กิตตินันท์ นาคทอง Facebook.com/kittinanlive
หาดบางแสน เป็นชายหาดยอดนิยมในจังหวัดชลบุรี ด้วยความที่ใกล้กรุงเทพฯ ขับรถมาทางมอเตอร์เวย์เพียงแค่ชั่วโมงเศษๆ ก็ถึง จึงมีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่ขาดสาย โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์
แม้สถานการณ์โควิด-19 จะหนักหนาสาหัสเพียงใด แต่เมื่อถึงช่วงคลายล็อกเมื่อไหร่ หาดบางแสนจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ รถติดยาวเหยียดเป็นกิโลเมตร ทำเอาหลายคนที่เห็นภาพหวาดใจว่าจะ “การ์ดตก” ไหม?
คนที่มาเที่ยวบางแสนมีทั้งมาเล่นน้ำ มานั่งปิกนิกสังสรรค์กัน ที่ผ่านมาเทศบาลเมืองแสนสุข ภายใต้การนำของ นายกตุ้ย-ณรงค์ชัย คุณปลื้ม เป็นนายกเทศมนตรีคนปัจจุบัน ก็พยายามจัดระเบียบและฟื้นฟูสถานที่เป็นระยะ
สถานที่ยอดนิยมประกอบด้วย ชายหาดบางแสน มีความยาวตั้งแต่แหลมแท่นถึงวงเวียนบางแสน ตามมาด้วยหาดบางแสนล่าง หรือที่เรียกกันว่า หาดวอนนภา และด้านเหนือยังมี เขาสามมุข จุดชมวิวหาดบางแสนไกลสุดลูกหูลูกตา
นอกจากนี้ ย่านบางแสนยังมี ตลาดหนองมน แหล่งของฝากขึ้นชื่อจากภาคตะวันออก มี มหาวิทยาลัยบูรพา ที่มีแหล่งเรียนรู้อย่าง สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล และมีบ้านจัดสรรเกิดใหม่ ด้วยทำเลใกล้มอเตอร์เวย์ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
ปีนี้ผู้เขียนมาเยือนบางแสน 2-3 ครั้ง ได้มองเห็นความเปลี่ยนแปลงของหาดบางแสน ดูเหมือนว่าเทศบาลเมืองแสนสุข พยายามปรับภูมิทัศน์และบำรุงรักษาให้ทันสมัยอยู่เสมอ โดยเฉพาะหาดบางแสน หาดวอนนภา และแหลมแท่น
ขณะเดียวกัน ยังมีผู้ประกอบการสร้างแลนด์มาร์คใหม่ๆ เพื่อเป็นจุดขายดึงดูดนักท่องเที่ยว อย่างคาเฟ่ชื่อดังแถวเขาสามมุข ร้านขายราเม็งแถวหาดวอนนภา รวมทั้งยังมีสารพัดร้านกาแฟ ต้อนรับคอกาแฟที่มาเยือนอีกด้วย
แต่สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะแก้ไขได้ลำบาก คือ จิตสำนึกของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือน รวมทั้งบรรดาผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้าที่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ทำเอาชื่อเสียงของบางแสนมัวหมองไปไม่น้อย
เมื่อวันก่อน เพื่อนไปเที่ยวทะเลหลังสอบปลัดอำเภอเสร็จ ผู้เขียนตามไปสมทบหลังเลิกงาน มาถึงบางแสนก็ช่วงค่ำแล้ว หลังเช็กอินเก็บกระเป๋า ก็ไปดูบรรยากาศแถวๆ หาดวอนนภา เพราะอยากหาอะไรกินมื้อเย็นด้วย
แม้วันที่ไปจะเป็นวันธรรมดา แต่นักท่องเที่ยวกลุ่มวัยรุ่นมานั่งชิลล์ตามร้านอาหารจำนวนมาก ร้านที่กำลังนิยมในขณะนี้ คือร้านราเม็ง ที่จำลองบรรยากาศคล้ายกับประเทศญี่ปุ่น คิวจองโต๊ะเต็ม ต้องรอพนักงานโทร.เรียกถึงจะได้นั่ง
อีกด้านหนึ่ง บริเวณหาดวอนนภา ซึ่งทำที่นั่งแบบปูน พบว่าบรรดาผู้คนแห่ไปจองโต๊ะเพื่อนั่งแฮงเอาต์สังสรรค์กัน ใครไม่มีที่นั่งก็ไปนั่งริมเขื่อนติดทะเล นอกจากจะมีกลุ่มวัยรุ่นแล้ว ยังมีหนุ่มสาวโรงงานมานั่งสังสรรค์กันคึกคัก
ทราบมาว่าหลัง จากพวกเขาแฮงก์เอาต์กันแล้ว รุ่งเช้าจะมีขยะเต็มไปหมด นอกจากเศษถุงพลาสติก ขวด กระป๋องแล้ว ยังมีการจุดพลุดอกไม้ไฟ แล้วมีก้านดอกไม้ไฟทิ้งไว้เกลื่อนกลาดอีก
ส่วนโรงแรมที่บางแสนได้ชื่อว่าแพง ละแวกหาดบางแสนมีอยู่ 2 แห่ง แห่งหนึ่งเพื่อนบอกว่าแพงมาก คืนหนึ่งตกประมาณสองพันกว่าบาท อีกแห่งหนึ่งเป็นของ “บ้านใหญ่” ผู้กว้างขวางในตำนาน มีศูนย์ประชุมอยู่ในนั้นด้วย
ส่วนโรงแรมขนาดเล็ก หากตกแต่งแบบทันสมัยหน่อย ตกคืนละประมาณคืนละหลักพันบาท แต่ก็มีบ้างที่ลดราคาตามสภาพเศรษฐกิจ นอกนั้นจะเป็นที่พักขนาดเล็กราคาหลักร้อยบาท แต่ก็เป็นไปตามสภาพ
เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อนผู้เขียนลงมาจากต่างจังหวัดไปสอบปลัดอำเภอ หลังสอบเสร็จชวนไปเที่ยวทะเล เลือกไปบางแสนเพราะใกล้กรุงเทพฯ ปรากฏว่าไปได้โรงแรมแห่งหนึ่ง ลักษณะเป็นบ้านพักคล้ายบังกะโล แต่ดูทรงแล้วเหมือนบ้านพักข้าราชการ
ผู้เขียนตามไปสมทบหลังเลิกงาน นั่งรถมินิบัสจากท่ารถตู้บางนา ไปลงที่ตลาดหนองมน เพราะรถตรงไปทางสุขุมวิท ไม่เข้าบางแสน จากนั้นข้ามสะพานลอย ต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง มาเจอเพื่อนที่รอหน้าโรงแรมกับแฟน
ทีแรกเพื่อนรีเควสต์เตียงเสริม แต่เคาน์เตอร์เช็กอินชี้แจงว่า บ้านพักแคบ วางเตียงเสริมไม่ได้ (ซึ่งดูสภาพแล้วแคบจริง) เลยตัดสินใจเปิดบ้านหลังใหม่ที่อยู่ใกล้กัน เพื่อนพยายามปรามแต่เราบอกไม่เป็นไร เพราะจะได้เป็นส่วนตัวด้วย
รูดบัตรเครดิตไปประมาณ 1,500 บาทเศษ ไม่รวมอาหารเช้า พอไปเห็นสภาพบ้านจริง มองจากภายนอกน่าอยู่ แต่เข้ามาดูภายในดีหมด ที่เสียคือโคมไฟที่ถูกซ่อมด้วยสก็อตเทป ไฟบริเวณฝักบัวอาบน้ำไม่ติด แต่ยังมีไฟอ่างล้างหน้ามาช่วย
ตอนเช็กเอาต์แจ้งพนักงาน ได้คำตอบแต่เพียงว่า “ขออภัยด้วยนะคะ” ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้ซ่อมเสร็จหรือยัง
แต่ประสบการณ์มาเยือนบางแสนที่หนักกว่านี้ก็มี ครั้งหนึ่ง เพื่อนผู้เขียนชวนกันมานั่งรถเล่นเป็นเพื่อน สรุปว่าไปชลบุรี เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ก็เลยพาเพื่อนไปเที่ยวแกรนด์แคนยอนคีรี ก่อนจะไปหาอะไรกินที่หาดบางแสน
หลังจอดรถเสร็จ เราเดินดูเก้าอี้ชายหาดให้เช่า มีพ่อกับลูกสองคนเข้ามาที่เต็นท์ผ้าใบ 6 ที่นั่ง ได้ยินเสียงพ่อถามคนดูแลว่าเท่าไหร่ คนดูแลตอบว่า “400 บาท” เพื่อนได้ยินเข้า จึงเดินออกจากเต็นท์พร้อมกัน
เพื่อนบ่นกับเราว่า “แพงเชี่ยๆ” ไม่น่าเชื่อว่าราคาจะโหดขนาดนี้
ทีแรกว่าจะไม่เช่าเก้าอี้ แต่ระหว่างเดินออกมา เหลือบไปเห็นเก้าอี้แบบนั่ง 2 คน ถามว่าเท่าไหร่ เขาคิด 100 บาท ตกลงกันก็ เอาวะ ตกคนละ 50 บาท ไม่โหดเกินไป เลยนั่งตรงนี้ละกัน
แต่ยังไม่จบ มหกรรมการถูก “ฟันหัวแบะ” กำลังจะเกิดขึ้น
พ่อค้าส่งเมนูมาให้ดู เราเริ่มจากสั่งไก่ย่างจานใหญ่ไป แม่ค้าจากร้านยำคะยั้นคะยอขอให้สั่งยำ เราก็เลยเปลี่ยนเป็นไก่ย่างจานเล็ก แล้วสั่งยำทะเลรวมไป
ต่อมาพ่อค้าร้านปลาหมึกย่าง แกร้องขอด้วยความสงสารว่า “ช่วยอุดหนุนผมหน่อย วันนี้ยังขายไม่ได้เลย” ของแกเป็นปลาหมึกย่างครึ่งตัว 280 บาท บอกว่าเดี๋ยวให้เยอะ เราก็ตัดใจ เอาวะ สงสาร เลยอุดหนุนไปด้วยเลย
หลังสั่งอาหารเสร็จ แม่ค้าร้านยำเอาทิชชู่ม้วนมาวาง
เพื่อนบอกว่า “ไม่ฟรี…เดี๋ยวคอยดู”
เราขอตัวไปเข้าห้องน้ำแล้วกดเงิน เพราะเงินสดที่เตรียมไว้ไม่พอ สักพักกลับมา อาหารเสิร์ฟตรงหน้าแล้ว
จานแรก ยำวุ้นเส้นทะเลรวม 150 บาทก็จริง แต่ตอนคิดเงิน แม่ค้าชี้ไปที่กระดาษทิชชู่ บอก “รวมแล้ว 160 บาท” เราก็อึ้งไปสามวินาที ก่อนจะจ่ายเงินไปโดยดี ปรากฏว่ามีแต่เห็ดหูหนูขาว วุ้นเส้น หอมแดง กับปลาหมึกเท่านั้น
เพื่อนบ่นว่า “ทะเลรวมตรงไหน กุ้งสักตัวก็ไม่มี”
จานที่สอง ไก่ย่างโบราณ 160 บาท รสชาติธรรมดาแต่ก็ให้เยอะ ทานไม่หมด
จานที่สาม หมึกย่างครึ่งตัว 280 บาท อันนี้แพงสุด ปรากฎว่าแย่สุดกว่าเพื่อน เค็มมาก ปลาหมึกเหมือนไม่สด มีเมือกและคราบดำๆ ออกมา น้ำจิ้มซีฟู้ดก็จืดชืด จะเปรี้ยวก็ไม่เปรี้ยว จะเผ็ดก็ไม่เผ็ด ไม่มีรสอะไรโดดเด่นเลย
พอเพื่อนขอน้ำมะนาวเพื่อปรับรสเค็ม กลายเป็นน้ำมะนาวปลอมอีก บอกว่ารสเหมือนน้ำมะกรูด สรุปไม่ช่วยอะไรเลย
เรื่องอาหารแพง-ไม่แพงเป็นเรื่องที่วัดกันยาก ตราบใดที่ยังมีตัวเลือกที่ดีกว่า จึงมีวลีที่ว่า “ถูกใจไม่มีคำว่าแพง” ถ้าแพงแล้วได้ของดี อร่อยจริง คนพร้อมที่จะควักเงินจ่าย
แต่สำหรับคราวนี้ แพงไม่ว่า อาหารไม่ถูกปากอีกต่างหาก ต้องเหลือทิ้งอย่างน่าเสียดาย
ภายหลังมีข่าวออนไลน์จากสำนักหนึ่ง รายงานทำนองว่า แม่ค้าซีฟู้ดริมหาดบางแสนโอดครวญ ขายไม่ได้เพราะนักท่องเที่ยวเตรียมอาหารมากินจากบ้าน คาดว่าประหยัดในช่วงโควิด-19 วอนช่วยซื้อสักอย่าง
พอเพื่อนมาเห็นลิงก์ข่าว ก็คอมเมนต์ด้วยความหมั่นเขี้ยวว่า “ขออนุญาตพูดแบบไม่สุภาพนะครับ แพงไม่ว่า แต่รสชาติเ…ยหมาไม่แ…กจริงๆ” (ฮา)
คงต้องฝากนายกฯ ตุ้ยมาดูแลตรงนี้ เข้าใจว่าบางแสนยังมีปัญหาอีกเยอะ แต่ถ้าผลักดันเรื่องคุณภาพที่พักและอาหารได้ ต่อไปคนจะเชื่อถือบางแสนและมาเยือนซ้ำ กระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างยั่งยืน