Site icon บางแสน

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจุดประกายความเชื่อมั่นและความหวังใหม่

image1-8-728x485.jpg

(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้คนแห่เที่ยวเมืองโบราณเจี้ยนชางในเมืองซีชาง มณฑลซื่อชวนทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน วันที่ 27 ม.ค. 2023)

โดย ชามิม ซาคาเรีย (Shamim Zakaria)

ในขณะที่วงล้อแห่งชีวิตและการทำงานกลับมาหมุนในจังหวะที่รวดเร็วอีกครั้ง เศรษฐกิจของจีนก็กลับมาฟื้นตัวอย่างคึกคักในช่วงต้นปี

โดยเฉพาะปีนี้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับประเทศจีนซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก เนื่องจากเป็นการวางรากฐานสำหรับวิถีการเติบโตในอนาคตหลังจากที่ประเทศได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดในการต่อสู้กับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

ด้วยเหตุนี้ การประชุม “สองสภา” (Two Sessions) ประจำปี ซึ่งเปิดฉากขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงปลุกความตื่นเต้นอันสัมผัสได้ชัดเจนและมุมมองเชิงบวกที่มีต่ออนาคตของประเทศ ขณะมีการประกาศเป้าหมายการพัฒนาชุดใหม่สำหรับปี 2023 ในรายงานการปฏิบัติงานของรัฐบาล

ท่ามกลางความคึกคักเฟื่องฟูของเศรษฐกิจ จีนได้ตั้งเป้าการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่น่าประทับใจไว้ที่ราว 5% ในปี 2023 พร้อมให้คำมั่นว่าจะสร้างงานในเขตเมืองประมาณ 12 ล้านตำแหน่ง และรักษาอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ราว 3%

เรื่องราวของมนุษย์ที่อยู่เบื้องหลังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ตั้งแต่ภาพที่น่าประทับใจตามท้องถนนไปจนถึงการคาดการณ์ทางการเงินและแนวโน้มการเติบโตที่สดใส จีนได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงอันโดดเด่นหลังจากที่ประเทศได้ปรับปรุงวิธีการรับมือโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันที่จริงแล้ว ผมรู้สึกถึงการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีนมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้น

ความทรงจำเมื่อเดือนธันวาคม 2022 ยังคงแจ่มชัดอยู่ในใจของผม ขณะที่ผมเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติกรุงปักกิ่ง ผมสังเกตเห็นว่าถนนเกือบจะว่างเปล่า ประเทศจีนกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างฉับพลัน และดูเหมือนประชาชนสมัครใจเลือกที่จะอยู่แต่ในบ้าน แม้ว่ามาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ส่วนใหญ่จะถูกยกเลิกไปแล้วก็ตาม

ภาพตัดมาอย่างรวดเร็วที่เดือนกุมภาพันธ์ 2023 ขณะที่ผมกลับมายังปักกิ่งภายหลังวันหยุดอันแสนสุข ในขณะนี้ถนนหนทางเต็มไปด้วยเสียงจ้อกแจ้กจอแจ และภาพของผู้คนที่ออกมาใช้ชีวิตประจำวัน ท่ามกลางบรรยากาศที่น่าตื่นเต้นและอบอวลไปด้วยโอกาสของความเป็นไปได้

นี่ต่างหากคือปักกิ่งที่ผมคุ้นเคย!

เป้าหมายการเติบโตต่อปีที่จีนได้กำหนดไว้นั้น เป็นมากกว่าตัวเลข มันคือเรื่องราวที่สะท้อนความรู้สึกจากใจจริงของมนุษย์ อย่างเช่น เจ้าของร้านอาหารใกล้บ้านของผมซึ่งแสดงความกระตือรือร้นที่จะกลับมาเปิดร้านอีกครั้งภายใต้การควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพและความเหมาะสม

“ฉันเฝ้ารอที่จะได้ต้อนรับลูกค้าอีกครั้งอย่างใจจดใจจ่อ” เธอกล่าวด้วยความตื่นเต้นยินดี “ฉันคิดถึงลูกค้ามาก!”

เช่นเดียวกับเพื่อนอีกคนของผมซึ่งเป็นผู้ประกอบการ ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบริษัทเทคโนโลยีรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้มีโอกาสกลับมาพบกับลูกค้าและนักลงทุนแบบตัวจริงเสียงจริงอีกครั้ง “การสร้างความสัมพันธ์เป็นเรื่องง่ายกว่ามากเมื่อคุณได้พบปะเจอหน้ากัน” เขาบอกผมขณะที่เรานั่งพูดคุยและจิบกาแฟกันเมื่อไม่นานมานี้ “ผมตื่นเต้นที่จะได้ออกไปทำสิ่งต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นอีกครั้ง”

สถาบันระดับโลกหลายแห่งได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ในเดือนมกราคม กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้เป็น 5.2% ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.8% จากเดือนตุลาคมปีที่แล้ว กองทุนฯ ได้ระบุถึงจีนและอินเดียว่าเป็นแรงขับเคลื่อนหลักสำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่ทำให้ผมมีความสุขมาก ในขณะเดียวกัน สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มูดีส์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนอาจฟื้นตัวได้เกินกว่าความคาดหมายในระยะเวลาอันใกล้นี้

ธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการทั่วประเทศจีนต่างรายงานถึงความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคกระตือรือร้นที่จะชดเชยเวลาที่หายไป และกลับออกไปเดินเล่นตามท้องถนนอีกครั้ง

จีนมีสถานะที่โดดเด่นในเศรษฐกิจโลก ทั้งในฐานะศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญ และตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ ด้วยประชากร 1.4 พันล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้มีรายได้ปานกลางมากกว่า 400 ล้านคน ทั้งนี้ การบริโภคมีส่วนสนับสนุนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของจีนอย่างมีนัยสำคัญ ก่อนการระบาดของโรคโควิด-19

รายงานการปฏิบัติงานของรัฐบาลได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวและการขยายตัวของการบริโภค นอกเหนือไปจากการเร่งปรับปรุงระบบอุตสาหกรรมให้ทันสมัย การปฏิรูปรัฐวิสาหกิจเชิงลึก ควบคู่ไปกับการสนับสนุนภาคเอกชนและธุรกิจเอกชน พร้อมทั้งเพิ่มความพยายามในการดึงดูดและใช้ประโยชน์จากการลงทุนจากต่างประเทศ

ความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการจ้างงาน

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงได้รับแรงผลักดันอย่างต่อเนื่อง โดยการดำเนินนโยบายที่มุ่งเน้นการเติบโตได้ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของตลาดแรงงาน

ปัจจัยต่าง ๆ เช่น ผลกระทบที่รุนแรงของโรคระบาด ส่งผลให้อัตราการว่างงานพุ่งสูงขึ้นและกลายเป็นหนึ่งในปัญหาเร่งด่วนที่สุดในหลายประเทศ รวมถึงอินเดียบ้านเกิดของผมด้วย

อย่างไรก็ตาม จีนยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างโอกาสในการจ้างงานแม้ว่าประเทศจะต้องเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ นานา

รายงานการปฏิบัติงานของรัฐบาลระบุว่า จีนจะดำเนินนโยบายที่เน้นการจ้างงานเป็นอันดับแรก และให้ความสำคัญมากขึ้นกับการจ้างงานคนหนุ่มสาว โดยเฉพาะผู้สำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัย ขณะประเทศกำลังฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่

ชาวจีนที่กำลังหางานต่างยินดีกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการกลับมาเปิดประเทศ บัณฑิตจบใหม่คนหนึ่งเล่าด้วยรอยยิ้มเต็มหน้าและดวงตาที่เปล่งประกายว่า เธอได้งานที่เป็นที่ต้องการอย่างมากในบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่ง

“ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ท้าทาย เราเผชิญกับความไม่แน่นอนและความวิตกกังวล” เธอกล่าว “แต่ด้วยการจัดการกับโรคระบาดอย่างยอดเยี่ยม และการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจ สถานการณ์กำลังดีขึ้น บริษัทต่าง ๆ เริ่มกลับมาจ้างงานอีกครั้ง แม้ว่าการแข่งขันจะอยู่ในระดับสูง แต่ฉันก็ยังมีความหวัง”

เรื่องราวของเธอไม่ได้พิเศษแตกต่างจากใคร เพราะขณะที่คุณเดินเตร็ดเตร่ไปตามถนนที่พลุกพล่านของกรุงปักกิ่ง เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะไม่เห็นป้ายโฆษณารับสมัครงานและบูธจัดหางานที่กระจายอยู่ตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ซึ่งจุดประกายความหวังและมุมมองที่เป็นบวกในกลุ่มผู้ที่กำลังหางาน

อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนลดลงสู่ระดับ 3% ในปีที่แล้ว ซึ่งชะลอตัวเล็กน้อย แต่สุขภาพพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศยังคงแข็งแกร่ง จุดเด่นประการหนึ่งคือราคาที่มีเสถียรภาพ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนกลับเพิ่มขึ้นเพียง 2% เมื่อเทียบกับในสหรัฐอเมริกาและยูโรโซนที่พุ่งขึ้นถึง 8% หรือสูงกว่านั้น

ในปีนี้ จีนกำหนดเป้าหมายการเติบโต CPI ไว้ที่ 3% ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประเทศในการรักษาอัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำ ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่มั่นคงสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และรักษาความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนทั่วไปในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาและในยุโรป อย่างไรก็ตาม ในปักกิ่ง ค่าใช้จ่ายรายวันของผมในช่วงสองสามปีที่ผ่านมายังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก ตัวอย่างเช่น แซนด์วิชที่ผมรับประทานทุกเช้ายังคงมีราคาอยู่ที่ราว 4 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 140 บาท) ไม่นับรวมค่าส่ง

(แฟ้มภาพซินหัว : ทิวทัศน์ย่านโฮ่วไห่ในเขตหนานซาน เมืองเซินเจิ้น มณฑลกว่างตงทางตอนใต้ของจีน วันที่ 17 ก.ย. 2020)

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนปลุกความหวังขึ้นทั่วโลก

ในขณะเดียวกัน บรรดาธุรกิจต่างชาติเตรียมพุ่งเป้าไปที่จีนอีกครั้ง ด้วยความเชื่อมั่นในระดับสูง และการวางแผนเพื่อที่จะขยายสาขา

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนได้รับความสนใจจากทั่วโลกอย่างกว้างขวาง สร้างความคึกคักในหมู่นักลงทุนต่างชาติ ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่มีกาใช้จริงขยายตัว 14.5% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 1.27 แสนล้านหยวน (ราว 6.42 แสนล้านบาท) ในเดือนมกราคม

ทั้งนี้ รายงานระบุว่ามีบริษัทจำนวนมากที่มุ่งใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจที่กว้างใหญ่และกำลังเติบโตของจีนบทความบนเว็บไซต์ “เดลีเทเลกราฟ” (Daily Telegraph) หนังสือพิมพ์ของสหราชอาณาจักรระบุว่า ตลาดจีนเป็น “หนึ่งในโอกาสการลงทุนที่น่าดึงดูดที่สุดในปีนี้”

หยิ่นเจิ้ง (Yin Zheng) รองประธานบริหารการดำเนินงานในประเทศจีนและเอเชียตะวันออกของบริษัท ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า จีนไม่ได้เป็นเพียงตลาดขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนการพัฒนาและเป็นแหล่งนวัตกรรมอีกด้วย

หลาย ๆ คนแสดงความรู้สึกส่วนตัวในทำนองเดียวกัน โดยผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจจำนวนมากต่างแสดงมุมมองเชิงบวกว่า ตอนนี้พวกเขาสามารถเดินหน้าแผนงานต่าง ๆ ในจีนได้แล้ว

ผู้บริหารคนหนึ่งพูดถึงความตื่นเต้นของตนเองที่มีโอกาสเปิดสำนักงานบริษัทอีกครั้งในเซี่ยงไฮ้ “เรารอช่วงเวลานี้มานาน” เขาบอกผม “เราพร้อมลุยแล้ว”

ไม่ว่าจะเป็นการปรับเป้าหมายใหม่เพื่อขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ หรือความสุขที่เรียบง่ายอย่างการกลับมาติดต่อเพื่อนร่วมงานและหุ้นส่วนได้อีกครั้ง สิ่งเหล่านี้บ่งชี้ว่ายุคใหม่ของการเติบโตและโอกาสได้เกิดขึ้นแล้ว

ในฐานะชาวต่างชาติที่เรียกประเทศจีนว่าบ้านมาเป็นเวลาหลายปี ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก ยิ้มกว้างด้วยความสุข และปรารถนาที่จะได้ใช้ชีวิตที่ผมรักและหวงแหนต่อไปในประเทศนี้ (ซินหัว)

Exit mobile version