บางแสน ชลบุรี

คอลัมน์การเมือง – ชูท่องเที่ยวเลี้ยงประเทศ

คอลัมน์การเมือง – ชูท่องเที่ยวเลี้ยงประเทศ

ผู้นำรัฐบาลไทยคนแรกที่เห็นความสำคัญของการสร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวและโรงแรมคือรัฐบาลของจอมพลสฤษดิ์ นะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 11 ที่มีอำนาจจากการรัฐประหารเป็นผู้ที่เห็นความสำคัญของการท่องเที่ยวได้ให้รัฐบาลจัดตั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะได้เดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาได้เห็นชาวตะวันตกทำรายได้จากการท่องเที่ยวได้เม็ดเงินปีละเป็นจำนวนมหาศาลเมื่อกลับมาได้สร้างสถานที่ท่องเที่ยวในไทยที่สำคัญ 2 จุด ในขณะนี้ ได้แก่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา กับเทศบาลเมืองบางแสน จังหวัดชลบุรี  

หลังจากนั้นมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในไทยก็เฟื่องฟูเจริญก้าวหน้าตามลำดับทุกๆ ภาคในประเทศจนเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญในอันดับต้นๆ ของไทย สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ในปี 2562ที่ผ่านมาไทยก้าวขึ้นมาอยู่อันดับท็อปไฟว์ของโลกมีเม็ดเงินมหาศาลจากการท่องเที่ยวกว่า 3 ล้านล้านบาท และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทะลักเข้าไทยสูงถึง 40 ล้านคน ในปีนั้น ต่อมาปี 2563-2564ภาวะเศรษฐกิจไทยทรุดจากโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้รายได้เข้าประเทศลดลง 

ปัจจุบันปลายปี 2565 การท่องเที่ยวทำรายได้คืนมาแล้วเนื่องจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ได้ผลักดันโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”เป็นจุดเริ่มต้นตามนโยบายเปิดประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ขยายออกไปยังพื้นที่อื่นๆ และนำมาสู่การเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบในปัจจุบัน ส่งผลให้มีการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ 

ขณะนี้ธุรกิจท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะผลสำเร็จที่เกินความคาดหมาย จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในปี 2565 ครบ 10 ล้านคน เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา 10 เดือนแรก มีข้อมูลรายได้จากจังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุด 10 อันดับ คือ ภูเก็ต 127,927 ล้านบาท ชลบุรี  13,283 ล้านบาท สุราษฎร์ธานี 7,586 ล้านบาท เชียงใหม่ 4,246 ล้านบาท สงขลา 3,602 ล้านบาท พังงา 2,582 ล้านบาท เชียงราย 1,585 ล้านบาท กระบี่ 1,408 ล้านบาทประจวบคีรีขันธ์ 854 ล้านบาท หนองคาย 526 ล้านบาท 

จังหวัดที่มีชาวต่างชาติมาเยือนมากที่สุดคือ ภูเก็ต 2,329,894 คน ชลบุรี 975,026 คน สุราษฎร์ธานี 606,812 คนสงขลา 581,808 คน เชียงใหม่ 496,111 คน สมุทรปราการ 321,390 คน พังงา 317,353 คน หนองคาย 231,243 คน กระบี่ 217,526 คน เชียงราย 148,683 คน นักท่องเที่ยวรายสัญชาติที่เดินทาง 10 อันดับ ได้แก่ มาเลเซีย 1,291,381 คน อินเดีย 698,757 คน สิงคโปร์ 381,940 คน ลาว 345,709 คน เวียดนาม 340,670 คน เกาหลีใต้ 316,240 คน สหราชอาณาจักร 291,753 คน สหรัฐอเมริกา 283,211 คน กัมพูชา 252,862 คน เยอรมนี 235,596 คน 

ประชาชนรับรู้ถึงผลสำเร็จของมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว สามารถดูดเม็ดเงินจากต่างชาติเข้ามาหมุนเวียนในเศรษฐกิจ กระจายรายได้ไปยังพื้นที่ต่างๆ ฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทยเข้มแข็งและเติบโตอย่างรวดเร็วปีหน้า 2566 นักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลเข้ามามากกว่า 25 ล้านคน และปี 2567 เม็ดเงินจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวของปี 2565 อย่างแน่นอน  

ตัวอย่างความสำเร็จของการท่องเที่ยวเลี้ยงประเทศได้นั้นในอดีตราชอาณาจักรสเปนยุคก่อนมหาสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดสงครามกลางเมือง 5 ปี ยังผลให้ฐานะทางด้านเศรษฐกิจและสังคมพังทลายอย่างร้ายแรงชาติแตกแยกเพราะการเมืองที่ประชาชนจับอาวุธออกมาเข่นฆ่ากันเองจนจอมพลฟรันซิสโก ฟรังโก ต้องลุกขึ้นมาจัดการเบ็ดเสร็จกวาดล้างพวกสามกีบป่วนเมือง

ฟรังโกไม่ร่วมสงครามโลกใช้เวลาฟื้นฟูชาติหลังสงครามสงบเขาใช้นโยบายท่องเที่ยวนำสเปนก้าวสู่ความมั่งคั่งมั่นคงยั่งยืนทำให้สเปนมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมากจากซอฟต์ พาวเวอร์ เช่น แหล่งท่องเที่ยว, อาหาร, ศิลปวัฒนธรรมและฟุตบอล เช่น เรอัล มาดริด และบาร์ซา ทำให้ประเทศมีรายได้มหาศาลนำพาสเปนเป็นชาติชั้นนำของยุโรปขึ้นมาเทียมหน้าเทียมตาสหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี และรัสเซีย ได้ในที่สุดเช่นเดียวกับนโยบายที่พลเอกประยุทธ์ได้กระทำเช่นเดียวกัน

เรื่องล่าสุด