โผล่มาอีกหลัง สำหรับกรณีค้างค่าเช่าบ้าน คราวนี้เป็นชาย ไม่จ่ายเงินร่วม 1 แสนบาท เจ้าของบ้านหมดหนทาง บอกไม่มีเงินจะเอาที่ไหนมาจ่าย และไม่ออกแน่นอน
จากกรณี เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 5.2 เผยแพร่เรื่องราวร้องเรียน ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน สุดทนกับพฤติกรรมคนเช่าบ้าน ไม่จ่ายค่าเช่าเป็นปี พอไล่ก็ไม่ยอมย้ายออก แถมท้าทายจะฟ้องเจ้าของบ้าน ข้อหาบุกรุกอีก พอตำรวจเรียกก็ไม่ไปไกลเกลี่ย ยังยืนยันจะอยู่แต่ไม่จ่ายค่าเช่า ตอนนี้ฟ้องไปแล้วก็แต่รอ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2565 นายเชษ อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่ากับข่าวสดออนไลน์ว่า คู่กรณีมาเช่าอยู่ที่บ้านย่านบางบอน สัญญาเริ่มขึ้นตั้งแต่ประมาณปี 2562 ค่าเช่าเดือนละ 8,500 บาท ในช่วงแรกคู่กรณีจ่ายค่าเช่าบ้านตามปกติ แต่ก็มีบางช่วงที่ล่าช้าไปบ้าง แต่ตนก็อะลุ่มอล่วยให้ เพราะเข้าใจว่าอาจจะประสบปัญหาทางด้านการเงินจาก โควิด-19
ต่อมาเดือนกุมภาพันธ์ 65 สัญญาเช่าบ้านสิ้นสุดลง แต่คู่กรณียังค้างค่าเช่าบ้านหลายงวด ตนจึงแจ้งว่าจะไม่ต่อสัญญาเช่าแล้ว และได้แนะนำให้ไปหาบ้านเช่าที่ราคาถูกกว่านี้ แต่ทางคู่กรณีไม่ตอบตกลง อ้างว่าถ้ามีเงินไปซื้อบ้านใหม่ และได้พูดคุยกับคนที่จะขายบ้านแล้ว ขอเวลาอยู่ที่เดิมต่ออีกสักพักแล้วจะย้ายออกไป
นายเชษ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนได้ติดตามทวงถามค่าเช่าบ้านมาโดยตลอด และบอกให้ย้ายออก แต่ทางคู่กรณี บอกว่า “มีปัญหาเรื่องการเงิน จะเอาที่ไหนมาจ่าย หาเงินไม่ทัน” จนกระทั่ง เดือนกรกฎาคม 65 ตนรู้สึกทนไม่ไหวแล้ว จึงให้ทนายความส่งใบแจ้งเตือนไปให้คู่กรณี และทำเรื่องฟ้องร้อง เพราะคู่กรณีค้างค่าเช่าบ้านแล้วเกือบ 1 แสนบาท
เมื่อทางคู่กรณีได้รับหนังสือแจ้งเตือน ก็โทรกลับมา บอกว่า “ถ้าจะทำแบบนี้ จะไม่รีบหาบ้านใหม่ ไม่รีบย้าย จะขออยู่แบบนี้” และพอตำรวจเรียกไปไกล่เกลี่ย ทางคู่กรณีอ้างว่าไม่ว่าง ให้ไปฟ้องร้องเอาเอง
นายเชษ กล่าวต่อว่า พอติดต่อไปบอกว่า ถ้ายังไม่ย้ายออก จะเข้าไปล็อกบ้าน คู่กรณีขู่ว่า “ถ้าเข้ามาจะฟ้องข้อหาบุกรุก” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกงงว่าทำไมคู่กรณี มีความรู้ทางกฎหมาย แต่ไม่มีจิตสำนึกหรือไม่ ถึงได้ใช้ความรู้มาเอาเปรียบคนอื่น ใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง
“อยากบอกคู่กรณีว่า สิ่งที่ทำมันไม่ถูกต้อง ทำให้คนอื่นเดือดร้อน อยากให้นึกถึงจิตใจคนเป็นเจ้าของบ้านบ้าง เพราะมีภาระเหมือนกัน แทนที่จะปล่อยบ้านให้คนอื่นเช่าหารายได้ต่อไป แต่ก็ยังทำไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เป็นบ้านของตัวเอง”