Site icon บางแสน

เปิดแผนลับ! แม่ค้าใจเด็ดล่าโจรปลอมสลิปหลอกคนแก่ ด่าจบดันสงสารแถมเงินอีก 500 (คลิป)

831239

จากกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part5.2” แชร์คลิปเตือนภัย ชายหนุ่มปลอมสลิปต์โอนเงิน หลอกซื้อของเบียร์บุหรี่กับคนแก่ แล้วมานั่งดื่มเบียร์ริมชายหาดบางแสน

831239

วันที่ 21 ต.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณริมทะเลชายหาดบางแสน พบว่าในตอนค่ำคืนมีผู้คนมาใช้บริการทานอาหาร นั่งเล่นอยู่ริมทะเลกันจำนวนไม่น้อย พบว่ายังมีร้านค้าที่เปิดให้บริการในยามกลางคืนค่อนข้างหนาตา

นางสาวสุธาวัลย์ น้อยแผ้ว อายุ 34 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. ผู้ก่อเหตุขับรถมอเตอร์ไซค์ไปซื้อของที่ร้านขายของชำของแม่ยายตน ซึ่งเบียร์ 6 ขวด ขนมอื่น ๆ อีกครบราคา 500 บาท ตอนนั้นตนได้ยินเสียงผู้ก่อเหตุซื้อของ และพูดว่า “ผมโอนแล้วนะ” ซึ่งแม่ยายตนแก่แล้ว ก็คิดว่าโอนจริงแล้ว สามีตนสังเกตเห็นว่าผู้ก่อเหตุมีรอยสัก ขับรถจักรยานยนต์ msx สีดำ ทะเบียนบุรีรัมย์ จึงเดินออกมาเช็กมือถือ ปรากฏว่าไม่มียอดเงินเข้ามาในบัญชี รอนานกว่า 5-10 นาทีคิดว่าแอปฯอาจจะมีปัญหา แต่เงินก็ยังไม่เข้าบัญชี ตนและสามีจึงพยายามออกตามหา ตามริมชายหาดก็ไม่พบ จึงหวนกลับไปที่บ้านเพื่อเช็กมือถืออีกครั้ง ก็ยังไม่พบว่ามีเงินโอนเข้ามา

จากนั้นตนขับรถมอเตอร์ไซค์กับสามีออกตามหาทั่วริมชายหาดบางแสน จนกระทั่งมาเจอรถจักรยานยนต์ msx สีดำ ทะเบียนบุรีรัมย์ จึงลงเดินหาตามหา ก็เจอว่านั่งดื่มเบียร์อยู่ริมชายหาดกับเพื่อน สามีตนจำรอยสักที่แขนของผู้ก่อเหตุ เข้าไปสอบถามถึงสลิปต์โอนเงินที่เพิ่งซื้อของไป เพื่อนของผู้ก่อเหตุก็หนีหายหมด

ซึ่งตอนนั้นผู้ก่อเหตุทำทีเปิดมือถือเข้าแอปฯ ธนาคาร แต่ก็ไม่มียอดเงินที่โอน ตนขอดูรูปสลิปต์ในมือถือ กลายเป็นว่าเจอสลิปต์โอนเงินเต็มอัลบั้ม มีหลายธนาคาร และหลายยอดเงิน ขณะที่ผู้ก่อเหตุอ้างจะไปกดเงินให้ ตอนนั้นเลยรู้ตัวชัดเจนว่าถูกโกง และยอมรับว่าตอนนั้นโกรธมากที่เขาไปทำแบบนี้กับคนแก่ จึงมีการด่าทอตามที่ปรากฏในคลิป

สุดท้ายแล้ว ผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพ อายุ 23 ปี เพิ่งเรียนจบจาก จ.บุรีรัมย์ มาถึง จ.ชลบุรี และตั้งใจมาหางานทำ มีเงินติดตัว 30 บาท ตนจึงบังคับให้ผู้ก่อเหตุโทรหาแม่ตัวเองแล้วให้สารภาพผิด ตนก็ได้คุยกับแม่ผู้ก่อเหตุ เขาก็ขอโทษแทน แต่ไม่สามารถมาที่จ.ชลบุรี ได้เนื่องจากป่วยเดินไม่ไหว ด้วยความที่สงสารตนก็เคยลำบากมาก่อน ก็เข้าใจไม่อยากตัดอนาคตเด็ก สั่งสอนไปว่าอย่าทำแบบนี้กับใครอีก เพราะคนอื่นเขาหาเช้ากินค่ำ ลำบากกันหมดกว่าจะได้เงินมา ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ยกมือไหว้ขอโทษ ตนเลยตัดสินใจให้เงินสดผู้ก่อเหตุไปอีก 500 บาท เพราะหวังว่าเขาจะเอาเงินตรงนี้ไปซื้อข้าวกิน ก่อนจะเริ่มงานในวันที่ 4 พ.ย.65 ที่ตนยอมให้เงินไป เพราะเขาจะได้ไม่ต้องไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก ยอมปล่อยตัวไป โดยไม่มีการดำเนินคดี

สำหรับวัยรุ่นคึกคะนอง อยากให้ดูเป็นตัวอย่างว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ถ้าหากต้องการซื้ออาหารกิน ควรเลือกซื้อในราคาที่ตัวเองสามารถจ่ายได้ ไม่ใช่ใช้วิธีการได้มาซึ่งการหลอกลวงคนอื่นแบบนี้ กำไรจากการขายของก็ได้ไม่มาก เพราะต้นทุนก็ราคาสูง อยากให้ผู้ประกอบการค้าระมัดระวังการชำระเงินด้วยการโอนเงินของลูกค้า เพราะภัยอยู่รอบตัว

Exit mobile version