึงบ้านที่เกิดเหตุที่คนร้ายเห็นว่าไม่มีคนอยู่ภายในบ้านเนื่องจากไม่มีรถยนต์จอดอยู่ จึงทำทียืนหน้าบ้านก่อนจะเลื่อนประตูรั้วออก และเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ก่อนจะเดินออกมาขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

และจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า คนร้ายคือ นายวิสูตร สุริโย จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับและยังพบว่าเคยมีประวัติก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวในหมู่บ้านแห่งหนึ่งเมื่อปี 2562 จนถูกจับดำเนินคดีและเพิ่งพ้นโทษมาได้เมื่อเดือน ก.ย. 2564

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน ทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก้การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้น ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และอ้างว่าตนเองเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นานและหางานไม่ได้เนื่องจากมีอายุมาก จึงก่อเหตุดังกล่าว

ขณะที่ ผศ.นพ.ยศศักดิ์ สกุลไชยการ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาตร์ยูโรวิทยา โรงพยาบาลสมิติเวช ชลบุรี เจ้าของบ้านเผยว่าตนเองกังวลเรื่องความปลอดภัยของตนเองและคนในหมู่บ้านเนื่องจากแม้จะมีกล้องวงจรปิดและ รปภ. เฝ้าอยู่ตลอดเวลาแต่คนร้ายยังเข้ามาก่อเหตุได้

พร้อมยังได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และยังฝากถึงฝ่ายบริหารโครงการหมู่บ้านอยากกำชับเจ้าหน้าที่เข้มงวดตรวจตราหมู่บ้านอย่างเข้มงวดทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีกครั้ง