วันนี้ (4 ก.ย.2566) ความคืบหน้ากรณีน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ จ.ชลบุรี เป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร โดยขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบปริมาณน้ำมันดิบ ที่ไหลลงสู่ทะเลและผลกระทบ
เจ้าหน้าที่เจ้าท่าภูมิภาค สาขาชลบุรี ร่วมกับ พนักงานของ บริษัท ไทยออยล์ พยายามใช้สารเคมี ฉีดพ่นลงไป บริเวณที่ปิดล้อมคราบน้ำมันเอาไว้ หลังจากเกิดเหตุ น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเล บริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี
อ่านข่าว “ไทยออยล์” แจงปมน้ำมันดิบรั่วกลางทะเล-เร่งกำจัดคราบน้ำมัน
คราบน้ำมันที่รั่วลงทะเล จ.ชลบุรี
คราบน้ำมันที่รั่วลงทะเล จ.ชลบุรี
ทิศทางน้ำมันรั่วเข้าเกาะท้ายค้างคาว
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดี กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า จากรายงานพบว่ามีคราบน้ำมันดิบชนิด ARUB Light Crude รั่วไหลลงทะเลประมาณ 50-70 ลูกบาศก์เมตร หรือราว 45,000 ลิตร ซึ่งอยู่ใน ระดับที่ 2 (Tier II) รั่วไหลมากกว่า 20-1,000 ลิตร
โดยบริษัทฯ ขออนุญาตใช้สารเคมีขจัดคราบน้ำมัน (Dispersant) ชนิด Super Dispersant 25 จำนวน 6,000 ลิตร ซึ่งอนุญาตให้ใช้สารเคมี 1 ส่วนต่อปริมาณน้ำมัน 10 ส่วน
แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ (OILMAP) คาดว่าเคลื่อนตัวของคราบน้ำมันขึ้นฝั่งช่วงวันที่ 4-10 ก.ย.นี้ บริเวณเกาะท้ายค้างคาว อ่าวอุดม และอาจรวมถึงหาดวอนนภา จ.ชลบุรี
แบบจำลอง OILMAP คาดว่าเคลื่อนตัวของคราบน้ำมันขึ้นฝั่งช่วง 4-10 ก.ย.นี้ บริเวณเกาะท้ายค้างคาว อ่าวอุดม และอาจรวมถึงหาดวอนนภา จ.ชลบุรี
แบบจำลอง OILMAP คาดว่าเคลื่อนตัวของคราบน้ำมันขึ้นฝั่งช่วง 4-10 ก.ย.นี้ บริเวณเกาะท้ายค้างคาว อ่าวอุดม และอาจรวมถึงหาดวอนนภา จ.ชลบุรี
ห่วงพัดเข้าฝั่งท่องเที่ยวท้ายเกาะค้างคาว-หาดวอนนภา
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า หากดูเป็นรายวันจากทำแบบจำลอง พบว่าประมาณ 23.00 น.คืนนี้ จะมีคราบน้ำมัน เข้าที่ตอนใต้ของเกาะค้างคาว ก่อนที่ช่วงเย็นของวันที่ 7 ก.ย.นี้ คราบน้ำมันจะเข้าที่ชายทะเลอ่าวอุดม จากนั้นเที่ยงวันที่ 8 ก.ย.นี้ จะเข้าที่เกาะลอย อ.ศรีราชา และวันที่ 10 ก.ย.นี้ เวลาประมาณ 15.00 น.คราบน้ำมันจะกระจายตัวถูกพัดเข้าหาฝั่งชายหาดบางแสนไปจนถึงอ่าวอุดม เป็นระยะทางประมาณ 10 กม.
อ่านข่าว SPRC ออกแถลงการณ์ยันน้ำมันรั่วแค่ 47,000 ลิตร
ทั้งนี้ คพ.ได้ประสานไปยังจ.ชลบุรี และหน่วยงานเจ้าของพื้นที่เตรียมเฝ้าระวังและประเมินผลกระทบแล้ว โดยกรมเจ้าท่าอยู่ระหว่างการเตรียมการจัดตั้งศูนย์ป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน รวมทั้งมีการส่งทีมเจ้าหน้าที่ออกสำรวจและการเก็บตัวอย่างน้ำและน้ำมันเพื่อวิเคราะห์และประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ปีนี้เกิดปัญหาน้ำมันรั่ว 3 ครั้งแล้ว ล่าสุดเกิดปัญหาที่ชายหาดท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต และล่าสุดที่ จ.ชลบุรี แม้จะไม่เท่ากับปีก่อนที่เคยรั่วลงทะเลถึง 400,000 ลิตรแต่ผลกระทบมันวงกว้างทั้งเรื่องท่องเที่ยว ทรัพยากรสัตว์น้ำทะเล และชายหาดท่องเที่ยว
อ่านข่าว ย้อนรอย “ทะเลสีดำ” 45 ปีน้ำมันรั่วในทะเลไทย 235 ครั้ง
เมื่อถามว่าจะมีการฟ้องทางแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อมหรือไม่ นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า ขณะนี้ขอให้การเก็บกู้คราบน้ำมันที่จะขึ้นฝั่ง และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้สารสลายคราบน้ำมันก่อนว่าจะมีวงกว้างมากน้อยแค่ไหน และให้เจ้าของพื้นที่เป็นเจ้าภาพหลักในการฟ้องร้อง
สำหรับขั้นตอนการเก็บกู้คราบน้ำมัน ตามแผนอุบัติภัยพบว่า ระดับที่ 2 (Tier II) รั่วไหลมากกว่า 20-1,000 ลิตร การขจัดคราบน้ำมันต้องร่วมมือกันระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐ ตามแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ และต้องแจ้งให้กรมเจ้าท่าทราบก่อน
อ่านข่าว
ด่วน! น้ำมันรั่วซ้ำทะเลมาบตาพุด 5,000 ลิตร
คพ.จี้ตำรวจกางตัวเลขน้ำมันรั่วเรียกฟ้องแพ่ง-กากของเสีย 69 ตัน